ทุกวันนี้มือถือที่รองรับ 5G ก็เริ่มจะมีราคาถูกลงเรื่อย ๆ ซึ่งรุ่นที่มีราคาต่ำกว่าหมื่นบาทก็หาได้ไม่ยากแล้ว ซึ่งราคาระดับนั้นส่วนมากก็จะได้มือถือ 5G ที่มีสเปคแบบเฉย ๆ ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นนัก…แต่สำหรับแบรนด์ Infinix หลาย ๆ คนน่าจะรู้กันดีว่ามือถือค่ายนี้มักจะจัดเต็มกับมือถือสเปคแน่น ๆ ในราคาเป็นมิตรอยู่เสมอ ซึ่งล่าสุดก็คือ Infinix Note 12 Pro 5G ที่มีค่าตัวเพียง 8,299 บาท แต่บอกเลยว่าคุ้มสุด ๆ เพราะเค้าจัดเต็มจริง ๆ จ้า
ดีไซน์
Infinix Note 12 Pro 5G มากับตัวเครื่องที่ใช้ดีไซน์มุมโค้งมน แต่ขอบเครื่องออกจะเหลี่ยม ๆ หน่อย พื้นผิวด้านหลังเป็นลวดลายที่จะเปลี่ยนเฉดสีไปตามองศาของแสงที่กระทบด้วย แต่เป็นพื้นผิวแบบด้านนะครับ ทำให้มันไม่เป็นรอยนิ้วมือมากเวลาไปจับโดนเข้า
โมดูลกล้องยื่นออกมาจากฝาหลังนิดหน่อย โดยมีตัวโมดูลยื่นออกมานิดนึงแล้ว ยังมีเลนส์กล้องยื่นมาอีกชั้น แต่อย่างที่บอกว่ารวม ๆ แล้วก็ยื่นออกมาไม่มากนักครับ เวลาใส่เคสที่แถมมาก็ได้ระนาบเดียวกันพอดี
หน้าจอ AMOLED
คนที่ชอบมือถือหน้าจอสวยสีสด ๆ ใช้งานกลางแดดได้ น่าจะถูกใจกับ Infinix NOTE 12 Pro 5G แน่นอน เพราะมันมากับพาเนลหน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ให้ภาพคมชัดสดใสตามสไตล์ AMOLED เลย แต่เสียดายนิด ๆ ที่ยังให้รีเฟรชเรทมาที่ 60Hz เท่านั้น (เกือบเพอร์เฟ็คท์อยู่ละเชียว) แต่รวม ๆ แล้วไม่ใช่เรื่องใหญ่มากมายครับ เพราะแค่ภาพสวยคมชัดสู้แดดก็ใช้งานสบายแล้ว
และด้วยความที่มันเป็นจอแบบ AMOLED ก็เลยมากับฟีเจอร์อย่าง Always on display ที่สามารถโชว์ข้อมูลประเภท นาฬิกา, Notification, ภาพ ฯลฯ บนหน้าจอเวลาปิดอยู่ได้ด้วย
ลำโพงคู่ + ระบบ DTS SOUND
นอกจาก Infinix NOTE 12 Pro 5G จะมีหน้าจอสวยแล้ว มันยังเหมาะกับสายเอนเทอร์เทนขึ้นไปอีก ด้วยลำโพงคู่ช่วยเพิ่มมิติให้กับการฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกมอีกด้วย แถมเวลาใช้หูฟังก็ยังมีโหมด DTS Sound ให้เลือกใช้ได้อีกนะ
สเปคแรงเร็วลื่นปรื๊ด
สเปค INFINIX NOTE 12 PRO 5G
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080)
- CPU : Dimensity 810
- RAM : 8GB รองรับ Extended RAM สูงสุด 5GB
- ความจุ : 128GB รองรับ microSD Card (ช่องแยก)
- กล้องหลัง 3 ตัว
– กล้องหลัก 108MP (f/1.8)
– กล้อง Macro 2MP (f/2.4)
– กล้องจับความลึก 2MP (f/2.4) - กล้องหน้า : 16MP (f/2.0)
- การเชื่อมต่อ : 5G,WiFi IEEE 802.11 a/b/g/n/ac 2.4G, 5G, USB-C
- เซนเซอร์ : Fingerprint (ด้านข้าง), Proximity Sensor, Light Sensor, Gyroscope, G-Sensor, E-Compass
- ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอ, DTS, รูหูฟัง 3.5 มม.
- แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 33W
สายเกมนี่ยิ้มกว้าง ๆ เลย เพราะสเปคของ Infinix NOTE 12 Pro 5G เหมาะกับการเล่นเกมสุด ๆ จนสามารถเล่นเกมในปัจจุบันได้ทั้งหมด และเล่นได้ลื่นด้วย (หากตั้งค่าให้เหมาะ) ทดสอบเล่นเกมกราฟิกโหดสุดฮิตทั้ง Genshin Impact, Apex Legend, Diablo Immortal ก็สบายแฮ…แต่บอกอีกครั้งว่าต้องตั้งค่ากราฟิกให้เหมาะสมนะครับ หากระบบตั้ง Default มาที่ระดับ Low เราอาจปรับแต่งได้อีกนิดหน่อย อย่างเช่นเพิ่มเฟรมเรท หรือเพิ่มความละเอียดภาพ เพื่อไม่ให้เครื่องทำงานหนักเกินไปแล้วต้องลดประสิทธิภาพลงจนเกมกระตุกนั่นเอง
Genshin Impact เล่นสบาย นาน ๆ จะกระตุกซักทีนึง
Diablo Immortal เล่นได้ไม่มีปัญหา
Apex Legend ลื่นปรื๊ด
หากต้องการความลื่นมากขึ้นไปอีกก็มีโหมดเล่นเกมที่จะช่วยบูสท์ความแรงของ CPU และ GPU พร้อมเคลียร์ RAM เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมให้ดีกว่าเดิม
เรายังสามารถยืมความจุในตัวเครื่องมาเติม RAM ด้วยฟีเจอร์ MemFusion ได้สูงสุดถึง 5GB ด้วยนะ รวมกับ RAM ปกติที่มีอยู่ 8GB กลายเป็นสูงสุดถึง 12GB ไปเลย (เข้า Settings แล้ว Search ว่า MemFusion เพื่อเปิด-ปิดใช้งาน)
เวลาจะเปลี่ยนขนาด MemFusion เครื่องจะรีสตาร์ทก่อนทีนึง
กล้องหลัง 108MP
กล้องหลังของ Infinix NOTE 12 Pro 5G มีให้ทั้งหมด 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 108MP + กล้อง Macro 2MP + กล้องจับความลึก 2MP ซึ่งการถ่ายภาพนิ่งด้วยกล้องหลักจะไม่ได้ตั้งค่า Default ให้ถ่ายออกมาเต็มความละเอียด 108MP นะครับ แต่มันจะใช้เทคโนโลยี Pixel Binning ในการรวมเอาเม็ดพิกเซล 9 เม็ดให้กลายเป็นเม็ดใหญ่เม็ดเดียวเพื่อให้เก็บแสงและรายละเอียดได้ดีขึ้น หรือหากต้องการถ่ายแบบ 108MP ก็มีให้เลือกได้เหมือนกัน
การถ่ายภาพเต็มความละเอียด 108MP เรียกว่าละเอียดแบบสะใจเลยล่ะ เพราะสามารถ Crop ภาพได้เยอะมากจนยังมองเห็นรายละเอียดของป้ายที่อยู่ลิบ ๆ ได้ชัดเจนเลย
Crop ภาพบริเวณป้ายโฆษณายังเห็นตัวอักษรได้แบบชัดแจ๋ว
ส่วนการถ่ายวิดีโอรองรับความละเอียดสูงสุดที่ 2K ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลยนะ ส่วนคุณภาพจะออกมาเป็นยังไงไปดูกันได้จากคลิปรีวิวด้านล่างครับ
แบตเตอรี่ 5000 MAH ชาร์จไว 33W
แบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh ของ Infinix NOTE 12 Pro 5G สามารถใช้งานได้สบาย ๆ แบบข้ามวันเลย และทดสอบแบบหนักหน่วงด้วยการดูคลิป YouTube (ต่อกับ WiFi) ต่อเนื่องยาวววว ถึง 8 ชั่วโมง พบว่าแบตเตอรี่ยังเหลือถึง 56% เลยทีเดียว…เรียกว่าอึดแบบน่าทึ่งจริง ๆ ส่วนการชาร์จแบตเตอรี่กลับก็รวดเร็ว เพราะรองรับระบบชาร์จไว 33W ชาร์จจาก 0 – 100% ในเวลาไม่ถึงชั่วโมงเท่านั้นครับ
สรุป
ข้อดี
- หน้าจอ AMOLED สีสวยสดสู้แดดได้ดี
- ติดฟิล์มกันรอยหน้าจอมาให้เลย
- สเปคแรงพอสำหรับเล่นเกมในปัจจุบันได้ทั้งหมด (ขึ้นกับการตั้งค่า)
- ถ่ายวิดีโอ 2K ได้
- ถ่ายวิดีโอเซลฟี่ 2K ได้
- กล้องหลังคุณภาพใช้ได้สำหรับมือถือราคาระดับนี้
- ถ่ายภาพตอนกลางคืนใช้ได้เลย
- ลำโพงคู่เสียงดังดี
- แบตเตอรี่อึดมาก
- มีระบบชาร์จไว 33W
- มีรูหูฟัง 3.5 มม.
- ราคาเป็นมิตร
ข้อสังเกต
- สแกนนิ้วมือด้านข้าง
- หน้าจอดีไซน์แบบ Notch อาจไม่ถูกใจบางคน
- หน้าจอรีเฟรชเรท 60Hz
- ถ่ายวิดีโอไม่มีกันสั่น
- ไม่มีกล้อง Ultrawide
Infinix NOTE 12 Pro 5G เป็นมือถือ 5G ในราคาระดับไม่ถึงหมื่นบาท (8,299 บาท) ที่น่าสนใจมาก ๆ รุ่นนึงเลย เพราะให้มาแบบครบ ๆ ทั้งหน้าจอ AMOLED, ลำโพงคู่, สเปคแรง, กล้องสวย, แบตเตอรี่อึด และชาร์จไวอีกต่างหาก…สายคุ้มที่ชอบของราคาเป็นมิตรแต่คุณภาพคับแก้วแบบนี้ ต้องขอแนะนำ Infinix NOTE 12 Pro 5G ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจเลยครับ
ตัวเครื่อง ฮาร์ดแวร์ไม่ติด แต่จะได้อัพเดท แอนดรอยไหมตัวนี้ อัพได้กี่เวอร์ชั่น
ค่ายนี้ยังไม่มีอัพเดตแอนดรอยครับ