Google เพิ่ม 8 ฟีเจอร์ใหม่บน Android ช่วยเหลือการเข้าถึงของผู้พิการ ใช้ AI อธิบายวัตถุ, นำทางด้วยเสียงบน Maps

สัปดาห์นี้เรียกได้ว่าเป็นสัปดาห์ของ Google เลยก็ว่าได้ อย่างก่อนหน้านี้ Google ก็ได้เพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่น่าใช้มาก ๆ ไปแล้ว และล่าสุดก็ได้ปล่อยเพิ่มอีก 8 ฟีเจอร์ใหม่ที่จะมาช่วยเหลือการเข้าถึงที่ขับเคลื่อนด้วยพลัง AI ทั้ง Look to Speak ใช้สายตาเพื่อส่งข้อความสื่อสาร, มีการขยาย Project Gameface ไปสู่การใช้งานด้านอื่น ๆ, การใช้ Google Maps สำหรับผู้พิการ

8 ฟีเจอร์ใหม่บน Android สำหรับผู้พิการ

1.ใช้ AI ช่วยค้นหาสิ่งของรอบตัวหรือถ่ายภาพด้วยแอป Lookout

สำหรับผู้พิการทางสายตา หรือว่าผู้ที่มองเห็นได้ไม่ชัด สามารถใช้กล้องมือถือเพื่อค้นหาสิ่งของรอบตัวได้ผ่านฟีเจอร์ Find mode บนแอป Lookout เลย เรียกได้ว่าเป็นวิธีใหม่ที่จะค้นหาวัตถุเฉพาะ โดยจะมีรายการให้เลือก 7 หมวดหมู่ อย่างพวก ห้องน้ำ หรือ โต๊ะเก้าอี้ เมื่อผู้ใช้งานแพลนกล้องไปรอบ ๆ ห้อง Lookout จะแจ้งเตือนทิศทางและระยะทางของวัตถุ

และเมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้มีฟีเจอร์ AI สร้างคำบรรยายรูปภาพ ใช้งานทั่วโลกเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งถ้าเราถ่ายรูปด้วยแอปนี้ AI ก็จะเจนคำบรรยายบรรยากาศหรือวัตถุในภาพให้ ทำให้ผู้พิการทางสายตาสามารถเข้าถึงสิ่งเหล่านั้นได้มากขึ้น

2.text-free mode บนแอป Look to Speak

สำหรับผู้พิการทางการพูด ไม่สามารถใช้เสียงในการสื่อสารได้ ก็สามารถใช้แอป Look to Speak ช่วยได้ โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกประโยคล่วงหน้า, ปรับได้คำ ผ่านการใช้สายตามอง ซึ่งตอนนี้แอปได้ออกฟีเจอร์ใหม่อย่าง text-free mode ก็คือเลือกปรับแต่ง emojis, สัญลักษณ์ หรือรูปภาพต่างเพื่อให้ออกมาเป็นเสียงพูดได้

3.hands-free cursor สำหรับนักพัฒนา Android

ถ้ายังจำกันได้ เมื่อปีก่อน Google ได้เปิดตัว Project Gameface ที่เป็นเมาส์สำหรับผู้พิการ ควบคุมด้วยการเคลื่อนไหวศีรษะ และการขยับใบหน้า และในสัปดาห์นี้ นักพัฒนาจะสามารถเข้าถึง Project Gameface สำหรับอุปกรณ์ Android ผ่าน Github

ด้วยความช่วยเหลือในการเข้าถึงการบริการสำหรับ Android และ Google MediaPipe ที่นักพัฒนาสามารถสร้างแอปที่ทำให้ผู้ใช้งานปรับแต่งการแสดงสีหน้า, ขนาดของท่าทาง, ความเร็วของ cursor เป็นต้น ผ่านการร่วมมือกับ Incluzza ซึ่งเป็นกิจการเพื่อสังคมในอินเดียที่สนับสนุนผู้พิการ ทำให้ทาง Google ได้รู้ว่าจะขยาย Project Gameface ไปสู่การใช้งานในด้านอื่น ๆ ได้

4.การรับข้อมูลการเดินทางอย่างละเอียดผ่าน Google Maps

สำหรับผู้พิการทางสายตาหรือผู้ที่มองเห็นไม่ชัด เวลาจะไปไหนทีก็จะมีความยุ่งยากลำบางอยู่บ้าง ซึ่ง Google Maps ได้เตรียมขยายความสามารถการนำทางด้วยเสียงและการอ่านหน้าจอบนแอปของอุปกรณ์ Android และ iOS ทั่วโลกในทุกภาษาที่รองรับ โดยมีรายละเอียดการใช้งาน ดังนี้

ฟีเจอร์การอ่านหน้าจอบน Google Maps – แอปจะอ่านชื่อของสถานที่และประเภทของสถานที่ที่อยู่รอบตัวผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็น ตู้ ATM, ร้านอาหาร หรือ สถานีรถไฟ ว่าอยู่ไกลแค่ไหนเพื่อที่จะได้วางแผนและตัดสินใจการเดินทาง
ฟีเจอร์การนำทางด้วยเสียง – ระบบจะมีการแจ้งเตือนผู้ใช้งานตลอดเวลาว่าเรากำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางไหน ถูกต้องตามที่ปักหมุดหรือไม่

5.ขยายการเข้าถึงข้อมูลไปสู่อุปกรณ์ประเภทต่าง ๆ ใช้ Google Maps ง่ายขึ้น

ก่อนหน้านี้ Google Maps ได้มีการบอกรายละเอียดประเภท ห้องน้ำ, ที่จอดรถ หรือ ที่นั่งสำหรับผู้พิการ ผ่านมือถือทั้ง Android และ iOS ซึ่งตอนนี้ได้เตรียมขยายการใช้งานไปยัง Desktop ซึ่งผู้ใช้งานก็สามารถค้นหาข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นนี้ได้ในหลาย ๆ อุปกรณ์เลย อีกทั้งตอนนี้ถ้าใช้งานบนมือถือก็สามารถคัดกรองรีวิวเพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าถึงของรถเข็นผู้พิการได้ด้วย

6.ค้นหาสถานที่ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ช่วยฟังได้

สำหรับผู้พิการทางการได้ยินที่ต้องใช้เครื่องช่วยฟัง เวลาไปสถานที่ต่าง ๆ แล้วมีการประกาศข่าวสารก็อาจทำให้ได้ยินไม่ถนัด อยากจะให้เจ้าของธุรกิจทั้งหลายเพิ่ม Auracast attribute ลงไปในโปรไฟล์ธุรกิจ ซึ่ง Auracast จะช่วยให้ผู้พิการทางการได้ยินสามารถเข้าถึงเสียงประกาศตามสถานที่ต่าง ๆ ได้ ด้วยการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth เข้ากับเครื่องช่วยฟัง หรือหูฟังที่รองรับ

7.ปรับแต่งแอป Project Relate

เมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา google ได้เปิดตัวแอป Project Relate ซึ่งเป็นแอปที่จะช่วยให้ผู้ที่สื่อสารลำบากหรือว่าพูดไม่ชัดได้สื่อสารกับคนรอบข้างได้เข้าใจมากขึ้น ซึ่งตัวแอปจะมีโมเดลสำหรับจดจำเสียงที่ผู้ใช้งานสร้างขึ้นมา โดยได้มีการอัปเดต Custom Cards ทำให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งคำเพื่อที่จะเทรนโมเดลให้เข้าใจคำสำคัญมากขึ้น

8.ออกแบบแอป Sound Notifications ใหม่

Sound Notifications เป็นแอปที่จะคอยแจ้งเตือนเมื่อมีเสียงเกิดขึ้นในบ้าน เช่น เสียงกระดิ่งจากประตูบ้าน หรือเสียงจากเครื่องตรวจจับควันดังขึ้นมา ใช้งานสำหรับผู้พิการทางการได้ยิน ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว แอปก็จะแจ้งเตือนเราด้วยการสั่นมือถือ หรือกะพริบปฟลชที่กล้อง และตอนนี้ได้มีการออกแบบ Sound Notifications ใหม่ด้วยฟีดแบคการใช้งานจากผู้ใช้งานจริง จะได้ง่ายต่อการบันทึกเสียงที่กำหนดเอง