หุ้นของ Hewlett Packard Enterprise (HPE) ดิ่งลง 19% ในการซื้อขายหลังเวลาทำการ หลังจากบริษัทประกาศแนวโน้มกำไรที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด แม้รายได้ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2025 จะเติบโต 16% ก็ตาม
HPE รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกสิ้นสุดเดือนมกราคม โดยมีรายได้รวม 7,854 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิตามมาตรฐาน GAAP อยู่ที่ 598 ล้านดอลลาร์ และรายได้ต่อเนื่อง 12 เดือน (ARR) เพิ่มขึ้น 45% แตะ 2.1 พันล้านดอลลาร์

ผลการดำเนินงานของแต่ละกลุ่มธุรกิจ
- ธุรกิจเซิร์ฟเวอร์: รายได้ 4,290 ล้านดอลลาร์ เติบโต 29% โดยเฉพาะเซิร์ฟเวอร์ AI ที่มีคำสั่งซื้อรวม 3.1 พันล้านดอลลาร์ อันเป็นผลจากความต้องการจีพียู Blackwell ของ NVIDIA ที่เพิ่มขึ้น
- ธุรกิจ Intelligent Edge: รายได้ลดลง 5% อยู่ที่ 1,146 ล้านดอลลาร์
- ธุรกิจ Hybrid Cloud: รายได้เพิ่มขึ้น 10% เป็น 1,405 ล้านดอลลาร์
HPE เผชิญแรงกดดันจากการแข่งขันด้านราคา ส่งผลให้ต้องใช้กลยุทธ์ลดค่าใช้จ่าย โดยประกาศปลดพนักงานประมาณ 2,500 ตำแหน่ง หรือราว 5% ของพนักงานทั้งหมด รวมถึงมาตรการลดค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ 350 ล้านดอลลาร์ภายในปีงบประมาณ 2027

HPE ยังคงเดินหน้าตามแผนเข้าซื้อกิจการ Juniper Networks มูลค่า 14,000 ล้านดอลลาร์ แม้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐจะยื่นฟ้องต่อศาลในเดือนมกราคมเพื่อคัดค้านดีลดังกล่าวด้วยเหตุผลด้านการผูกขาด โดย HPE คาดว่าการพิจารณาคดีจะเริ่มในเดือนกรกฎาคม และยังมั่นใจว่าดีลจะแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม 2025
HPE คาดการณ์กำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2 อยู่ที่ 28-34 เซนต์ ต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 50 เซนต์ต่อหุ้น และคาดว่ารายได้จะอยู่ระหว่าง 7,200-7,600 ล้านดอลลาร์ ขณะที่สำหรับทั้งปีงบประมาณ 2025 คาดว่ากำไรต่อหุ้นจะอยู่ที่ 1.70-1.90 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.13 ดอลลาร์ต่อหุ้น
ที่มา : cnbc
ภาพ : hpe
Comment