ถ้าพูดถึงการ์ดจอแรงๆ ชั่วโมงนี้คงไม่มีใครไม่พูดถึง RTX 5090 ที่เพิ่งเปิดตัวไป ผลการทดสอบจากหลายสำนักยืนยันว่าประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นจาก RTX 4090 จริง แม้จะไม่ได้กระโดดแบบตอนเปลี่ยนจาก RTX 3090 Ti มา RTX 4090 แต่จุดเด่นของ RTX 5090 ไม่ได้อยู่ที่พลังดิบเพียงอย่างเดียว เพราะระบบประมวลผล AI และ DLSS 4.0 นั้นช่วยเพิ่มเฟรมเรตได้มากถึง 4 เท่า ทำให้เหมาะสำหรับทั้งสายเกมและสายงานประมวลผลระดับสูง

แน่นอนว่า ความแรงระดับนี้ต้องแลกมาด้วยการกินไฟที่มากขึ้น ค่า TDP ขยับจาก 450W ใน RTX 4090 เป็น 575W ทำให้หลายคนสงสัยว่าการกินไฟจริงที่เต้ารับจะขนาดไหน วันนี้ทาง Igor’s Lab ทดสอบมาให้แล้ว พบว่าในการใช้งานจริง RTX 5090 สามารถดึงไฟพุ่งสูงสุดได้ถึง 901.1W (ในเวลาสั้น ๆ น้อยกว่า 1 ms)

  • 627.5W ใน 10-20 ms
  • 738.2W ใน 5-10 ms
  • 823.6W ใน 1-5 ms
  • 901.1W ใน <1 ms

ตัวเลขที่ได้จากการทดสอบแสดงให้เห็นถึงการกระชากพลังงานแบบ Power Excursion ซึ่งแม้จะเกิดในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็อาจสร้างปัญหาให้กับ PSU รุ่นเก่าที่ไม่รองรับ ATX 3.1 โดยเฉพาะในกรณีที่ระบบป้องกันไฟเกิน (OCP) ตัดการทำงาน ทั้งนี้ตัวเลขเหล่านี้ยังอยู่ในกรอบมาตรฐาน ATX 3.1 ที่ให้การ์ดจอดึงพลังงานได้สูงสุดถึง 1200W ในช่วงเวลาสั้นๆ ดังนั้น ใครที่ใช้ PSU รุ่น ATX 2.51 หรือรุ่นเก่ากว่านั้น อาจจะต้องอัปเกรดอุปกรณ์เพื่อรองรับการใช้งาน RTX 5090 ได้อย่างราบรื่น

แล้วถ้า Overclock จะกินไฟขนาดไหน?

นอกจากนี้ยังมีผลทดสอบจากคุณ Tony Yu ของ ASUS China ที่ได้นำ RTX 5090D มาทำการ Overclock แล้วเพิ่มด้วย Liquid Nitrogen โดย OC GPU Clock ขึ้นไปถึง 3.39GHz และ Memory Speed เพิ่มเป็น 34Gbps ทำให้ Bandwidth ทะลุ 2.176TB/s ผลคือ สร้างสถิติใหม่ใน Benchmark หลายรายการ

ในด้าน Benchmark การ Overclock ครั้งนี้ยังทุบสถิติเดิมไปหลายรายการ เช่น

  • 3DMark Time Spy Extreme: คะแนน Graphic Score 30,270
  • Port Royal: คะแนน 43,372 สูงกว่า RTX 3090 Ti สองใบรวมกัน
  • Fire Strike Ultra: คะแนน 36,884 แรงกว่า GTX 1080 Ti 4 ใบ SLI

ถ้ารวมทั้งเครื่องที่ใช้ทดสอบก็ใช้พลังงานสูงถึง 1760W กันเลยทีเดียว ใครที่คิดจะเล่นการ์ดจอ RTX 5090 นี่ต้องเตรียม PSU และระบบไฟบ้านให้พร้อมด้วยแล้วกัน

ถ้าสเปคเต็มจะกินไฟโหดขนาดไหน

นอกจากนี้ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับต้นแบบ RTX 5090 ที่เขาลือว่ามันคือ RTX 5090 Ti เพราะสเปคที่หลุดมานั้นจัดเต็มยิ่งกว่า RTX 5090 รุ่นที่เปิดตัวมานี้ โดยจะใช้โค้ดเนม GB202-200-A1 ซึ่งยังคงเป็นชิปรุ่นเดียวกับ RTX 5090 แต่มีการเพิ่มจำนวน Streaming Processors (SP) จาก 170 เป็น 192 และ CUDA Core จาก 21,760 หน่วย เป็น 24,576 หน่วย เพิ่มขึ้นถึง 13%

นอกจากนี้ยังมีการปรับ Clock Speed ให้สูงขึ้น โดย Base Clock อยู่ที่ 2,100 MHz และ Boost Clock สูงถึง 2,514 MHz ซึ่งช่วยยกระดับประสิทธิภาพการประมวลผล FP32 จาก 104.9 TFLOPS ใน RTX 5090 มาเป็น 123.6 TFLOPS ตัวเลขนี้ถือว่าเยอะมากและใกล้เคียงกับการ์ดระดับ Workstation อย่าง Quadro

ในส่วนของหน่วยความจำ RTX 5090 Ti มาพร้อม RAM ขนาด 32GB GDDR7 อินเทอร์เฟซหน่วยความจำแบบ 512-bit และ Bandwidth ที่ทะลุ 1.7TB/s รองรับทั้งการเล่นเกมและการทำงานหนักๆ เช่น AI และการเรนเดอร์กราฟิก

แน่นอนว่าความแรงระดับนี้ย่อมแลกมาด้วยการกินไฟที่มหาศาล โดย TGP ของการ์ดรุ่นนี้คาดว่าจะเพิ่มจาก 575W ใน RTX 5090 มาอยู่ที่ 800W และอาจต้องการหัวจ่ายไฟแบบ 12V 2×6 ถึงสองชุด ซึ่งนับว่าสูงมากสำหรับการ์ดจอเพียงใบเดียว ใครคิดจะใช้การ์ดรุ่นนี้ต้องเตรียม PSU ขนาด 1500W หรือมากกว่านั้น

จากภาพหลุดในฟอรั่ม Chip Hell มีข้อมูลว่าการ์ดรุ่นนี้ใช้การออกแบบคล้าย RTX 5090 แต่เพิ่มจำนวนชิปหน่วยความจำ GDDR7 ที่ล้อมรอบ GPU ถึง 16 ชิป ซึ่งอาจเปลี่ยนไปใช้ชิป 3GB ต่อหน่วยในอนาคตเพื่อเพิ่มความจุโดยไม่กินพื้นที่เพิ่ม นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่า NVIDIA อาจใช้ชื่อ Titan RTX Blackwell แทนชื่อ RTX 5090 Ti เพราะการ์ดในซีรีส์ Titan มักเน้นเจาะตลาดครีเอเตอร์และผู้ใช้งานในสายงานมืออาชีพ โดยอาจมีการเพิ่ม RAM เป็น 48GB เพื่อรองรับงานด้าน AI และการประมวลผลกราฟิกระดับสูง

แม้ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเรื่องวันเปิดตัว แต่หลายฝ่ายคาดว่า RTX 5090 Ti หรือ Titan RTX Blackwell อาจเปิดตัวในช่วงปลายปี 2025 หรือไตรมาสแรกของ 2026 เพื่อเป็นรุ่นปิดท้ายของซีรีส์ RTX 50 ซึ่งคาดว่าจะสร้างมาตรฐานใหม่ทั้งในด้านประสิทธิภาพและการบริโภคพลังงาน ใครที่กำลังเล็งการ์ดจอรุ่นนี้คงต้องเตรียมงบประมาณและอุปกรณ์เสริมไว้ให้พร้อม เพราะความแรงระดับนี้ไม่ได้มาแบบราคาประหยัดอย่างแน่นอน!

ที่มา : pcworld videocardz techpowerup