ตามรายงานจาก Counterpoint Research พบว่าโทรศัพท์ Google Pixel ยังคงเติบโตในญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง และมีส่วนแบ่งตลาดประจำไตรมาสเดือนมิถุนายน 2023 เพิ่มขึ้นเป็น 12% เรียกว่างานนี้ทำเอายอด iPhone ลดลงฮวบ ๆ เลยนะเนี่ย

Bloomberg รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจาก Counterpoint Research พบว่าส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟน Google Pixel ในประเทศญี่ปุ่น ประจำไตรมาส 2 เดือนมิถุนายน 2023 คิดเป็น 12% เพิ่มขึ้นมาจนน่าทึ่ง เพราะก่อนหน้านี้ Pixel ทำได้เพียง 2% เท่านั้นในไตรมาส 2 ปี 2022 แต่ประเด็นที่น่าสนใจอยู่ตรงนี้ กลายเป็นว่าส่วนแบ่งตลาด iPhone ของ Apple ในช่วงเวลาเดียวกันก็ลดลงจาก 58% เหลือ 46% ต่ำกว่า 50% เป็นครั้งแรกในรอบสองปีเลยนะ 😮

ในไตรมาสที่ 1 มีรายงานว่าประเทศญี่ปุ่นกลายเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับโทรศัพท์ Google Pixel ไปแล้วด้วย และนั่นคือช่วงที่ Pixels คิดเป็นสัดส่วนเพียง 9% ของตลาดเท่านั้น

ต้องบอกก่อนว่าญี่ปุ่นเป็นอีกประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียวไม่ว่าจะด้านอุตสาหรรม อาหาร หรือด้านอื่น ๆ ก็ยังมีชื่อเสียงเรียงนาม ที่สำคัญก่อนหน้านี้ iPhone ยังสามารถทำส่วนแบ่งตลาดในญี่ปุ่นได้อย่างดี แต่ในปัจจุบันกลับไม่เป็นอย่างนั้นดูท่าแล้วแนวโน้มสำหรับผู้ใช้ iPhone อาจมีการเปลี่ยนแปลงลงเรื่อย ๆ

ความผันผวนของค่าเงิน หรือ iPhone ไม่มีอะไรให้ว้าว !

นักวิเคราะห์มองว่าเงินเยนมีบทบาทสำคัญในการกำหนดว่าใครจะได้รับส่วนแบ่งที่มากขึ้นจากหนึ่งในตลาดสมาร์ทโฟน รวมไปถึงเงินเยนที่อ่อนค่าลงไปทำให้เกิดความผันผวน แถม iPhone มีส่วนแบ่งลดลงเนื่องจากมีการปรับราคาขายในประเทศเพิ่มขึ้น

และในขณะเดียวกันส่งผลให้ยอดขาย Pixel ดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่นี่ก็ไม่ใช่แค่แบรนด์ Google Pixel ที่เป็นเพียงสมาร์ทโฟน Android อย่างเดียวที่มีการเติบโตตาม Sharp นะคะ ยังมีการเติบโตของแบรนด์อื่น ๆ อย่าง Sony ด้วยเช่นกัน ซึ่ง Pixel เพิ่มขึ้นจาก 8% เป็น 11% และ Sony เพิ่มขึ้นจาก 5% เป็น 6% Samsung อยู่ที่ 6% ในขณะที่ Oppo ลดลงจาก 6% เหลือ 5%

โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมจาก Google เห็นได้ชัดว่ามาจากอุปกรณ์ Pixel A-Series รวมถึง Pixel 6a และ Pixel 7a ที่มีราคาไม่แพงมากนักเมื่อเปรียบเทียบกับ iPhone นอกจากนี้ทำให้นักท่องเที่ยวจากประเทศที่ไม่ได้วางขาย Pixel ก็ต้องการเครื่องหิ้วจากญี่ปุ่นด้วยนั่นเองค่ะ และถ้าให้เรามองดูจะได้เห็นได้ชัดว่าการเปิดตัว iPhone 15 ซีรีส์ล่าสุดของ Apple ไม่ได้มีอะไรใหม่มากจนเราต้องว้าว จึงเป็นอีกเหตผลให้ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมือถือบ่อย ๆ

Play video

ที่มา : bnnbloomberg, 9to5google