ในงาน Mobile World Congress 2016 ทาง Huawei ได้ทำการเปิดตัวแท็บเล็ทแบบ 2-in-1 ตัวใหม่ล่าสุด ที่มาใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่มีชื่อว่า Huawei MateBook โดยเจ้า MateBook เป็นแท็บเล็ทที่มีขนาดหน้าจอ 12 นิ้ว มาพร้อมกับเคสคียบอร์ด และปากกา stylus เรียกได้ว่าเปิดตัวมาท้าชนกับ Microsoft Surface โดยเฉพาะเลยครับ
Huawei บอกว่า MateBook นั้นเป็นแท็บเล็ท 12 นิ้ว ที่เบาที่สุดในตลาดตอนนี้ โดยมีน้ำหนักเพียงแค่ 640 กรัม เท่านั้น เบากว่า iPad Pro ที่มีน้ำหนักอยู่ที่ 713 กรัม และ Surface Pro 4 ที่หนัก 766 กรัม แถมยังมีความหนาเพียงแค่ 6.9 มิลลิเมตร หรือเท่ากับ iPhone 6 และสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 10 ชั่วโมง
สเปคคร่าวๆ ของ Huawei MateBook มีดังนี้
- OS: Windows 10 Home, Pro
- หน้าจอ: LCD 12 นิ้ว ความละเอียด 2160 x 1440 พิกเซล
- CPU: Intel Core M3, M5, M7
- RAM: 4GB, 8GB
- SSD: 128GB, 256GB, 512GB
- USB: Type-C
- แบตเตอรี่: 4,430mAh ที่ 7.6V
- น้ำหนัก: 635 กรัม (ไม่รวมเคสคีย์บอร์ด)
ถ้าหากว่าดูจากด้านหลังของ MateBook แล้วจะทำให้นึกถึง iPad Pro ขึ้นมาทันที เพราะว่า MateBook นั้นใช้วัสดุเป็นโลหะแบบ unibody แต่บริเวณปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงนั้นได้มีการเสริมฟีเจอร์ตัวสแกนลายนิ้วมือเข้ามาด้วย ซึ่งเป็นเซนเซอร์ตัวเดียวกันกับที่ใช้ใน Mate 8
สำหรับอุปกรณ์นั้นก็มีเคสคีย์บอร์ดที่ทาง Huawei บอกว่า ให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงกับโน๊ตบุ๊กทั่วไป โดย trackpad นั้นใช้วัสดุเป็นกระจก ในส่วนของพอร์ทที่ใช้นั้นเป็นพอร์ท USB Type-C ซึ่งจะมีการวางขายอุปกรณ์ต่อพ่วงแยกออกมาครับ
อีกหนึ่งอุปกรณ์เสริมที่ทาง Huawei ได้ใส่ไว้ในบัตรเชิญตอนแรกก็คือ ปากกา stylus ที่มีชื่อว่า MatePen โดยเจ้า MatePen สามารถรองรับแรงกดได้ถึง 2048 ระดับ นอกจากนี้ก็ยังมีปุ่มที่สามารถใช้งานแทนการคลิกเม้าส์ซ้ายและขวาได้ และยังสามารถใช้งานเป็น quick-launch app และควบคุมสไลด์ได้อีกด้วย ส่วนอีกด้านหนึ่งของปากกานั้นเป็นตัวยิงเลเซอร์ ซึ่งเหมาะกับการใช้พรีเซนท์งานครับ
สำหรับราคาของ Huawei MateBook นั้นมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $699 (25,000 บาท) ไปจนถึง $1,599 (57,000 บาท) ขึ้นอยู่กับ CPU และความจุ SSD โดยราคาของแต่ละรุ่นสามารถดูได้จากตารางด้านบนเลยครับ ส่วนราคาของอุปกรณ์เสริมต่างๆ ก็จะมี เคสคียบอร์ด $129 (4,600 บาท), MatePen $69 (2,500 บาท) และ อุปกรณ์ต่อพ่วง $99 (3,500 บาท) ทาง Huawei จะเริ่มวางขาย MateBook ในโซนเอเซีย, ยุโรป และ อเมริกาเหนือ ในเดือนหน้านี้ครับ
รูปภาพเพิ่มเติม
ที่มา: Engadget, Techcrunch, The Verge
สวยงามครับ
แล้ว P9 ล่ะ
แหกโค้งตายตรงที่เป็น core M นี้ละน้า ราคาเพื่มอีกนิดเอา surface pro ได้แรงกว่าเลย
คงเพราะวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์เป็น tablet มั้งครับ เลยใช้ core m
สำหรับ surface เขาคงวางตำแหน่งแทนเครื่องตั้งโต๊ะ. Notebook เลยใช้ I
ขึ้นอยู่กับวัสถุประสงค์ของผู้ซื้อหล่ะครับ
ดูน่าสนใจมาก ว่าแต่มันปรับระดับความเอียงของหน้าจอตอนพิมพ์หรือตั้งโต๊ะไม่ได้ใช่มั้ยเนี่ย ถ้าปรับไม่ได้งานนี้คงไม่ได้เจอกัน T-T
ราคานี้ ไม่ได้มาเล่นๆ
Pro ตัวถูกสุดก็ Core M นะ ตัว 3xxxx
ผมใช้ Surface pro 4 อยู่ ผมว่าตัวสแกนหน้าสะดวกมาก นั่งเก้าอี้มองหน้าจอ
คอม Unlock อัตโนมัติ ทำงานต่อได้ แต่ Huawei ใช้สแกนนิ้วมือ ผมว่าเหมาะกับ
พวกโทรศัพท์ที่ต้อง Unlock ทั้งวันมากกว่า อีกอย่างตอนนี้ไปประชุมที่ไหน
เอา Surface Pro 4 ออกมา มีแต่คนถามว่า โน๊ตบุ้คอะไรเนี่ย Surface ตัวใหม่รึเปล่า
สุดท้าย ช่อง USB 3.0 กับ Kick Stand สะดวกมากครับ เดินไปสตาร์บัคถือเบาๆชิ้นเดียว
พอถึง กาง Kick stand ขอ Flash Drive อีกท่านมาเสียบ เปิดดูคุยงานกันได้เลย
Huawei ยังต้องพึ่ง เคสในการวางตั้ง กับ USB-C Dongle ที่ต้องพกไปด้วยอีก
นี่ยังไม่ได้พูดถึงปากกาที่เป็นแม่เหล็ก แปะข้าง Surface เพิ่มความไฮโซเข้าไปอีก
คุยๆงานกันอยู่ ได้ไอเดีย ดึงปากกาออกมา วงที่หน้าจอ จด Save ลง Onenote เสร็จ
แปะปากกากลับไปที่ขอบเหมือนเดิม คุยต่อ ดู Cool มากๆครับ
ถ้าเป็น Huawei มันจะพะรุงพะลัง ต้องถือมาพร้อมเคสคีร์บอร์ดเพื่อให้ตั้งได้
กับตัวแปลง USB-C และถ้าจะต้องทำขนาดนี้ แบก Macbook pro มาเหมือนเดิมเถอะ
Surface pro 4 เล่นเกม diablo 3 ไหวไหมครับ
ตั้งแต่อ่านคอมเม้นมาอันนี้คุณดูเป็นผู้เป็นคนสุดเลยครับ
อันอื่นนี่ให้อารมณ์ประมาณ sv โดนยิง IP
ตรงพัดลมดังเป็นโรงสีข้าว ผมนี่ลั่นเลย
แต่มันก็จริงครับ ไม่มีใครซื้อ Surface Pro มาเพื่อเล่นเกมส์หรอกครับ
มันแค่เอาไว้โชว์ในหมู่นักธุรกิจให้ดู cool
ถ้าจะเล่นเกมส์ ไม่ได้มีธุรกิจ 100ล้าน ผมว่าเอาตังไปลงกับพวก ROG ไม่ก็ Razer blade Alienware จะดู Pro กว่านะครับ อย่างน้อยก็ทำให้เด็กติดเกมส์ในรัสมี 500 เมตรกรี๊ดได้
ผมดาษไม่ตั้งใจเอามาเล่นเกมจริงจังหรอก แต่ถ้ามันสะดวกพกดี แล้วถ้าว่างเล่นเกมได้ก็ดี ผมก็เล่นอยู่เกมเดียว diablo 3 นานๆเล่นที่ด้วยครับ ถ้าเล่นได้ก็จนในเครื่องเดียว แต่ไปดู Razer blade ก็น่าสนใจดีครับ แต่แนวโน้ตบุกมันเบื่อนะสิครับ
Surface Pro ลองดูเรื่องน้ำหนักด้วยนะครับ ผมใช้ตัวแรกอยู่
นอนเล่นแล้วล่วงใส่หน้า หน้าแทบยุบเลยครับ 55555
แอบเชียร์นะครับถ้าไม่ได้เอามาเล่นเกมส์จริงจัง ตอนนี้ผมก็ใช้พวก Gaming Laptop อยู่
ปวดหลังมากครับ เครื่องอย่างเดียว 2.5 โล รวมพวกอแดปเตอร์แล้ว 3 โลได้