จบกันไปแล้วเรียบร้อยสำหรับงาน Google Fall Event ที่สาวกหุ่นกระป๋องหลายคนรอคอยการเปิดตัว Pure Android สมาร์ทโฟนเลือดบริสุทธิ์จาก Google + LG และ Huawei อย่าง Nexus 5X และ Nexus 6P ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการล่าสุด Android 6.0 (Marshmallow) แต่เนื่องจากสเปคของทั้งสองรุ่นนั้นไม่ได้แตกต่างจากที่หลุดมาก่อนหน้าสักเท่าไหร่ เราจึงขอสรุปให้คร่าวๆ แล้วเน้นรวมฟีเจอร์ที่เปิดตัวมาพร้อมกับเจ้า Nexus ทั้ง 2 รุ่นกัน

1. Design เน้นความเรียบง่ายสไตล์ Nexus

แม้ว่าจะเปลี่ยนเจ้าผลิตทุกปีแต่ก็ยังคงความ Nexus เน้นเรียบง่าย ไม่หวือหวา โดยครั้งนี้ Huawei รับหน้าที่ดูแลเจ้า Nexus 6P ซึ่งเป็นรุ่นแรกในตระกูล Nexus ที่ใช้โลหะเป็นวัสดุตัวเครื่อง ส่วนหน้าจอใช้กระจก Corning Gorilla Glass 4 และแม้ว่าขนาดหน้าจอจะใหญ่ 5.7 นิ้ว แต่ตัวเครื่องนั้นมีขนาดพอๆ กับสมาร์ทโฟนทั่วไป เน้นความเพรียวบาง มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว, สีเงิน, และสีดำ

ส่วน Nexus 5X นั้นได้ LG ผู้ดูแลซึ่งความต่างของการออกแบบทั้งสองรุ่นอยู่ที่ฝาหลังและวัสดุ ซึ่งรุ่นนี้คาดว่าน่าจะใช้พลาสติกเป็นวัสดุ ส่วนหน้าจอใช้กระจก Corning Gorilla Glass 3  และมีจุดเด่นอยู่ที่น้ำหนักเบาเพียง 136 กรัม มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว, สีดำ, และสีฟ้า ทั้งนี้ด้วยสีและสไตล์ของผู้ผลิต Nexus 5X จะดูน่ารัก ส่วน Nexus 6P จะดูเรียบหรู 😀

 

2. กล้อง เน้นถ่ายภาพสวยในที่แสงน้อย

สำหรับฟีเจอร์กล้องหลักทั้ง Nexus 5X และ Nexus 6P ได้มาเท่ากันเกือบทุกอย่างทั้งความละเอียด 12.3 ล้านพิกเซล, รูรับแสง F/2.0, Laser Focus Detect Auto Focus ช่วยให้จับโฟกัสวัตถุได้เร็วขึ้น 

และด้วยพิกเซลขนาด 1.55 μm ที่ใหญ่กว่า iPhone 6s (1.22 μm) และรุ่นพี่อย่าง Nexus 6 (1.12 μm) ซึ่งเคลมว่าเม็ดพิกเซลขนาดใหญ่นี้จะช่วยให้ได้ภาพที่สวยคมขึ้น เก็บรายละเอียดได้มากขึ้น รวมถึงช่วยในเรื่องการถ่ายภาพในที่แสงน้อย ซึ่งภาพตัวอย่างก็บอกชัดมากเลย ดีในที่แสงน้อยจริงๆ พอมีแสงนี่… ^^”

นอกจากนี้ทั้ง Nexus ทั้ง 2 รุ่นก็ยังได้ความสามารถในการถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K และฟีเจอร์การถ่ายวิดีโอแบบ Slow-mo ซึ่ง Nexus 6P จะสามารถถ่ายได้ 240 fps ส่วน Nexus 5X ถ่ายได้ 120 fps  

มาดูข้อแตกต่างสำหรับฟีเจอร์กล้องกันบ้างดีกว่าค่ะ ซึ่ง Nexus 6P จะมีฟีเจอร์ที่เป็นกิมมิคเล็กน้อยคือ สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องแบบเบิร์ดช็อตรัวๆ แล้วประมวลผลเป็นภาพต่อเนื่อง 30 fps ได้ และอีกหนึ่งข้อแตกต่างคือความละเอียดกล้องหน้าซึ่ง Nexus 6P ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับ HDR Plus ส่วน Nexus 5X นั้นได้เซนเซอร์ความละเอียดน้อยกว่าคือ 5 ล้านพิกเซล

 

3. USB Type-C + Fast Charge

เจ้า Pure Android ทั้ง 2 รุ่นนี้กำลังจะมาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับเหล่าแอนดรอยด์รุ่นอื่นๆ ในเรื่องของพอร์ท USB ที่เปลี่ยนมาใช้เป็น USB Type-C และมาพร้อมกับระบบ Fast Charge ซึ่งเคลมว่าชาร์ตเพียง 10 นาทีก็สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 7 ชั่วโมงสำหรับ Nexus 6P และ 4 ชั่วโมงสำหรับ Nexus 5X

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยดูแลเรื่องแบตเตอรี่ซึ่งมาพร้อมกับ Android OS 6.0 (Marshmallow) ตัวล่าสุดอย่าง

  • Speed Indicator : ที่ช่วยจะช่วยคำนวนเวลาชาร์ตแบตว่าใช้เวลาอีกเท่าไหร่แบตเตอรี่จะชาร์ตเต็ม

  • Doze Mode : เมื่อใช้ระบบนี้จะช่วยในประหยัดแบตเตอรี่และสามารถใช้งานได้นานขึ้น 30%

 

4. Nexus Imprint ระบบสแกนลายนิ้วมือที่รวดเร็วและปลอดภัย

Nexus 5X และ Nexus 6P ถือว่าเป็น Pure Android 2 รุ่นแรกที่มีระบบสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งครั้งนี้ก๋เหมือนเป็นการแนะนำตัว Nexus Imprint ครั้งแรกว่ามีความสามารถอะไรบ้าง โดยรวมก็ไม่ได้แตกต่างจากระบบสแกนลายนิ้วมือทั่วๆ ไป คือสามารถสแกนได้รวดเร็วและช่วยในเรื่องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล รวมถึงสามารถใช้จ่ายผ่านระบบ Android Pay ได้โดยการนำเครื่องไปแตะแล้วสแกนลายนิ้วมือด้านหลัง (เอ๊ะ คุ้นๆ) 😀 เพิ่มเติม เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือสามารถสแกนแล้วใช้งานได้เลย โดยไม่ต้องกดเปิดหน้าจอก่อนค่ะ 

 

5. Android Sensor Hub ช่วยตรวจจับความเคลื่อนไหว

Nexus 5X และ Nexus 6P จะมาพร้อมกับ Android Sensor Hub ช่วยจับการเคลื่อนไหว เมื่อเวลาเราหยิบมือถือขึ้นมาหน้าจอก็จะตื่นขึ้นมาในโหมด Ambient Display แสดงเวลาและ Notification ต่างๆ ซึ่งช่วยในการประหยัดแบตเตอรี่

 

6. ระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุด Android 6.0 (Marshmallow)

Nexus 5X และ Nexus 6P  เป็น 2 รุ่นแรกที่ได้กินขนมหวานชิ้นใหม่ล่าสุดอย่าง Marshmallow หรือ Android OS 6.0 ซึ่งก็มีการแก้ Bug, ลด Pre-Loaded Application, เพิ่มระบบแจ้งเตือนความปลอดภัย (Run-time Permission) อีกชั้น เช่น ก่อนการใช้งานแอปพลิคชั่น หากแอปฯ ต้องการเข้าถึงข้อมูลที่อยู่ก็จะมีการแจ้งเตือนเพื่อขออนุญาตอีกครั้ง จากที่แต่ก่อนที่มีการแจ้งเตือนได้เพียงครั้งเดียวก่อนโหลดแอปฯ และมีการเปลี่ยนแปลง UX เช่น การผลุบโผล่ของหน้าต่างแอปซึ่งเมื่อกดเปิดก็จะโผล่ออกมา เมื่อปิดแอปก็จะผลุบลงด้านล่าง และมีการปรับปรุง Heads-up Notification เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน นอกจากนี้แน่นอนว่าก็มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ตามนี้เลย

  • Fast Scrolling and Search : เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการค้นหาแอปในเครื่อง เวลาเลื่อนก็จะมีตัวอักษรขึ้นเรียงตาม A – Z รวมถึงมีแท็บด้านบนที่จะเรียงแอปตามการใช้งานบ่อยๆ ในช่วงเวลานั้นขึ้นให้ด้วยค่ะ
  • Voice Interaction : เพิ่มความสามารถในการสั่งงานด้วยเสียงให้รวดเร็วและสะดวกขึ้น และยังสามารถสั่งงานได้แม้ว่าจะอยู่ในหน้าต่างของแอปพลิเคชั่นอื่นๆ แต่ทั้งนี้ก็ต้องเป็นแอปฯ ที่นักพัฒนาเขียนมาให้รองรับกับการใช้งานฟีเจอร์นี้ด้วยนะคะ
  • Now on Tap : มีการปรับเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาของ Google Now ซึ่งมีการจัดเรียงแอปพลิเคชั่นของ Google ไว้เป็นแท็บทางลัดเพื่อความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น เพิ่มเติม สามารถใช้งานด้วยคำสั่ง OK Google เพื่อหาข้อมูลได้ขณะใช้งานแอปพลิเคชั่นอื่นๆ อยู่ นอกจากนี้ยังสามารถกดปุ่มโฮมค้างแล้ว Google ก็จะจัดการหาข้อมูลตามที่เราต้องการหรือแชทค้างไว้ได้ด้วย

คลิปเปิดตัว Nexus 5X

Play video

คลิปเปิดตัว Nexus 6P

  Play video

นี่ก็เป็นการสรุปฟีเจอร์คร่าวๆ ของ Nexus 5X และ Nexus 6P แบบเรียกน้ำย่อยค่ะ สำหรับข้อมูลราคาและการรับประกันจากทาง Google และข้อมูลสเปคแบบละเอียดก็มีเขียนไว้แล้วสามารถคลิกไปอ่านได้เลยค่ะ หากมีรายละเอียดส่วนไหนผิดพลาด หรืออยากจะแจ้งข้อมูลในส่วนที่ตกหล่นสามารถคอมเมนท์บอกได้เลยนะคะ 😀

 

Source : Nexus 5XNexus 6PandroidGoogleblog