เปิดตัวไปเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมานี้เอง กับ Huawei Y9 2018 มือถือราคาประหยัด (6,990 บาท) แต่อัดกล้องมาให้ถึง 4 ตัว หน้า 2 หลัง 2 สำหรับการถ่ายเอฟเฟ็คท์หน้าชัดหลังเบลอให้เป็นธรรมชาติมากขึ้น และยังมีสเปคโดยรวมที่สามารถใช้งานทั่วไปได้แบบลื่นๆ แถมยังให้แบตเตอรี่จุใจถึง 4000 mAh สามารถใช้งานได้ถึง 2 วัน โดยไม่ต้องชาร์จ

ก่อนจะไปดูอย่างอื่น เรามาเริ่มกันที่สเปคของ Huawei Y9 2018 ตัวนี้กันก่อน ว่าค่าตัวที่เกินครึ่งหมื่นมานิดหน่อย เราจะได้มือถือสเปคขนาดไหนมาใช้

  • หน้าจอขนาด 5.93 นิ้ว ความละเอียด FullHD+
  • CPU : Kirin 659 Octa-core (4 X Cortex A53 2.36GHz + 4 X Cortex A53 1.7GHz)
  • RAM : 3GB
  • ความจุ : 32GB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 256GB (ช่องแยก)
  • กล้องหลังคู่ : 13MP + 2MP (รองรับการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ), AR Stickers
  • กล้องหน้าคู่ : 16MP + 2MP (รองรับการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ)
  • รองรับ 2 Nano SIM
  • สแกนนิ้วมือด้านหลัง
  • แบตเตอรี่ : 4000 mAh
  • ขนาดและน้ำหนัก : 75.3 x 157.2 x 7.89 มม. / 170 กรัม
  • ระบบ Android 8.0 ครอบด้วย EMUI 8.0

ดีไซน์ตัวเครื่อง

huawei Y9 2018 ใช้หน้าจอขนาด 5.93 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 ตามเทรนด์มือถือทั่วไปในยุคนี้ (แต่จอไม่แหว่งนะ) โดยขอบจอด้านบนจะมีกล้องหน้า 2 ตัว, ลำโพง และเซ็นเซอร์

ขอบจอด้านล่างมีเพียงชื่อแบรนด์ Huawei แปะเอาไว้เท่านั้น ส่วนขอบด้านล่างเครื่องมีช่อง MicroUSB, รูหูฟัง 3.5 มม. และลำโพง 1 ตัว

หลังเครื่องก็มีกล้องคู่อยู่ตรงมุมซ้ายบน ถัดมาทางขวาเป็นแฟลช LED และเลื่อนลงมาอีกหน่อย เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

ด้านซ้ายของเครื่องมีแค่ถาดใส่ SIM และ MicroSD Card เท่านั้น…อ้อ! ถาดใส่ SIM นี่แยกช่องใส่ MicroSD Card ให้ด้วยนะ ทำให้สามารถใช้ได้พร้อมกัน 2 SIM + MicroSD Card เลยด้วย

ส่วนด้านขวาก็มีปุ่มปรับเสียง และปุ่ม Power

 

SOFTWARE และ UI

Huawei Y9 2018 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 8.0 Oreo ครอบด้วย EMUI 8.0 ที่ Huawei พัฒนาขึ้นมาเอง คนที่เคยใช้ Huawei มาก่อนก็คงคุ้นเคยกันดี เพราะมันไม่มี App Drawer มาให้ด้วย (ซึ่งมือถือจีนส่วนมากจะมี UI เป็นแบบนี้ทั้งนั้น) เวลาโหลดแอปอะไรมา มันก็จะรวมอยู่ที่หน้าจอนี่แหละ

ประสิทธิภาพตัวเครื่องและการเล่นเกม

ทีนี้ลองมาดูผลการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานเครื่องด้วยแอพพลิเคชั่น Antutu กันบ้างครับ โดย Huawei Y9 2018 มีผลการทดสอบออกมาตามนี้เลย

สำหรับประสิทธิภาพการเล่นเกมสุดฮิตอย่าง ROV (ที่เป็นตัวเลือกหลักสำหรับบางคนในการเลือกซื้อมือถือเลยทีเดียว) สามารถเล่นได้ลื่นๆ ที่ 27 – 30fps แต่ต้องปรับกราฟฟิคลงมาต่ำสุดทุกอย่างนะ

นอกจากเกม ROV แล้ว เกมกราฟฟิคหนักๆ เกมอื่น ทั้ง Hero Hunters, PUBG และ Shadowgun Legends ก็สามารถเล่นได้เช่น โดยตัวเกมจะตั้งค่ากราฟฟิคเป็นระดับต่ำสุดให้เองอัตโนมัติเพื่อความลื่นไหลของการเล่นเกมนั่นเอง ส่วนเกมกราฟฟิคสุดโหดอย่าง Final Fantasy XV PE ไม่สามารถเล่นได้นะครับ (โหลดได้แต่เล่นไม่ได้)…เพราะขนาดปรับกราฟฟิคลงมาต่ำสุดทุกอย่างแล้ว แต่เข้าเกมทีไรเด้งออกตลอด

Hero Hunters

PUBG Mobile

Shadowgun Legends

กล้องหลังคู่

มาถึงฟีเจอร์เด่นของ Huawei Y9 2018 กันบ้าง กับกล้องหลังคู่ความละเอียด 16MP + 2MP ซึ่งหลายคนเห็นความละเอียดของกล้องตัวที่ 2 แล้วอาจจะบ่นว่า…อะไร ให้ความละเอียดมาแค่ 2MP มันจะชัดเรอะ? แต่จริงๆ แล้วกล้องตัวที่ 2 มีเอาไว้แค่ตรวจจับความลึกของภาพ เพื่อทำเอฟเฟ็คท์หน้าชัดหลังเบลอเท่านั้นเอง

ในแอปกล้องถ่ายรูปของ Huawei Y9 นั้น จะมีโหมดต่างๆ ให้เลือกถึง 13 โหมดด้วยกัน โดยในโหมดการถ่ายภาพแบบ Auto ก็จะมีตัวเลือกอยู่บนแถบด้านบนคือ เปิด-ปิด แฟลช,

  • Wide aperture สำหรับการถ่ายแบบหน้าชัดหลังเบลอที่เราสามารถปรับจุดโฟกัส ได้หลังจากถ่ายแล้ว
  • Portrait Mode ก็จะคล้ายๆ กับ Wide aperture แต่จะเพิ่มฟีเจอร์ Beauty เข้ามาให้สามารถปรับสีผิวได้อีก 10 ระดับ
  • Moving Picture จะเก็บภาพเคลื่อนไหวสั้นๆ ประมาณ 2 วินาที ก่อนการถ่ายรูปนิ่ง

โหมด Wide aperture ที่สามารถปรับโฟกัสหลังจากถ่ายแล้ว ด้วยการแตะตรงจุดที่ต้องการโฟกัสได้เลย

โหมดถ่ายภาพ Pro จะมีตัวเลือกในการตั้งค่าเข้ามา

  • ISO ตั้งแต่ 50 – 1500 (Auto ได้ถึง 2000)
  • Shutter Speed ตั้งแต่ 1/4000 – 8 วินาที
  • EV ตั้งแต่ -4.0 – 4.0
  • โหมดโฟกัสภาพ
  • WB ตั้งแต่ 2800K – 7000K

โหมด Pro ไม่สามารถเลือก Wide aperture, Portrait, Moving picture ได้

โหมดถ่ายวิดีโอ Pro จะมีตัวเลือกในการตั้งค่าเข้ามา

  • Metering มีให้เลือกทั้ง Matrix, Centre และ Spot
  • EV ตั้งแต่ -4.0 – 4.0
  • โหมดโฟกัสที่สามารถเลือกแบบ Manual เพื่อเลือกโฟกัสวิดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอ หรือหลังเบลอหน้าชัดได้
  • WB ตั้งแต่ 2800K – 7000K

 

โหมด AR Lens ที่น่าจะถูกใจสาวๆ เพราะสามารถเลือกสติ๊กเกอร์ AR น่ารักๆ มากมายหลายแบบได้ด้วย แต่โหมด AR Lens นี้จะมีลูกเล่นมากกว่าในกล้องหน้าด้วยนะ เดี๋ยวไปดูต่อในหัวข้อกล้องหน้าละกัน

คุณภาพโดยรวมของกล้องหลังถือว่าพอใช้ได้ในสภาพแสงปกติ ติดอยู่นิดนึงตรงที่ภาพจะมึดๆ ไปหน่อย ยิ่งในสภาวะแสงน้อยนี่…noise กระฉูด และความคมความละเอียดของภาพที่หายไปเยอะ แถมความเร็วในการโฟกัสก็จะช้าลงอย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะ ส่วนโหมด Wide aperture หรือหน้าชัดหลังเบลอก็ทำได้ในระดับธรรมดาๆ (ยังดูไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่) แต่ยังมีข้อดีตรงที่สามารถเลือกปรับจุดโฟกัส และระดับความเบลอทีหลังได้

กล้องหน้าคู่

อีก 1 ฟีเจอร์เด่นของ Huawei Y9 2018 กับกล้องหน้าคู่ความละเอียด 13MP + 2MP ที่ในราคาระดับนี้ ไม่มีรุ่นไหนกล้าใส่กล้องหน้าคู่หลังคู่ มาให้แบบนี้แล้วล่ะ และแน่นอนว่าให้กล้องคู่มาแบบนี้ ก็สามารถถ่ายเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลอได้ แต่จุดเด่นอีกอย่างที่น่าจะถูกใจเหล่าสาวๆ ก็คือฟีเจอร์ AR Lens ที่ไม่ใช่แค่แปะสติ๊กเกอร์หูหมา หูแมวเข้าไปนะ…แต่ยังสามารถถ่ายเซลฟี่แบบเปลี่ยนพื้นหลังให้เป็นฉากดุ๊กดิ๊กๆ ได้ แถมยังมีเพลงประกอบน่ารักๆ ให้ได้ถ่ายเป็นวิดีโอเก็บเอาไว้ได้อีก

Play video

 

แบตเตอรี่

อีก 1 จุดเด่นของ Huawei Y9 2018 ก็คือแบตเตอรี่ที่ยัดมาให้ถึง 4000 mAh และจากการทดลองใช้งานทั่วไปทั้งเล่นเน็ต (WiFi และ 4G), เล่นโซเชียล, ฟังเพลง, เล่นเกมประมาณ 1 ชม. กลับมาบ้านแบตเตอรี่ก็ยังเหลือเกิน 50% อยู่เลย และจากการเปิดวิดีโอ YouTube ผ่าน WiFi ที่ความละเอียด 1080p ปรับแสงหน้าจอประมาณ 70% และเปิดเสียงที่ 70% ก็สามารถเล่นต่อเนื่องได้ 10 ชม. หน่อยๆ จนแบตเตอรี่เหลือ 4% ถึงได้เอาไปชาร์จ ก็ถือว่า Huawei Y9 2018 เป็นมือถือที่มีแบตเตอรี่อึดใช้ได้เลยล่ะ ถ้าใช้งานปกติน่าจะอยู่ได้ 2 วันสบายๆ

นอกจากนี้ Huawei Y9 2018 ยังมีโหมด Power Saving และ Ultra Power Saving ที่สามารถยืดอายุแบตเตอรี่ออกไปได้อีกเป็น 2 – 3 วัน ด้วยการตัดระบบ Sync ข้อมูล และการทำงานเบื้องหลังของ App บางตัว (สามารถเลือกแอปที่ต้องการได้)

ส่วนการชาร์จแบตเตอรี่นั้น เนื่องจาก Huawei Y9 2018 ไม่ได้รองรับการชาร์จเร็ว ทำให้ต้องใช้เวลาถึง 3 – 4 ชม. กว่าจะชาร์จได้เต็ม 100% หากปล่อยให้แบตเตอรี่ต่ำจนเหลือเลขหลักเดียว

 

สรุป

กับค่าตัวแค่ 6,990 บาท แต่ Huawei Y9 2018 ให้สเปคมาสำหรับการใช้งานต่างๆ ได้แบบลื่นๆ ไม่มีปัญหาอะไร (อาจมีหน่วงบ้างในบางครั้ง แต่ก็ไม่ได้ทำให้หงุดหงิดอะไรนัก) และยังได้หน้าจอขนาด 5.93 นิ้ว ที่ชัดระดับ FullHD+ ทำให้ทั้งเล่นเกม และดูหนัง ได้ชัดเจนแบบจอใหญ่เต็มตา บวกกับกล้องหน้าคู่หลังคู่ ที่ใช้ถ่ายภาพได้คุณภาพโอเคในมือถือราคาระดับนี้ แถมยังมีโหมด AR Lens เพิ่มลูกเล่น ทำให้การถ่ายเซลฟี่ทั้งแบบภาพนิ่ง หรือวิดีโอ มีความสนุกสนานมากขึ้นอีก

และส่วนตัวชอบมากๆ สำหรับโหมด Video Pro ที่เลือกใช้ Manual Focus ได้ ทำให้สามารถถ่ายหนังสั้น หรือคลิปวิดีโอที่มีลูกเล่นในการถ่ายแบบเลือกโฟกัสด้านหน้าหรือหลังวัตถุได้ด้วย

อีกทั้งแบตเตอรี่สุดอึดขนาด 4000 mAh ที่ใช้งานได้ 2 วันสบายๆ (ขนาดที่ว่านั่งเล่นมือถือได้ทั้งวันเพื่อดูกันไปเลยว่า สายตาจะพังก่อน หรือว่าแบตจะหมดก่อน) ก็นับได้ว่า Huawei Y9 2018 เป็นอีกหนึ่งมือถือราคาประหยัดที่น่าสนใจอีกตัวนึงเลยทีเดียว