ข้อมูลนี้ถูกเปิดเผยโดยสำนักข่าว Sina News ของประเทศจีน ระบุว่าพบ “มนุษย์ประหลาด” ที่ตามร่างกายเต็มไปด้วยโทรศัพท์มือถือชื่อดัง Apple iPhone ซึ่งนับได้กว่า 94 เครื่อง! โดยเครื่องส่วนใหญ่เป็น iPhone รุ่นสีขาว ส่วนรุ่น “สีดำ” นั้นพบว่าอยู่ตำแหน่งเดียวกับส่วนสำคัญอย่างหนึ่งในร่างกายของมนุษย์ นี่ถือว่าเป็นการค้นพบครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศจีนและของโลกเลยทีเดียวเชียว…จบข่าว เอ้ย! อย่าเพิ่งจบ เนื้อข่าวที่อ่านมาแค่เอาฮา ส่วนสาระนั้นหนาอยู่หลังเบรกครับผม

กลับมาที่เนื่อข่าวจริงๆ กันดีกว่า 55 มีรายงานจากเว็บข่าว Sina News ของประเทศจีนว่า พบชายชาวฮ่องกงลักลอบนำ iPhone ผ่านด่านศุลกากรเข้าประเทศจีน โดยการเอาติดเครื่องตามส่วนต่างๆของร่างกายแล้วสวมเสื้อผ้าทับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ศุลกากรสามารถตรวจนับจำนวนเครื่องที่ซ่อนอยู่ทั้งหมดได้ถึง 94 เครื่อง! สถานที่เกิดเหตุคือ ด่านศุลกากรที่ท่าเรือ Futian เมืองเซินเจิ้น  

เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อเจ้าหน้าที่ที่ด่านสังเกตเห็นชายคนหนึ่งสวมเสื้อกันหนาวสีแดงและกางเกงขายาวสีดำ มีท่าทางประหลาด ทั้งท่าเดินที่แปลกๆ ตัวแข็งๆ เหมือนกล้ามเนื้อตึงๆ ดูแล้วท่าทางมีพิรุธ จึงได้ขอตรวจค้นกระเป๋าของชายคนนั้นและพบว่าไม่มีอะไรน่าสงสัย หลังจากนั้นได้ปล่อยให้เดินผ่านเครื่องจับโลหะไป ปรากฎว่าเครื่องมีสัญญาณดังขึ้นมา เจ้าหน้าที่จึงได้รู้ว่าชายผู้นี้ซุกซ่อนอะไรอยู่ในตัว เมื่อตรวจค้นก็ต้องผงะเพราะได้เห็นเครื่อง iPhone จำนวนมากติดตามร่างกายของชายผู้นี้ ตั้งแต่หน้าอก, ท้อง, ท้องน้อย, น่อง ไปจนถึงหน้าแข้ง ถึงว่าทำไมมันเดินแข็งๆ

นี่ไม่ใช่ความพยายามครั้งแรกในการลักลอบนำ Apple iPhone เข้าประเทศจีน ด้วยเหตุผลที่ว่าภาษีสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศจีนนั้นสูงกว่าที่ฮ่องกงพอสมควร จึงมีการลักลอบนำสินค้าจากฮ่องกงเข้ามาขายในตลาดมืดของจีนอยู่บ่อยๆ ประกอบกับ Apple iPhone 6 รุ่นล่าสุดก็ถูกทางการจีนสั่งแบนไม่ให้นำเข้าและวางจำหน่ายด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัยระดับประเทศ ดังนั้น iPhone จึงเป็นที่ต้องการมากในประเทศจีนเวลานี้ จนการเสี่ยงทำแบบนี้หลายคนคิดว่า คุ้มค่าที่จะทำ

ความเห็นส่วนตัว: ส่วนตัวก็แปลกใจว่า ทำไมถึงคิดว่าทำแบบนี้จะผ่านเครื่องตรวจจับโลหะได้? หรือจริงๆแล้วไม่ใช่ทุกคนที่ต้องเดินผ่านเครื่องตรวจโลหะ? แต่ที่แน่ๆ ใครที่อยู่ประเทศจีนแล้วอยากได้ iPhone 6 ตอนนี้ ไม่ต้องหา “เครื่องหิ้ว” ให้เสียเวลา เพราะว่ามี “เครื่องห้อย” เท่านั้นนะครับ…สวัสดี

 

ที่มา: Sina News