เปิดตัวไปเรียบร้อยแบบสดๆ ร้อนๆ กับมือถือเรือธงกล้องเทพรุ่นล่าสุดอย่าง Huawei P20 และ P20 Pro ที่มองผ่านๆ อาจจะไม่เห็นความแตกต่างซักเท่าไหร่ ที่เด่นหน่อยก็จะเป็นหน้าจอ/ตัวเครื่องคนละขนาด จำนวนกล้องหลัง 2 กับ 3 ตัว แต่จริงๆ ยังมีสเปคและฟีเจอร์อื่นๆ ที่ไม่เหมือนกันอีกเพียบ ที่ตอนเปิดตัวคู่กันอาจจะจำสลับกันไปมา เราเลยขอสรุปเปรียบเทียบให้อ่านกันชัดๆ ไปเลย

ก่อนอื่นมาดูสเปคของทั้ง 2 รุ่น กันก่อนนะครับ ว่ามีอะไรแตกต่างกันบ้าง

สเปคHuawei P20 ProHuawei P20
ราคา27,990 บาท19,990 บาท
หน้าจอOLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2244 อัตราส่วน 18.7:9LCD ขนาด 5.8 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2244 อัตราส่วน 18.7:9
CPUKirin 970 (4×2.4 GHz & 4×1.8 GHz)
GPUMali-G72 MP12
RAM6GB4GB
ความจุ128GB
กล้องหลัง40MP (f/1.8) + 20MP (f/1.6) + 8MP (f/2.4, OIS), ซูม 3 เท่า แบบออพติคอล, 5 เท่า แบบ Hybrid
12MP (f/1.8) + 20MP (f/1.6), ซูม 2 เท่า แบบ lossless
กล้องหน้า24MP f/2.0
วิดีโอ2160p@30fps, 1080p, 720p@960fps
วิิทยุ FMมี
การเชื่อมต่อWi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, WiFi Direct, Bluetooth 4.2
เซ็นเซอร์Fingerprint (ด้านหน้า), accelerometer, gyro, proximity, compass
แบตเตอรี่4000 mAh 3400 mAh
ระบบปฏิบัติการAndroid 8.1 ครอบด้วย EMUI 8.0
ขนาดตัวเครื่อง 155 x 73.9 x 7.8 มม. 149.1 x 70.8 x 7.7 มม.

จากตารางจะเห็นว่าทั้ง 2 รุ่น มีการใช้หน้าจอคนละชนิดกัน และมีขนาดที่ต่างกันเล็กน้อย (แต่ที่เหมือนกันคือรอยแหว่ง) โดยรุ่น P20 จะใช้จอ LCD แบบ RGBW ที่มีจุดเด่นตรงเร่งความสว่างได้ถึง 770 nits ส่วนใน P20 Pro จะเป็นจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ซึ่งให้สีที่สดกว่า และให้ค่า Contrast ที่สูงถึง 1 : 1,000,000 แต่ทั้ง 2 รุ่น ก็ยังคงมีความละเอียดอยู่ที่ระดับ FullHD+ เท่านั้น (ต้องขยับไปเล่นรุ่น Mate RS ถึงจะได้หน้าจอความละเอียดระดับ 2K)

ส่วนหน่วยความจำของตัวเครื่อง จะต่างกันตรง RAM เท่านั้น โดย P20 Pro จะให้มาที่ 6GB และ P20 ให้มาที่ 4GB ส่วนความจุจะเท่ากันที่ 128GB แต่ส่วนที่เหมือนกันคือทั้งคู่เพิ่ม MicroSD Card ไม่ได้

สำหรับจุดต่างที่เห็นชัดๆ เลยก็คือกล้องหลังนั่นเอง ซึ่ง P20 Pro ที่เป็นตัวท็อปจะให้กล้องหลังมาถึง 3 ตัว ความละเอียด 40MP (f/1.8) + 20MP (f/1.6) + 8MP (f/2.4) มีขนาดเซ็นเซอร์ที่ใหญ่กว่าอยู่ที่ 1/1.7 นิ้ว ในขณะที่ P20 มีขนาดอยู่ที่ 1/2.3 นิ้ว และยังสามารถเร่ง ISO ขึ้นไปสูงสุดได้ถึง 102400 เท่ากับกล้องระดับโปรตัวเป็นแสน และทำงานร่วมกับระบบ AI ที่เรียกว่า Huawei AIS ช่วยในการกันสั่น ทำให้สามารถถ่ายภาพแบบเปิดชัตเตอร์ได้นานถึง 8 วินาที โดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องช่วย แถมยังซูมได้มากถึง 5 เท่า ด้วยการทำงานร่วมกันของกล้องทั้ง 3 ตัวนี่แหละ

ส่วนกล้องคู่ของ P20 ถึงแม้ว่าจะไม่เทพเท่ากับรุ่นพี่ P20 Pro แต่ก็มีขนาดพิกเซลที่ใหญ่ถึง 1.55 ไมครอน ทำให้สามารถเก็บภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น บวกกับระบบ AI ตัวเดียวกับ P20 Pro ก็ยังทำให้สามารถถ่ายภาพในสภาวะแสงต่างๆ ออกมาได้สวยเหมือนกัน จนได้คะแนนการถ่ายภาพเป็นที่ 2 ในเว็บ DxOMark

แบตเตอรี่ทั้งคู่ก็ยังมีขนาดต่างกันด้วย โดย P20 มีแบตเตอรี่ที่ 3400 mAh สามารถดูวิดีโอและเล่นเน็ตติดต่อกันได้นานถึง 16 ชม., คุยโทรศัพท์ผ่านเครือข่าย 3G ต่อเนื่องได้ 19 ชม. และเล่นเพลงได้นานถึง 75 ชม. ส่วน P20 Pro มีแบตเตอรี่ใหญ่กว่าที่ 4000 mAh สามารถดูวิดีโอและเล่นเน็ตติดต่อกันได้นานถึง 22 ชม., คุยโทรศัพท์ผ่านเครือข่าย 3G ต่อเนื่องได้ 25 ชม. และเล่นเพลงได้นานถึง 89 ชม. เลยทีเดียว

และสำหรับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นที่ Huawei P20 กันน้ำกันฝุ่นได้ในระดับ IP53 เท่านั้นเอง (กันได้แค่ละอองน้ำฝอยๆ หรือฝนเบาๆ) ในขณะที่ P20 Pro ได้รับมาตรฐาน IP67 ที่ยังสามารถจุ่มหรือจมลงไปในน้ำได้ ความลึกสูงสุดคือ 1 เมตร เป็นเวลา 30 นาที

สุดท้ายก็คือราคาของทั้ง 2 รุ่น ที่ต่างกันถึง 250 ยูโร (ประมาณ 9,632 บาท) ก็ต้องลองชั่งใจกันดูนะครับ…ถ้าเรามีงบเหลือเฟือพอจะซื้อรุ่น P20 Pro ก็จะได้มือถือรุ่นที่ครบๆ ไปเลยทุกอย่าง ทั้งกล้องเทพ แบตอึดกว่า จอดีกว่า แถมกันน้ำได้ด้วย แต่ถ้าใครที่งบไม่พอจะถอยลงมา P20 ก็ยังถือว่าเป็นรุ่นที่น่าสนใจอยู่ดี