ในช่วงนี้เราได้เห็นข่าวหลุดของมือถือซีรีส์เรือธง Galaxy S21 ออกมาเรื่อยๆ แล้ว ไม่ว่าจะเป็นภาพเรนเดอร์, สเปคหน้าจอ+แบตเตอรี่ หรือจะเป็นฟีเจอร์สุดว้าวคือรองรับการใช้งานปากกา S Pen ด้วย และล่าสุดก็ได้มีข้อมูลชุดใหญ่ของมือถือซีรีส์นี้หลุดตามออกมาอีก เผยทั้งสเปคกล้องหลัง, หน้าจอ และสี และวัสดุของตัวเครื่องของทั้ง 3 รุ่น และอื่นๆ อีกเพียบ
สี และวัสุดตัวเครื่อง
มาเริ่มกันที่ข้อมูลสี และวัสดุของตัวเครื่อง Galaxy S21 ทั้ง 3 รุ่น กันก่อนเลย รุ่นท็อปอย่าง Galaxy S21 Ultra ในตอนเปิดตัวจะมีทั้งหมด 2 สี คือ Phantom Silver และ Phantom Black รุ่นกลาง Galaxy S21+ จะมีทั้งหมด 3 สี คือ Phantom Silver, Phantom Black และ Phantom Violet สุดท้ายคือน้องเล็ก Galaxy S21 จะมีให้เลือกเยอะสุด 4 สี คือ Phantom Violet, Phantom Gray, Phantom White และ Phantom Pink
Galaxy S21
นอกจากนี้สีของกรอบเครื่องจะแตกต่างกันออกไปด้วย อย่างเช่นฝาหลังสี Phantom Violet และ Phantom Pink จะมีกรอบเครื่องสีทองแดง หรือสี Phantom White จะมีขอบจอสีบรอนซ์ เป็นต้น
ส่วนวัสดุของฝาหลังรุ่นพี่ Galaxy S21 Ultra จะใช้วัสดุที่เป็นกระจก ในขณะที่รุ่นน้องเล็ก Galaxy S21 จะใช้วัสดุเป็นพลาสติก แต่สำหรับ Galaxy S21+ ในตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าจะใช้วัสดุแบบไหนกันแน่
Galaxy S21 Ultra
ชิปแบ่งเป็น 2 แบบเช่นเคย
ชิปที่ใช้ใน Galaxy S21 Series ก็ยังคงมาด้วยกัน 2 แบบแบ่งตามโซนประเทศที่วางจำหน่าย คือชิป Snapdragon 875 ของ Qualcomm และชิป Exynos 2100 ที่ Samsung พัฒนาเอง โดยชิปทั้ง 2 รุ่นนี้ ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่มีวงในออกมาบอกว่า Exynos 2100 จะมีประสิทธิภาพในการจัดการพลังงานได้ดีกว่าเดิม ทำให้การใช้งานแบตเตอรี่อึดขึ้น และทุกรุ่นจะรองรับการใช้งาน 5G ด้วย (ยังไม่มีข้อมูลว่าจะมีการผลิตรุ่นที่รับเฉพาะ 4G ออกมาด้วยหรือไม่) แถมรุ่นท็อปอย่าง Galaxy 21 Ultra จะรองรับการใช้งาน WiFi 6E ที่ Samsung เคลมว่าเร็วกว่า WiFi 6 ราวๆ 2 เท่าเลยทีเดียว
แบตเตอรี่
สำหรับแบตเตอรี่ของซีรีส์ Galaxy S21 จะยังคงไม่ต่างไปจากซีรีส์ Galaxy S20 มากนัก โดยน้องเล็ก S21 จะมีแบตเตอรี่ขนาด 4000 mAh, Galaxy S21+ มีแบตเตอรี่ขนาด 4800 mAh และรุ่นท็อป Galaxy S21 Ultra จะให้มาที่ 5000 mAh
ทุกรุ่นจะรองรับระบบชาร์จไวอย่างน้อยที่ 25W ส่วนความเร็วในการชาร์จสูงสุดในตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลออกมา (แต่มีข่าวลือออกมาว่าจะรับได้สูงสุดที่ 66W)
หน้าจอ
Galaxy S21 จะมีหน้าจอขนาด 6.2 นิ้ว ส่วน Galaxy S21+ มีขนาด 6.7 นิ้ว มีความละเอียด FHD+ และรองรับรีเฟรชเรท 120Hz ทั้งคู่ ส่วนรุ่นท็อป Galaxy S21 Ultra จะมีจอขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด WQHD+ และใช้จอแบบ LTPO ที่สามารถปรับค่ารีเฟรชเรทได้อัตโนมัติตามการใช้งานได้ที่ 1Hz – 120Hz ทำให้ประหยัดแบตเตอรี่ลงไปได้มากกว่าจอปกติ แถมยังเร่งความสว่างได้สูงสุดถึง 1600 nits มีค่า Contrast ที่ 3,000,000:1
และที่เด็ดสุดคือ Galaxy S21 Ultra จะรองรับการใช้งาน S Pen ตามข่าวหลุดก่อนหน้านี้ด้วย แต่ว่าจะไม่มีแถมมาให้ในกล่อง และตัวเครื่องจะไม่มีช่องเก็บปากกาเหมือนกับซีรีส์ Galaxy Note นะครับ เพราะทาง Samsung จะทำเคสที่มีช่องเก็บปากกา S Pen ออกมาขายนั่นเอง
กล้องหลัง 108MP พร้อมเลนส์ซูม 10x Optical
สำหรับสเปคกล้องหลัง Galaxy S21 และ S21+ ตามข้อมูลบอกว่าจะยังคงมีสเปคคล้ายๆ ซีรีส์ S20 ประกอบด้วยกล้องหลัก 12MP + กล้อง Telephoto 64MP + กล้อง Ultrawide 12MP ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีสเปคแบบละเอียดออกมาว่าเซ็นเซอร์แต่ละตัวจะต่างกับซีรีส์ที่แล้วมากน้อยแค่ไหน
แต่สำหรับรุ่นท็อปอย่าง Galaxy S21 Ultra จะได้รับการอัปเกรดสเปคกล้องขึ้นมาพอสมควรเลย ไม่ว่าจะเป็นกล้องหลัก 108MP ที่ใช้เซ็นเซอร์รุ่น 2 จาก S20 Ultra และ Note 20 Ultra + กล้อง Ultrawide 12MP + กล้อง Telephoto 3x Optical + กล้อง Telephoto 10x Optical + Laser autofocus นอกจากนี้เราจะได้เห็นการกลับมาของฟีเจอร์ 100x Space Zoom อีกครั้ง
ฟีเจอร์กล้องที่มากขึ้น
สเปคกล้องดีขึ้นก็แน่นอนว่าฟีเจอร์ในการถ่ายภาพและวิดีโอก็ต้องดีขึ้นเช่นกัน
- สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K / 60fps ได้จากกล้องทุกตัว จากรุ่นก่อนๆ ที่ทำได้เฉพาะกล้องหลักเท่านั้น
- ระบบกันสั่น Super Steady จะใช้งานกับการถ่ายแบบ 60fps ได้ด้วย
- กล้องปรับค่าเฟรมเรท 30fps / 60fps ได้อัตโนมัติตามสภาพแสง
- ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 8K 30fps จากรุ่นก่อนได้แค่ 24fps
- ถ่ายวิดีโอกล้องหน้าและหลังพร้อมกันแบบ Side by side, Picture in picture หรือจะแยกเป็น 2 ไฟล์เลยก็ได้
- ปรับปรุง Night mode ให้เลือกตั้งค่าแบบ Manual ได้มากขึ้น
- Moon mode (ถ่ายพระจันทร์) ที่สามารถล็อคภาพดวงจันทร์ไว้ในเฟรมได้ด้วยการใช้ระบบกันสั่น EIS
เทคโนโลยี Ultra Wide Band สำหรับใช้งานกับอุปกรณ์ SmartThings
Galaxy S21+ และ S21 Ultra จะรองรับเทคโนโลยี Ultra Wide Band (UWB) เพื่อใช้งานคู่กับ SmartThings tag ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำหรับใช้ติดตามตำแหน่ง (ตัวอย่างเช่นติดไว้กับกระเป๋าตังค์ พอกระเป๋าหายก็ใช้มือถือที่รองรับ UWB ในการระบุตำแหน่งได้) นอกจากนี้ Samsung ยังจะใส่ฟีเจอร์ Digital car keys ให้กับมือถือ 2 รุ่นนี้ด้วย แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าจะมีรถแบรนด์อะไร รวมถึงประเทศไหนบ้างที่รองรับการใช้งานเทคโนโลยีดังกล่าว
สุดท้ายยังมีข่าวลือออกมาอีกด้วยว่า Samsung อาจจะพิจารณาลดราคาของมือถือซีรีส์ Galaxy S21 ให้ถูกลง เพื่อแข่งขันในตลาดมือถือที่ค่อนข้างซบเซาจากสถานการณ์โรคระบาดในปัจจุบันนั่นเอง…และหากว่าข่าวลือก่อนหน้านี้ที่บอกว่ามือถือ Galaxy S21 จะเปิดตัวเร็วกว่าปกติ คือวันที่ 14 มกราคม 2021 เป็นจริง ก็เท่ากับว่าเหลือเวลาอีกแค่ราวๆ 2 เดือนเท่านั้น เราก็จะได้เห็นมือถือรุ่นนี้เปิดตัวมาเรียกเสียงว้าวกันแล้วครับ
ที่มา : Androidpolice
ไปซ่อม s20 fe ก่อนไหม?
รอดูเคส s-pen ถ้าทำออกมาดีคงน่าสนกว่าNoteเพราะไม่กินพื้นที่ในเครื่อง แค่คงไม่พรีเพราะยังไม่ไว้ใจ Exynos อยู่ดี(ถ้ากล้าขายในหลีไม่เหมือนงวดNoteก็อาจเบาใจได้หน่อย) ประหยัดพลังงานความร้อนดีขึ้นแต่ก็อาจจะยังอยู่ในระดับที่ไม่น่าพึงพอใจได้อยู่ กลัวเรื่องอัด clock เร่งตัวเลขอวดว่าแซง snap นี่ละ อยากให้ชนะที่ความร้อนกับการกินไฟมากกว่า อย่างน้อยตอนใช้งานปกติกินไฟน้อยความร้อนต่ำกว่า แต่ไม่มีหน่วงเหมือนสมัยก่อนได้ก็ยังดี
เมื่อไหร่จอโค้งจะหมดไป !!! มือเราก็อ้วนด้วย 555