หลังจากที่ HONOR ได้เปิดตัว HONOR 200 Series ไปเมื่อวานที่ผ่านมาด้วยราคาที่ทำตลาดแตกของจริง ทำให้ตอนนี้ HONOR 200 Pro เป็นมือถือที่คนค้นหามากที่สุดและตามมาติด ๆ ด้วย HONOR Magic 6 Pro 5G ที่เปิดตัวไปก่อนหน้าซึ่งก็ทำเอาหลายคนเลือกไม่ถูกเลยจริง ๆ สำหรับสองรุ่นดังกล่าว เพราะราคาและสเปคคือทำให้รู้สึกรักพี่เสียดายน้องสุด ๆ
เทียบสเปค HONOR 200 Pro และ HONOR Magic 6
HONOR 200 Pro | HONOR Magic6 Pro | |
ความจุ | 12GB + 512GB | 12GB + 512GB |
ราคาเปิดตัว | 19,990 บาท | 34,990 บาท |
หน้าจอ | ||
ขนาดจอ | จอโค้ง 3D OLED 6.78 นิ้ว | จอโค้ง 3D 4 ด้าน LTPO OLED ขนาด 6.8 นิ้ว |
อัตรารีเฟรช | 120HZ | 1 – 120Hz |
ความละเอียด | 2700 x 1224 พิกเซล | 1280 x 2800 พิกเซล |
สว่างสูงสุด | 4,000 นิต | 5,000 นิต |
รองรับ | HDR, ZREAL, HDR Vivid | HDR, Dolby Vision |
ประสิทธิภาพ | ||
ชิป | Snapdragon 8s Gen 3 | Snapdragon 8 Gen 3 |
RAM | 12GB | 12GB |
ROM | 512GB | 512GB |
แบตเตอรี่ | 5,200 mAh | 5,600 mAh |
ชาร์จไวมีสาย | 100W | 80W |
ชาร์จไวไร้สาย | 66W | 66W |
กล้อง | ||
กล้องหลัก | H9000 50MP ขนาด 1/1.3″ (f/1.9), กันสั่น OIS | Omnivision Super Dynamic Falcon H9000 50MP ขนาด 1/1.3 นิ้ว 50MP (ปรับรูรับแสงได้ f/1.4 – 2.0), กันสั่น OIS |
กล้องสอง | อัลตราไวด์ 12MP (f/1.2) มุมกว้าง 112 องศา รองรับโหมด Macro ระยะ 2.5 ซม. | อัลตราไวด์ 50MP มุมกว้าง 122 องศา (f/2.0) รองรับโหมด Macro 2.5 ซม. |
กล้องสาม | Telephoto IMX856 50MP (f/2.4), กันสั่น OIS ซูม Optical 2.5x / ซูม Digital 50x | Periscope Telephoto 180MP (f/2.6), กันสั่น OIS, ซูม Optical 2.5x / ซูม Digital 100x |
กล้องเซลฟี่ | 50MP (f/2.1) | 50MP (f/2.0) |
กล้องหลักรองรับวิดีโอ | 4K (3840×2160) | 4K 60fps (3840×2160) |
การเชื่อมต่อ | ||
สัญญาณ | 5G | 5G |
WiFi | 6 | 7 |
Bluetooth | 5.3 | 5.3 |
NFC | รองรับ | รองรับ |
พอร์ต | USB-C 2.0 | USB-C 3.2 |
อื่น ๆ | ||
ความทนทาน | IP65 | IP68 |
ลำโพง | สเตอริโอ รองรับ HONOR Histen 7.1 เร่งเสียงได้สูงสุด 200% | ลำโพงคู่สเตอริโอ, ระบบเสียง DTS:X Ultra |
ระบบปฏิบัติการ | MagicOS 8.0 บนพื้นฐาน Android 14 | Magic OS 8 บนพื้นฐาน Android 14 |
ขนาดตัวเครื่อง | 163.3 x 75.2 x 8.2 มม. | รุ่นกระจก 162.5 มม. x 75.8 มม. x 8.9 มม. |
รุ่นหนัง Vegan 162.5 มม. x 75.8 มม. x 8.9 มม. | ||
น้ำหนัก | 199 กรัม | รุ่นกระจก 229 กรัม |
รุ่นหนัง Vegan 225 กรัม |
หน้าจอสูสี
HONOR 200 Pro ใช้เป็นจอ OLEDขนาดเป็น 6.78 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2700 x 1224 พิกเซล) สว่างสูงสุด 4,000 nits รีเฟรชเรต 120Hz รองรับค่าการกะพริบต่ำถนอมสายตา PWM dimming 3840Hz มาตรฐานสีจอเที่ยงตรงระดับ Delta E≈0.27 ฝาหลังจะมีความโค้งรับกับมือ และมีการเล่นลวดลายตัดกันสองพื้นผิว พร้อมรองรับมาตรฐานทนละอองน้ำ IP65 และมีการปรับจอให้มีความโค้ง 3D แบบด้านข้าง
ส่วน HONOR Magic6 Pro จะใช้เป็นพาเนลแบบ LTPO OLED ขนาดใหญ่ขึ้นมากว่านิดหน่อยอยู่ที่ 6.80 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (1264 x 2800 พิกเซล) แถมยังรองรับค่าการกะพริบต่ำถนอมสายตา อย่าง PWM dimming สูงที่สุดในวงการถึง 4320Hz ให้ความสว่างมากกว่าอยู่ที่ 5,000 nits ฝาหลังมีให้เลือก 2 รูปแบบ คือ แบบกระจกและแบบ Vegan
กล้องหลังจัดเต็ม 3 ตัวเท่ากัน แต่ฟีเจอร์ต่างกัน
HONOR 200 Pro มีกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว ได้แก่
- กล้องหลัก H9000 50MP เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.3″ (f/1.9), กันสั่น OIS
- กล้อง Ultrawide 12MP (f/1.2) มุมกว้าง 112 องศา
- รองรับโหมด Macro ระยะ 2.5 ซม.
- กล้อง Telephoto IMX856 50MP (f/2.4), กันสั่น OIS
- ซูม Optical 2.5x / ซูม Digital 50x
HONOR Magic6 Pro มีกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว ได้แก่
- กล้องหลัก 23 มม. Omnivision Super Dynamic Falcon H9000 ความละเอียด 50MP
- ม่านรับแสงปรับได้ f/1.4 – f/2.0
- ขนาดเซนเซอร์ 1/1.3″
- เซนเซอร์กันสั่น OIS + ระบบโฟกัส PDAF + Laser Auto Focus
- กล้อง Periscope Telephoto 68 มม. ISOCELL HP3 ความละเอียด 180MP (f/2.6)
- เซนเซอร์กันสั่น OIS + ระบบโฟกัส PDAF
- ซูม Optical 2.5 เท่า / In-Sensor Zoom
- กล้อง Ultrawide 13 มม. ขนาดเซนเซอร์ 1/2.88″ ความละเอียด 50MP (f/2.0) มุมกว้าง 122 องศา
- ระบบโฟกัส PDAF
กล้องหน้า 50MP
ทั้งคู่ให้กล้องหน้าความละเอียดมาเท่ากันอยู่ที่ 50MP แต่ HONOR Magic6 Pro จะเพิ่มกล้องแบบ 3D และรูรับแสงใหญ่กว่าอยู่ที่ f2.0 และรองรับการถ่ายวีดีโอความชัดระดับ 4K (3840×2160) เท่ากัน
ประสิทธิภาพเรือธง VS รองเรือธง
แน่นอนว่าตอนเปิดตัวราคาต่างกันขนาดนี้ก็ต้องใส่ชิปที่ต่างกันอยู่แล้ว ซึ่ง HONOR Magic6 Pro จะใช้เป็นชิปเรือธงอย่าง Snapdragon 8 Gen 3 สำหรับการใช้งานคือรับรองว่าลื่นไหลไม่มีกระตุก ส่วน HONOR 200 Pro ถึงแม้จะเปิดราคามาไม่ถึง 2 หมื่นแต่ก็ได้ใช้ชิปรองเรือธงอย่าง Snapdragon 8s Gen 3 ด้วย
ส่วนแบตเตอรี่รุ่น Magic6 Pro จะให้มาเยอะกว่าอยู่ที่ 5,600 mAh รองรับการชาร์จไวแบบมีสายสูงสุดอยู่ที่ 80W ขณะที่รุ่น 200 Pro ให้มาอยู่ที่ 5,200 mAh และรองรับชาร์จไวแบบมีสายสูงสุด 100W ส่วนชาร์จไวไร้สายจะมีความเร็วเท่ากันที่ 66W ค่ะ
มาที่เรื่องของลำโพงกันบ้าง ซึ่งทั้งคู่ได้ให้ลำโพงแบบสเตอริโอทั้งคู่ โดยลำโพงของ Magic6 Pro จะรองรับระบบเสียงแบบ DTS:X Ultra ส่วน 200 Pro จะรองรับ HONOR Histen 7.1 พร้อมฟีเจอร์เร่งเสียงได้สูงสุด 200%
ฟีเจอร์ AI ช่วยในการถ่ายภาพ
นอกเหนือจากสเปคแล้ว ยังมีอีกหนึ่งอย่างที่น่าสนใจก็คือเรื่องของฟีเจอร์ AI ที่ใส่มาให้กับเครื่อง เพื่อเป็นการตอบรับเทรนด์ปัญญาประดิษฐ์ของยุคปัจจุบันนั่นเอง
สำหรับ Magic6 Pro ที่เปิดตัวมาก่อนได้ชูเรื่องของระบบ HONOR Falcon Camera ที่เก่งกว่าเดิม ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ AI ในการตรวจจับความเคลื่อนไหว และจับภาพหลาย ๆ เฟรมก่อนที่เราจะกดปุ่มชัตเตอร์ เพื่อให้สามารถถ่ายภาพวัตถุ หรือสิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนไหวเร็ว ๆ ได้โดยที่ภาพไม่เบลอ และมี HONOR AI Motion Sensing Capture
AI ที่คอยเรียนรู้จากภาพการเคลื่อนไหวกว่า 8 ล้านภาพ ทำให้เราเก็บภาพออกมาได้อย่างสวยงามและสมบูรณ์แบบ
ส่วน 200 Pro จะชูในเรื่องการนำ AI มาช่วยปรับภาพ Portrait ซึ่งรุ่นนี้ได้มีการร่วมมือกับ Harcourt สตูดิโอชื่อดังจากฝรั่งเศส ทางแบรนด์จึงนำ AI มาปรับผสมผสานเพื่อช่วยภาพตามสไตล์ศิลปะที่ทางสตูดิโอตั้งไว้ให้ ทำให้ภาพถ่ายมีองค์ประกอบแสงสีออกมาเหมือนกับถูกถ่ายอยู่ในสตูดิโอดังกล่าวนั้นจริง ๆ
ราคาเปิดตัว
HONOR Magic6 Pro วางจำหน่ายทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำวัสดุกระจก Black และสีเขียวอ่อนวัสดุหนัง Vegan ลายคลื่น Epi Green และมีเพียงรุ่นความจุเดียวคือ 12GB + 512GB ในราคา 34,990 บาท
HONOR 200 Pro มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Ocean Cyan และ Black วางจำหน่ายในราคาและรุ่นความจุเท่ากัน คือ 12GB + 512GB ราคา 19,990 บาท
สรุป รุ่นไหนเหมาะกับใครบ้าง
สำหรับทั้งสองรุ่นนี้ต้องบอกเลยว่ามีดีคนละแบบ ซึ่งดูจากสเปคแล้วคิดว่าใครที่พอมีงบและอยากจะใช้เรือธงไปสุดในทุกด้าน ไม่ว่าจะการถ่ายภาพ เล่นเกมแบบจัดหนักต้องใช้ชิปตัวแรง และฟีเจอร์อื่น ๆ แบบขั้นสุดก็แนะนำที่ตัว HONOR Magic6 Pro เลยจริง ๆ เพราะว่ารุ่นนี้ทำสเปคออกมาได้สมราคา
ส่วน HONOR 200 Pro ดูเหมือนจะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหามือถือสายถ่ายภาพ Portrait แบบจริงจัง หรือต้องการลูกเล่นแนวภาพถ่ายศิลปะประหนึ่งถ่ายออกมาจากสตูดิโอ ชิปแรง ๆ เกือบเทียบเท่าชั้นเรือธงและฟีเจอร์อื่น ๆ ใส่มาให้ใช้ครบ จบในเครื่องเดียว ก็แนะนำแวะมารุ่นนี้ เพราะเรียกได้ว่าทำสเปคออกมาได้คุ้มเกินราคา
รุ่นไหนคุ้มสุด
ทั้งนี้เป็นเพียงการวิเคราะห์ตามจากสเปคเท่านั้น ไม่ได้มีตายตัวว่าใครจะต้องใช้มือถือแบบไหน และถ้าถามว่ารุ่นไหนคุ้มสุด อันนี้อยู่ที่มุมมองของคนใช้งานแล้ว เพราะว่าแบรนด์ก็ใส่สเปคจัดเต็มมาทั้งคู่จริง ๆ ได้กล้อง ชิป และอื่น ๆ ที่คนละแบบเลย เอาเป็นว่าถ้าดูแล้วคลิก ตอบโจทย์กับการใช้งานในชีวิตประจำวันและงบประมาณที่ตั้งไว้ในใจมากสุดก็จัดเลยค่ะ
ราคาฆ่าทุกค่าย