HoYo FEST 2025 กลับมาอีกครั้งในฐานะอีเวนต์ใหญ่ประจำปีของแฟนเกมจากค่าย HoYoverse ที่หลายคนรอคอย เรียกได้ว่าเป็นเหมือนเทศกาลแสวงบุญของเหล่าสาวก Genshin, Honkai 3rd, ZZZ และ Star Rail ที่ต้องมารวมตัวกันให้ได้สักครั้ง เพราะเกมดังทั้ง Genshin Impact, Honkai Impact 3rd, Honkai: Star Rail และ Zenless Zone Zero ต่างขนกิจกรรมมาจัดเต็มในงานเดียว

งานในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 – 27 กรกฎาคม 2568 ณ MCC Hall ชั้น 3 เดอะมอลล์ บางกะปิ มีกิจกรรมมากมายให้แฟนเกมได้ร่วมสนุก ทั้งโซนทดลองเล่นเกม โซนเวที โซนขายสินค้า ไปจนถึงไฮไลต์สำคัญอย่าง Artist Alley ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เปิดพื้นที่ให้ศิลปินและครีเอเตอร์นำสินค้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเกมของ HoYoverse มาวางจำหน่ายได้อย่างถูกต้องภายในงานอย่างเป็นทางการ แตกต่างจากที่ผ่านมา ที่งานลักษณะนี้จะจำกัดเฉพาะอีเวนต์ที่จัดโดยแฟน ๆ เอง เช่น งานการ์ตูนหรืองานคอสเพลย์ทั่วไปเท่านั้น

เริ่มต้นที่จุดลงทะเบียน รับบัตร-ซื้อบัตรก่อนเข้างาน

โซนแรกที่ทุกคนจะเจอทันทีหลังจากขึ้นบันไดเลื่อนมาที่ชั้น 3 แล้วเดินมายังฝั่งด้านหลังของห้าง ก็คือจุดลงทะเบียน ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับรับบัตรที่ซื้อออนไลน์ล่วงหน้า รวมถึงซื้อบัตรหน้างาน สำหรับใครที่ยังไม่ได้จองมาก่อน

ขั้นตอนก็ไม่ซับซ้อน เพียงแค่แสดง QR Code หรือข้อมูลการจองให้เจ้าหน้าที่ จากนั้นจะได้รับริสต์แบนด์หรือบัตรเข้างาน แล้วจึงสามารถผ่านจุดตรวจความปลอดภัยเข้าไปสู่โซนจัดงานได้เลย เรียกว่าไม่ต้องวนให้เสียเวลา ระบบจัดการค่อนข้างไว รองรับคนได้เป็นจำนวนมากในช่วงเวลาเร่งด่วน

แต่ด้วยความที่วันนี้เป็นวันแรกของงาน และตรงกับวันธรรมดา คนเลยยังไม่แน่นมาก บรรยากาศตรงจุดลงทะเบียนเลยค่อนข้างสบาย ๆ ไม่ต้องต่อแถวนานมาก ใครที่วางแผนจะมาวันเสาร์อาทิตย์ อาจต้องเผื่อเวลาไว้ล่วงหน้า เพราะคาดว่าจะคึกคักกว่านี้หลายเท่า

โซนแรกที่เจอหลังเข้างาน โซนทดลองเล่นเกม จัดเต็มทุกแพลตฟอร์ม

เมื่อผ่านจุดลงทะเบียนเข้ามาในงาน โซนแรกที่ต้องเจอแน่นอนคือ โซนทดลองเล่นเกม ที่เปิดให้แฟน ๆ ได้สัมผัสกับทุกเกมจากจักรวาล HoYoverse ไม่ว่าจะเป็น Genshin Impact, Honkai Impact 3rd, Honkai: Star Rail หรือ Zenless Zone Zero โดยมีให้เล่นครบทุกแพลตฟอร์ม ทั้งพีซี โน้ตบุ๊ก PlayStation 5 และมือถือ

ไฮไลต์สำคัญของโซนนี้อยู่ที่ ผู้สนับสนุนหลักอย่าง ASUS ROG ที่ขนอุปกรณ์เกมมิ่งมาจัดเต็มแบบเห็นเด่นชัดตั้งแต่เดินเข้า ไม่ว่าจะเป็น ROG Ally ทั้งสองรุ่น, พีซีแรง ๆ สเปกเทพ, โน้ตบุ๊กสายเกมเมอร์ ไปจนถึง ROG Phone 9 ที่บอกเลยว่าเป็นมือถือที่เล่นเกมได้ลื่นที่สุดเท่าที่เคยลองสัมผัสมา

ใครอยากทดสอบพลังเครื่องเทพ หวดสกิลในเกมแบบลื่น ๆ ไม่มีสะดุด ต้องไม่พลาดบูธนี้เลย และเมื่อทดลองเล่นเสร็จเรียบร้อย ก็อย่าลืมแวะไป รับตราประทับในใบกิจกรรม ที่สามารถสะสมเพื่อแลกของที่ระลึกหรือร่วมลุ้นรางวัลภายในงานได้อีกด้วย

โซนกิจกรรมหลักของแต่ละเกม เล่นครบ รับของครบ สนุกแน่นอน

ถัดจากโซนทดลองเล่น ก็จะเจอกับโซนที่หลายคนตั้งใจมาเป็นพิเศษ โซนบูทกิจกรรมของแต่ละเกมในเครือ HoYoverse ที่ตั้งเรียงติดกันอยู่ฝั่งซ้ายมือหลังจากเดินเข้ามาในฮอลล์ โดยจะมีทั้ง Genshin Impact, Honkai Impact 3rd, Honkai: Star Rail และ Zenless Zone Zero ให้แฟน ๆ ได้ร่วมสนุกกันแบบครบถ้วน

แต่ละบูทจะมีกิจกรรมแตกต่างกันไปตามธีมของเกม เช่น มินิเกม ถ่ายภาพ ทำเควสต์ หรือกิจกรรมแบบเล่นคนเดียวก็มี จุดร่วมที่เหมือนกันเกือบทุกบูทก็คือ

  • ถ่ายรูปหรือวิดีโอในโซนกิจกรรม
  • โพสต์ลงโซเชียล พร้อมติด Hashtag ที่กำหนด
  • แสดงหน้า UID ของตัวเอง (หรือของเพื่อน) เพื่อรับของที่ระลึกประจำเกมนั้น ๆ

แนะนำเลยว่าให้โหลดแอป HoYoLAB มารอไว้ล่วงหน้า เพราะสามารถใช้โชว์ UID ได้เหมือนในเกม และช่วยให้ไม่ต้องเปิดแอปเกมจริง ที่อาจจะหนักเครื่องหรือเปลืองแบตโดยไม่จำเป็น

เมื่อทำภารกิจในแต่ละบูทเสร็จ ก็จะได้รับ ตราประทับลงในใบกิจกรรม ที่ใช้สะสมเพื่อแลกรางวัลหรือร่วมกิจกรรมในโซนอื่นต่อได้และเมื่อเก็บครบทุกตราแล้ว อย่าลืมไปถ่ายภาพที่ระลึกที่ทางงานได้จัดโซนถ่ายภาพไว้ให้โดยเฉพาะ ปิดท้ายกิจกรรมหลัก

ตั๋วรุ้ง ของดีที่ห้ามพลาด

อีกหนึ่งของดีที่คนมางานห้ามพลาดเด็ดขาด ไม่ว่าจะซื้อบัตรเข้างานราคาไหนก็ตาม นั่นก็คือ “ตั๋วที่ระลึก” ที่จะแจกให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมของแต่ละบูท ดีไซน์ปีนี้ยังคงทำออกมาได้สวยมาก มีความพรีเมียมเหมือนปีที่แล้ว แฟน ๆ หลายคนตั้งใจมาเก็บสะสมให้ครบ เพราะนอกจากจะเป็นของที่ระลึกสวย ๆ แล้ว ยังมีลูกเล่นน่าสนใจตรงที่ หากนำตั๋วทั้ง 4 วันมาเรียงต่อกัน จะได้ขนาดเท่ากระดาษ A4 พอดี เหมาะสำหรับเอาไปใส่กรอบโชว์หรือเก็บสะสมในแบบแฟนตัวจริง

ถึงจะไปวันไหนก็มีแจกเหมือนกัน แต่ปีที่แล้วเคยมีกรณีที่บางลายหมดไว ทำให้บางคนพลาดสะสมไม่ครบ ใครตั้งใจจะเก็บครบชุด แนะนำให้เผื่อเวลามาเร็วหน่อย โดยเฉพาะถ้าเป็นวันเสาร์อาทิตย์

บนบัตรยังมีรหัสพิเศษพิมพ์อยู่ด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าเอาไปกรอกแล้วจะได้ของในเกมหรือไม่ (พอดียังไม่ได้ลอง ขออภัยไว้ก่อนนะ) เรียกได้ว่าแค่ได้ตั๋วมาครบก็ถือว่า “คุ้ม” แล้ว เพราะมันคือของที่ระลึกที่ทั้งสวย ทั้งมีคุณค่าเชิงความทรงจำสำหรับแฟน HoYoverse อย่างแท้จริง

เวทีกลางของงาน อยู่ติดกับโซนกิจกรรม

ข้าง ๆ โซนบูทกิจกรรม จะเป็น เวทีหลักของงาน ที่ใช้สำหรับจัดกิจกรรมต่าง ๆ ตามรอบเวลาตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นเกมแจกของ โชว์คอสเพลย์ หรือกิจกรรมพิเศษของแต่ละเกม ใครที่อยากร่วมสนุกหรือลุ้นของรางวัลก็แวะได้เลย บรรยากาศสนุกและเปิดให้ทุกคนมีส่วนร่วม

นี่งานเกมหรือ Tokyo Auto Salon โซนรถ Itasha ก็มีให้ชม

อีกหนึ่งไฮไลต์ที่น่าสนใจของงานปีนี้ อยู่บริเวณ ด้านหลังโซนทดลองเล่น คือโซนจัดแสดง รถยนต์ที่แรปลวดลายตัวละครจากเกมของ HoYoverse หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ Itasha

รถทุกคันถูกตกแต่งอย่างประณีต ด้วยลวดลายจากเกมอย่าง Genshin Impact และ Honkai Impact 3rd โดยหนึ่งในศิลปินที่ร่วมแสดงผลงานก็คือ NatWarm Channel หรือคุณ “จอม” ผู้เป็นที่รู้จักในวงการ Itasha และแฟนอาร์ตสายรถแต่ง ซึ่งเคยนำผลงานโชว์ใน HoYo FEST มาแล้วหลายปี

แต่ละคันเรียกได้ว่า โดนใจสายแต่งรถและแฟนเกมแบบสุด ๆ ทั้งการเลือกตัวละคร รายละเอียดลวดลาย ไปจนถึงการจัดวางองค์ประกอบที่เห็นแล้วต้องหยุดถ่ายรูป โซนนี้จึงกลายเป็นหนึ่งในจุดถ่ายภาพยอดนิยมที่มีคนแวะเวียนมาตลอดทั้งวัน

ดินจนเหนื่อยแล้ว… หิวก็ไม่ต้องห่วง มีอาหารขายด้วย

ภายในงานยังมีมุมสำหรับคนหิวด้วยนะ โดยจะมี ร้าน Sushiro ที่ขายซูชิ และ ร้าน PACAMARA ที่ขายเครื่องดื่มหลากหลาย ทั้งสองร้านนี้แฟน HoYoverse อาจคุ้นชื่อ เพราะเคยมีร่วม Collaboration กับเกมมาก่อนหน้านี้แล้ว

ใครที่เดินเล่นจนเริ่มหมดแรงหรืออยากหาที่พักนั่งชิลสักหน่อย ก็สามารถแวะมาเติมพลังกันได้ มีโซนที่นั่งจัดไว้ให้อย่างเรียบร้อย แต่ถ้าคนแน่นช่วงพีค ๆ อาจจะต้องยืนรอคิวบ้างเล็กน้อย แนะนำว่าใครไม่รีบ เดินวนเล่นสักรอบก่อนแล้วค่อยแวะก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ

Artist Alley โซนแฟนเมดสุดปัง ของน่ารัก ลิมิเต็ดแบบที่งานอื่นไม่มี

ในบรรดาโซนต่าง ๆ ภายใน HoYo FEST 2025 บอกเลยว่า โซน Artist Alley คืออีกหนึ่งไฮไลต์ที่แฟน ๆ ไม่ควรพลาด เพราะที่นี่คือพื้นที่สำหรับศิลปินแฟนอาร์ตจากทั่วไทย ที่ได้รับคัดเลือกให้นำผลงานมาวางขายแบบถูกลิขสิทธิ์จาก HoYoverse อย่างเป็นทางการ

ของที่นำมาวางขายในโซนนี้มีหลากหลาย ตั้งแต่สติ๊กเกอร์ ปลอกหมอน พวงกุญแจ แฟ้ม โปสเตอร์ ไปจนถึงของทำมือที่หาไม่ได้จากร้านค้าทั่วไป บางชิ้นผลิตมาแค่ชิ้นเดียวในโลก จึงเรียกได้ว่าเป็นงาน limited edition ของจริง ไม่เหมือนสินค้าทางการที่ผลิตแบบแมส แต่ละชิ้นมีเอกลักษณ์ น่ารัก และสะท้อนสไตล์ของศิลปินอย่างชัดเจน

ใครเดินผ่านโซนนี้แล้วไม่หยิบอะไรติดมือกลับไป ถือว่าใจแข็งสุด ๆ ศิลปินเด่นที่ไม่ควรพลาด เช่น…

  • sea11ie – ลายเส้นนุ่มน่ารัก สไตล์เจลลี่ มีสติ๊กเกอร์ โปสต์การ์ด และแฟ้มลายตัวละครจาก Genshin
  • NatWarm Channel – สายแต่งรถ Itasha ต้องแวะ มีโปสเตอร์และลายกราฟิกรถแต่งลายตัวละครสุดเท่
  • Kaze (カゼ) – แฟนอาร์ตสายละมุน สื่ออารมณ์ดีมาก สินค้าเด่นคือแฟ้มและโปสเตอร์ลายเฉพาะ
  • GiGi’s Witchcraft – สไตล์เวทยมนตร์แฟนตาซี ของทำมือน่ารัก เช่น การ์ด เข็มกลัด และของจิ๋วอบอุ่นใจ

โซนขายสินค้า Official ของแท้จาก HoYoverse

ปิดท้ายกันที่โซนเปลืองเงิน เอ้ย… โซนขายสินค้า Official จาก HoYoverse ที่ปีนี้ก็ขนของมาจัดเต็มจากหลายเกม ทั้ง Genshin, Honkai, Star Rail และ Zenless Zone Zero พื้นที่กว้าง เดินสบาย แต่อย่าเผลอเดินเพลิน เพราะของเยอะจนอยากเหมาหมด ตั้งแต่เข็มกลัดลายตัวละคร กระเป๋าสะพาย ตุ๊กตาน่ารัก สแตนดี้อะคริลิก แผ่นรองเมาส์ลายพิเศษ ไปจนถึงฟิกเกอร์บางรุ่น ละแน่นอนว่าเตรียมเป๋าสตางค์ไว้ให้พร้อม เพราะของแต่ละอย่างนี่ล่อตาล่อใจสุด ๆ

ก่อนเข้าต้องฝากกระเป๋าไว้ที่จุดรับฝากด้านหน้าทางเข้า จากนั้นจึงเข้าแถวเพื่อรอคิว ทีมงานจะเปิดให้เข้าเป็นรอบ ๆ รอบละประมาณ 15 นาที เพื่อควบคุมความหนาแน่นภายในบูท ระหว่างรอก็สามารถ สแกน QR Code เพื่อดูรายการสินค้าก่อนได้ จะได้วางแผนล่วงหน้า พอถึงเวลาเข้าไปจริงจะได้พุ่งตรงไปหยิบของได้ทันเวลา ข้อจำกัดสำคัญ คือสามารถซื้อสินค้าชนิดเดียวกันได้ไม่เกินคนละ 5 ชิ้น เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสได้ของกันทั่วถึง

ของหลายอย่างในบูทนี้เป็นลิขสิทธิ์แท้จาก HoYoverse ที่หาซื้อไม่ได้จากที่อื่น บางชิ้นมาไวหมดไว ใครมีลิสต์ในใจไว้แล้ว แนะนำให้รีบเข้าคิวแต่เนิ่น ๆ ก่อนจะหมดแบบไม่รู้ตัว

แถมท้ายอีกหนึ่งไฮไลต์ที่มักจะมาคู่กับงานเกมเสมอ ก็คือเหล่า Cosplayer ที่แต่งตัวมาร่วมงานให้เห็นประปรายตามจุดต่าง ๆ หลายคนก็แต่งมาได้สวย เท่ แจ่ม ๆ เริ่ด ๆ เข้ากับบรรยากาศงาน ช่วยเพิ่มสีสันให้คนเดินผ่าน เรียกว่าถ้าใครเป็นสายถ่ายรูปจะต้องเพลินแน่นอน

ช่วงที่ผมไปอาจยังเช้าอยู่ คนเลยยังแต่งมาไม่เยอะเท่าไหร่ ถ้าเป็นช่วงบ่ายหรือวันหยุดน่าจะมีให้เห็นมากขึ้น ใครตั้งใจจะเจอคอสเพลย์เยอร์ที่ชอบ อาจลองเช็กตารางหรืออัปเดตจากช่องโซเชียลของแต่ละคนก่อนได้

ส่วนที่บูธ ZZZ (Zenless Zone Zero) ก็มีลูกเล่นเล็ก ๆ สำหรับสายคอสเพลย์โดยเฉพาะ คือถ้าใครแต่งตัวมาในธีม ZZZ จะสามารถไปรับที่คาดผมลาย Bangboo ได้ฟรีด้วย เป็นของน่ารัก ๆ ที่แจกให้เฉพาะคนที่ร่วมแต่งคอสมาเท่านั้น

โดยรวมแล้ว HoYo FEST 2025 ปีนี้ก็ยังคงบรรยากาศสนุกเอาไว้เหมือนเดิม และเต็มไปด้วยรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่แฟนเกมน่าจะถูกใจ ไม่ว่าจะมาเล่นเกม เดินดูของสะสม เจอศิลปิน หรือแค่แวะมาเดินเล่นแบบชิล ๆ ก็มีอะไรให้เพลินได้ตลอดงาน

ใครที่สนใจ หรือยังลังเลว่าจะมาดีไหม ก็ลองหาเวลามาเดินเล่นดูครับ งานจัดถึงวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ ที่ MCC Hall ชั้น 3 เดอะมอลล์ บางกะปิจะมาคนเดียว มากับเพื่อน หรือพาครอบครัวมาเที่ยวก็ได้บรรยากาศคนละแบบ แต่ถ้าเป็นแฟนเกม HoYoverse อยู่แล้ว… น่าจะยิ้มกลับบ้านแน่นอน