หลังจากไม่กี่สัปดาห์ก่อน เราได้มีบทความเปรียบเทียบสเปคของ Galaxy Tab S7 และ Tab S7+ กันไปแล้วว่านอกจากขนาดและชนิดของหน้าจอ แท็บเล็ตทั้งคู่มีจุดเหมือน หรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง วันนี้เราเอาแท็บเล็ตซีรีส์ Galaxy Tab S7 รุ่นใหม่นี้ ไปวัดกับรุ่นเก่าอย่าง Galaxy Tab S6 กันบ้างดีกว่าว่าตอนนี้รุ่นไหนคุ้มค่าคุ้มราคากว่ากัน เลือกรุ่นใหม่ไปให้จบๆ หรือรุ่นเก่ายังพอไหวอยู่ อีกทั้งจะนำตัวท็อปจากฝั่งผลไม้อย่าง iPad Pro เจ้าพ่อทุกสถาบันของวงการแท็บเล็ต มาเปรียบเทียบแถมด้วยอีกรุ่นเลย
หน้าจอ 60Hz vs 120Hz
แท็บเล็ตทั้งหมดที่ผมนำมาเปรียบเทียบนั้น ต่างมาพร้อมกับหน้าจอที่มีค่ารีเฟรชเรท 120Hz ด้วยกันทั้งหมด จะมีเว้นก็แต่ Galaxy Tab S6 ที่ยังเลือกใช้หน้าจอแบบ 60Hz อยู่
แต่ถ้ามองในเรื่องของความละเอียดหน้าจอ (และหน้าจอ) ตรงนี้บอกเลยว่าแท็บเล็ตทั้งหมดที่นำมาเทียบสเปคกัน แทบจะไม่มีรุ่นไหนที่ดี-ด้อยต่างจากกันเท่าไหร่เลย อัดสเปคมาให้แบบจัดเต็มด้วยกันทั้งหมด
- Galaxy Tab S7+ ใช้หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 12.4″ ความละเอียด 2800 x 1752 ค่ารีเฟรชเรท 120Hz
- Galaxy Tab S7 ใช้หน้าจอ LPTS LCD ขนาด 11″ ความละเอียด 2560 x 1600 ค่ารีเฟรชเรท 120Hz
- Galaxy Tab S6 ใช้หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 10.5″ ความละเอียด 1600 x 2560 ค่ารีเฟรชเรท 60Hz
- iPad Pro ใช้หน้าจอ IPS LCD ขนาด 12.9″ ความละเอียด 2048 x 2732 ค่ารีเฟรชเรท 120Hz
ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลของแต่ละคนแล้วล่ะครับว่าอยากได้หน้าจอแท็บเล็ตของตัวเองเป็นแบบไหน อีกทั้งชอบหน้าจอขนาดเท่าไหร่ บางคนอาจจะชอบใหญ่ๆ เต็มตา แต่บางคนอาจจะชอบแบบเล็กๆ พกพาสะดวก แต่ทั้งสี่ถือว่ามีขนาดจอที่ค่อนข้างใหญ่พอตัวเลยนะ ขนาด 10 นิ้วบวกกันทั้งนั้น ซื้อมาใช้จริงๆ ก็ใส่กระเป๋า หรือถืออยู่ดี ไม่น่าจะใส่กระเป๋ากางเกงได้ ฮ่าๆ
ขนาด และน้ำหนักตัวเครื่อง
ส่วนเรื่องขนาด และน้ำหนักตัวเครื่องอันนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญมากๆ เพราะสำหรับบางคนต้องใช้แท็บเล็ตทำงาน ถือใช้งานทั้งวัน ต่ำๆ ก็วันละหลายๆ ชั่วโมง หากซื้อมาใช้งานเครื่องนึงแต่หนักเกินแรง มีหวังปวดแขนทุกเย็น รู้ตัวอีกทีกล้ามแขนก็น่าจะโตแบบโตมากๆ (ส่วนข้างที่ไม่ได้ถือก็ลีบเหมือนเดิม 😂)
- Galaxy Tab S7+ มีขนาดตัวเครื่อง 285 x 185 x 5.7 มม. หนัก 575 กรัม
- Galaxy Tab S7 มีขนาดตัวเครื่อง 253.8 x 165.3 x 6.3 มม. หนัก 498 กรัม
- Galaxy Tab S6 มีขนาดตัวเครื่อง 244.5 x 159.5 x 5.7 มม. หนัก 420 กรัม
- iPad Pro มีขนาดตัวเครื่อง 280.6 x 214.9 5.9 มม. หนัก 641 กรัม
ชิปเซ็ตเรือธงปี 2019 vs 2020
เรื่องความแรงบอกเลยว่าแท็บเล็ตทั้ง 4 รุ่นนี้หายห่วงมากๆ เพราะต่างมาพร้อมกับชิประดับเรือธงอย่าง Snapdragon 865+ (Tab S7+ และ S7), Snapdragon 855 (Tab S6) และ Apple A12Z Bionic (iPad Pro) ตัวแรงทั้งหมด โดยชิปทั้งสามต่างผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 7 นาโนเมตรด้วยกันทั้งหมด ประสิทธิภาพความแรง การประหยัดพลังงาน น่าจะไม่หนีกันมาก เผลอๆ เอามาใช้งานจริงๆ แทบจะไม่เห็นความแตกต่างเลยก็ได้
แต่ถ้าใครอยากได้ของใหม่ๆ ยังไงก็ต้องจัด Galaxy Tab S7+ หรือ S7 ไปแหละ เพราะยังไง Snapdragon 865+ ก็ย่อมดีกว่า 855 ธรรมดาอยู่แล้ว หรือใครชอบแรงๆ ก็ต้องมองไปที่ iPad Pro เลย เนื่องจากชิป A12Z Bionic ตัวนี้นี่แหละ ที่ครองที่หนึ่งชิปแรงที่สุดของชาร์ต AnTuTu Benchmark โดยกวาดคะแนนไปได้ถึง 7 แสนกว่าๆ เรียกว่าแรงกว่า A13 Bionic บน iPhone 11 Pro Max อยู่ราวๆ 2 แสนแต้มเลยทีเดียว
แบตเตอรี่ และระบบชาร์จไว
ถ้าว่ากันตามหน้าสเปคกระดาษ ในส่วนนี้ Galaxy Tab S7+ ได้เปรียบแบบเต็มประตู เพราะอัดแบตเตอรี่มาให้มากถึง 10090 mAh เรียกว่าใช้งานได้เพลินๆ ทั้งวันทั้งคืน แบตไม่หมด (เผลอๆ ลากยาวหลายวันยังทำได้😂) ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการที่ใช้ด้วยนะ ความจุแบตต่างกัน แต่ถ้าระบบของอีกฝั่งทำออกมาดีกว่า แบตก็อยู่ได้นานกว่า แต่ถ้าวัดตามหน้าสเปคก็ตามด้านล่างเลย…
- Galaxy Tab S7+ ความจุแบตเตอรี่ 10090 mAh รองรับชาร์จไว 45W
- Galaxy Tab S7 ความจุแบตเตอรี่ 8000 mAh รองรับชาร์จไว 45W
- Galaxy Tab S6 ความจุแบตเตอรี่ 7040 mAh รองรับชาร์จไว 15W
- iPad Pro ความจุแบตเตอรี่ 9720 mAh รองรับชาร์จไว 18W
อุปกรณ์เสริม
แท็บเล็ตตระกูล Galaxy Tab ที่นำมาเปรียบเทียบในครั้งนี้ ต่างมีปากกา S-Pen แถมมาให้ตั้งแต่ในกล่องด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ต้องเสียเงินซื้อเพิ่ม แต่ในฝั่งของ iPad Pro นั้น ผู้ใช้งานจำเป็นต้องเสียเงินซื้อเจ้าดินสอ Apple Pencil รุ่นสองเพิ่ม มูลค่ากว่า 4,490 บาท ซึ่งตรงนี้ปากกา S-Pen ของ Galaxy Tab S7+ และ Apple Pencil ของ iPad Pro ต่างมีค่า Latency ที่น้อยมากๆ แค่ 9ms เท่านั้น เรียกว่าความรู้สึกแทบจะไม่ต่างอะไรกับการเขียนลงกระดาษจริงๆ เลย ไม่มีดีเลย์
แต่ถ้าพูดถึงเรื่องเคสคีย์บอร์ด อันนี้ทั้งหมดต้องซื้อแยกต่างหาก ซึ่งราคาก็มีดังนี้
- Galaxy Tab S7+ เคสคีย์บอร์ดราคา 6,590 บาท
- Galaxy Tab S7 เคสคีย์บอร์ดราคา 5,990 บาท
- Galaxy Tab S6 เคสคีย์บอร์ดราคา 4,590 บาท
- iPad Pro เคสคียบอร์ดราคา (Magic Keyboard) 11,690 บาท (รุ่น 11 นิ้วราคา 9,990 บาท)
โดยสาเหตุที่ Magic Keyboard ของ iPad Pro นั้น มีราคาที่ค่อนข้างสูง ก็เป็นเพราะเจ้าคีย์บอร์ดรุ่นนี้มากับกลไลกรรไกรที่มีการขยับปุ่มขึ้น-ลงที่ระยะ 1 มิลลิเมตร เพื่อการพิมพ์ที่เงียบ และตอบสนองได้เป็นอย่างดี แถมยังมีดีไซน์ยกลอยปรับเอนได้อีกด้วย ปรับองศาในการใช้งานได้ตามใจชอบ อยากได้มุมไหน มองจอแบบไหนแล้วถนัดที่สุด ฯลฯ
สรุปซื้อรุ่นไหนดี
Galaxy Tab S7+ | Galaxy Tab S7 | Galaxy Tab S6 | iPad Pro | |
หน้าจอ | Super AMOLED 12.4″ ความละเอียด 2800 x 1752 รีเฟรชเรท 120Hz | LTPS LCD 11″ ความละเอียด 2560 x 1600 รีเฟรชเรท 120Hz | Super AMOLED 10.5″ ความละเอียด 2560 x 1600 ค่ารีเฟรชเรท 60Hz | IPS LCD 12.9″ ความละเอียด 2732 x 2048 ค่ารีเฟรชเรท 120Hz |
ชิปเซ็ต | Snapdragon 865+ | Snapdragon 855 | Apple A12Z Bionic | |
RAM | 6GB / 8GB | 6GB | ||
ความจุ | 128GB / 256GB / 512GB | 128GB / 256GB | 128GB / 256GB / 512GB / 1TB | |
กล้องหลัง | Wide 13MP f/2.0 + Ultra-Wide 5MP f/2.2 + LED Flash | Wide 12MP f/1.8 + Ultra-Wide 10MP f/2.4 + LiDAR | ||
กล้องหน้า | 8MP f/2.0 | 7MP f/2.2 | ||
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, BT 5.0 | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, BT 5.0 | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, hotspot, BT 5.0 | |
เซ็นเซอร์ | Fingerprint (ใต้หน้าจอ), accelerometer, gyro, proximity, compass | Fingerprint (ด้านข้าง), accelerometer, gyro, proximity, compass | Fingerprint (ใต้หน้าจอ), accelerometer, gyro, proximity, compass | Face ID, accelerometer, gyro, proximity, barometer |
5G | รองรับ | ไม่รองรับ | ไม่รองรับ | ไม่รองรับ |
ค่า Latency ของปากกา | 9ms | 26ms | 59ms | 9ms |
ลำโพง | 4 ตัว | |||
แบตเตอรี่ | 10090 mAh รองรับชาร์จไว 45W | 8000 mAh รองรับชาร์จไว 45W | 7040 mAh รองรับชาร์จไว 15W | 9720 mAh รองรับชาร์จไว 18W |
ระบบปฏิบัติการ | Android 10 ครอบด้วย One UI | Android 9 Pie ครอบทับด้วย One UI | iPadOS 13.4 | |
น้ำหนัก | หนัก 575 กรัม | 498 กรัม | หนัก 420 กรัม | 641 – 643 กรัม |
ทั้งหมดนี้จะเห็นว่า Galaxy Tab S7+, S7, S6 และ iPad Pro มีสเปคที่ไม่หนีกันเลย ผลัดกันแพ้-ชนะ มีจุดเด่น-ด้อยที่ต่างกัน จะมีที่ต่างกันเห็นได้ชัดก็คือเรื่องของ “ราคา” นี่แหละ ซึ่งราคาของแท็บเล็ตทั้ง 4 รุ่นก็มีดังนี้
- Galaxy Tab S7+
- LTE ราคา 33,900 บาท
- 5G ราคา 39,900 บาท
- Galaxy Tab S7
- WiFi ราคา 22,900 บาท
- LTE ราคา 26,900 บาท
- Galaxy Tab S6
- WiFi (128GB) ราคา 21,900 บาท
- LTE (128GB) ราคา 25,900 บาท
- LTE (256GB) ราคา 28,900 บาท
- iPad Pro
- รุ่น 11 นิ้ว
- ความจุ 128GB ราคา 27,900 บาท
- ความจุ 256GB ราคา 31,400 บาท
- ความจุ 512GB ราคา 38,400 บาท
- ความจุ 1TB ราคา 45,400 บาท
- รุ่น 12.9 นิ้ว
- ความจุ 128GB ราคา 34,900 บาท
- ความจุ 256GB ราคา 38,400 บาท
- ความจุ 512GB ราคา 45,400 บาท
- ความจุ 1TB ราคา 52,400 บาท
- รุ่น 11 นิ้ว
ขออนุญาตเสริมในส่วนของราคา Keyboard Cover ของ Tab S7 นะครับ
ของ Tab S7 ราคา 5990 ส่วน Tab S7+ ราคา 6590 ครับผม
ขอบคุณสำหรับข้อมูลในส่วนนี้นะครับ 😀
เปรียบเทียบได้ดีมากๆ
ยุคโควิด ทนใช้ไอแพด 7 ต่อไป
ผมว่าการพยายามยกชูให้แทบเล็ตมาแทนโน๊ตบุ๊ค เป็นความฝืนมากไป
การทำให้ใหญ่ขึ้นๆ ดูค้านความรู้สึกผมมาก
ในฐานะที่ใช้ iPad G7 อยู่ถ้าย้อนเวลาได้ ยังอยากกลับไปเอา mini เลย
ส่วนในด้านการใช้งาน แม้ผมจะเป็นสาวกแอนดรอยด์ แต่ถ้าเป็นงานเฉพาะด้าน
พวกงานดนตรี งานระบบเสียง อันนี้ต้องยอม iPad ด้วยแอปที่เหนือกว่า
สู้ ipad pro ไม่ได้เลย ทั้งสเปค ทั้งแอพ
แก้เรื่องคะแนนหน่อยครับ ไม่ได้ทิ้งห่างแค่ 2หมื่นคะแนน ทิ้งไป 2แสนคะแนนเลยครับ
แก้ไขแล้วคร้าบ ขอบคุณครับผม 😀
ที่แพ้ขาดแบบไม่เห็นฝุ่นคือ accessory ที่แตกต่าง
ipad pro มี case folio keyboard ที่ราคาไม่แพงเท่า magic keyboard อีกด้วย
นี่ยังไม่นับรวมของ 3rd party อีก
ส่วนตัวเคยใช้ tab s2 – s6 มาก่อน ซื้อมาใช้ไม่นานก็ขาย และเฝ้ารอรุ่นที่ดีสมใจ มันก็ไม่มีสักที
ตอนนี้เปลี่ยนมาใช้ ipad pro แล้ว รู้สึกว่าได้ใช้ยาวแล้ว มันลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ 555
หลุดพ้นแล้ว
อยากรู้ว่าอันไหนคือสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้แอพบนแท็บเล็ต Android ถึงด้อยกว่าบน iPad ระหว่าง
ทาส s pen
ไม่ชอบกะต้องใช้ ห่วยกะต้องใช้
ใช้งาน cap จอ เขียนจอ
Pdf
แปล eng to thai
ไม่วาดรุป หรือ เลคเชอ
S pen ยังตอบโจทย์ กว่า pencil
Capจอ เขียนจอ ไม่คล่อง เลย
งาน pdf ย่อขยาย แยกนิ้วกะปากกาไม่ได้
(ผมอาจจะไม่รู้จักแอป ที่ทำได้ดีกว่า s penเอง)