จบกันไปแล้วสำหรับงาน Launch Night In เมื่อคืนที่ผ่านมา นอกจาก Google จะเปิดตัวมือถือ 2 รุ่นอย่าง Pixel 5 และ 4a 5G พร้อมทั้ง Chromecast with Google TV กันไปแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์น่าสนใจอยู่อีก 1 ชิ้น นั่นก็คือ Nest Audio ลำโพงอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ยังคงคอนเซปต์เป็นอุปกรณ์เน้นการเข้าถึง Google Assistant เช่นเคย แต่คราวนี้จัดเต็มเรื่องคุณภาพเสียง โดยใส่ทั้งมิดวูเฟอร์และทวีตเตอร์มาให้ในตัว แถมยังมีฟีเจอร์เด็ด ๆ มาให้อีกเพียบ โดยเปิดราคามาประมาณ 3,200 บาท
รูปร่างหน้าตาของ Nest Audio อาจจะดูแปลกตาสักหน่อยหากเทียบกับลำโพงทั่ว ๆ ไป เพราะมันดูคล้ายกับก้อนสบู่ยักษ์ที่ถูกจับมาวางตั้งก็ไม่ปาน วัสดุโดยรวมยังคงเป็นพลาสติกที่มีการหุ้มด้วยผ้าทับอีกที ซึ่งดูเหมือน Google จะยังคงพอใจกับการออกแบบและเลือกใช้วัสดุในลักษณะนี้อยู่ จึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปจากรุ่นก่อน ๆ มองแวบเดียวก็รู้ได้ทันทีว่า นี่คือลำโพงจาก Google
ในคราวนี้ Google ได้ให้ความสำคัญกับ Nest Audio เป็นพิเศษในเรื่องของเสียงและการฟังเพลง ชูจุดเด่นหลัก ๆ 3 อย่าง คือ เบสหนัก เสียงดัง และมีความคมชัด โดยมีการใส่ทวีตเตอร์ (tweeter) ขนาด 19 มิลลิเมตร และมิดวูเฟอร์ (mid-woofer) ขนาด 75 มิลลิเมตร แยกมาให้ต่างหาก สำหรับขับทั้งเสียงสูงและเสียงต่ำโดยเฉพาะ ซึ่ง Google เคลมว่า Nest Audio มีเบสที่หนักแน่นขึ้น 50% และมีเสียงที่ดังขึ้น 75% เมื่อเทียบกับ Google Home รุ่นแรก
เราสามารถจับคู่ Nest Audio จำนวน 2 ตัวเข้าด้วยกันเพื่อใช้งานเป็นลำโพงสเตอรีโอแยกเสียงซ้ายและขวาได้ หากมีเจ้านี่ตั้งอยู่หลายจุดภายในบ้านก็สามารถสั่งงานให้เล่นเพลงในห้องที่กำหนดได้ในทันที เช่น ตัวเราอยู่ที่ห้องครัว แต่สั่งงานให้ Nest Audio เล่นเพลงที่ห้องนั่งเล่น เป็นต้น หรือแม้แต่จะสั่งให้ Nest Audio ทุกตัวในบ้านเล่นเพลงพร้อมกันในคราวเดียวก็ทำได้เช่นกัน
ความสามารถหลัก ๆ และความฉลาดของ Nest Audio มาจาก Google Assistant ที่รองรับการใช้งานได้หลากหลายมาก ๆ เช่น สั่งให้เล่นเพลงจากแอปต่าง ๆ สั่งให้อ่านหนังสือเสียงให้ฟัง ดูแลกิจวัตรประจำวันให้เราโดยการแจ้งเตือนถึงกำหนดการและสภาพอากาศ มีความสามารถในการแปลภาษา ทำตัวเป็นดิกชันนารี ช่วยคิดเลข ไปจนถึงตรวจสอบผลการแข่งขันฟุตบอลย้อนหลัง และอื่น ๆ อีกเพียบจนยกมาบอกไม่หวาดไม่ไหวเลยทีเดียว
ที่เจ๋งคือ Nest Audio มีฟีเจอร์ที่ชื่อว่า Voice Match ซึ่งสามารถจดจำและแยกแยะอัตลักษณ์เสียงจากผู้ใช้งานแต่ละคนได้ ทำให้เวลาเราสั่งงาน Nest Audio จะรู้ได้ทันทีว่าใครเป็นใคร มีประโยชน์สำหรับบ้านหรือออฟฟิศที่มีผู้ใช้งานหลาย ๆ คน ยกตัวอย่าง หากเราเป็นคนสั่งให้ Nest Audio เล่นเพลงในเพลย์ลิสต์ YouTube Music มันก็จะเล่นเพลงตามเพลย์ลิสต์ของเรา ไม่ใช่ของคนอื่น ๆ ในบ้าน อะไรทำนองนี้ และด้วยไมโครโฟนระยะไกลที่ใส่มาถึง 3 ตัว ทำให้เราสามารถสั่งงานด้วยเสียงจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องตะโกนให้เจ็บคอ
ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งของ Nest Audio ก็คือ การทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการรับคำสั่งเสียงเพื่อควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮมชิ้นอื่น ๆ ในบ้าน เช่น ควบคุมหลอดไฟหรือโคมไฟตามห้องต่าง ๆ สั่งให้เปิดและปิดในทันทีหรือแบบกำหนดเวลา สั่งให้หรี่แสง อะไรเหล่านี้เป็นต้น แต่ทั้งนี้อุปกรณ์สมาร์ทโฮมก็ต้องรองรับการใช้งานกับ Google Assistant ด้วยนะ ถึงจะใช้งานได้
สำหรับใครที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความเป็นส่วนตัวก็ไม่ต้องกังวล เพราะบริเวณด้านหลังตัวเครื่องจะมีปุ่มสำหรับปิดการทำงานของไมโครโฟนอยู่ โดย Nest Audio รองรับการเชื่อมต่อผ่านทั้ง Wi-Fi 2.4 GHz, 5 GHz และ Bluetooth มีสีให้เลือกมากถึง 5 สี ในโทนพาสเทล ได้แก่ สีเขียว Sage, สีชมพู Sand, สีฟ้า Sky, สีเทา Chalk และสีดำ Charcoal
Nest Audio จะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ มีราคาอยู่ที่ 99.99 เหรียญ หรือตีเป็นเงินไทยประมาณ 3,200 บาท ถ้าซื้อมาใช้งานแค่ตัวเดียวก็ถือเป็นราคาที่น่าสนใจดี แต่ถ้าจะซื้อ 2 ตัว เพื่อใช้งานเป็นลำโพงสเตอรีโอก็อาจต้องนั่งคิดนิดนึงกับราคาราว 6,400 บาท
ที่มา : Google
สีสันสวยงามดีค่ะ และดูจะเป็นของตั้งโชว์ได้เลย