ตอนนี้ Intel กำลังเจอปัญหาหนักกับการผลิตชิป 18A (1.8nm) โดย Yield rate ต่ำเพียง 10% หมายความว่า ชิปที่ผลิตมา 10 ชิ้น จะใช้งานได้จริงเพียง 1 ชิ้น ซึ่งไม่เพียงพอต่อการผลิตในปริมาณมากและขาดทุนหนัก รายงานจาก Chosun Daily ชี้ว่าปัญหานี้ทำให้ Intel ไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการ Mass Production ได้ และอาจสูญเสียลูกค้าสำคัญอย่าง Broadcom ซึ่งไม่พอใจกับผลการทดสอบประสิทธิภาพของชิป

โดยมีรายงานอ้างว่า Broadcom ไม่ค่อยพอใจกับกระบวนการ 18A ของ Intel เท่าไหร่ และบอกว่ากระบวนการดังกล่าวยังไม่พร้อมในการผลิตจริง ประเด็นดังกล่าวนี้ขัดแย้งกับคำกล่าวของ Pat Gelsinger อดีต CEO ของ Intel ที่เคยระบุว่า Yield สูงถึง 60% ซึ่งเป็นตัวเลขที่เหมาะสมสำหรับการผลิตแบบ Mass Production หรือผลิตขายจริงนั่นเอง
นอกจากนี้ Intel ยังเสียเปรียบ TSMC ที่กำลังพัฒนาเทคโนโลยี N2 (2nm) ซึ่งมีจุดเด่นด้าน SRAM density ที่สูงกว่า ส่งผลต่อประสิทธิภาพชิปในอนาคต ถ้าว่ากันตามปกติแล้ว ค่า Yield rate ที่ผลิตจริงควรที่จะอยู่ที่ 80-90% ขึ้นไป หรือใกล้เคียง 100% มากที่สุด เพื่อให้ต้นทุนการผลิตต่ำ และสามารถกำหนดราคาชิปที่แข่งขันได้

ทั้งนี้ตัวเลขค่า Yield rate ที่ออกมาไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ เพราะทางฝั่ง Chosun Daily เองก็ไม่ได้อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล ส่วนทาง Pat Gelsinger ที่บอกว่า Yield สูงถึง 60% นั้น ก็ไม่ได้มีหลักฐานยืนยันอะไรเหมือนกัน
ถึงแม้สถานการณ์ดูไม่ค่อยดี Intel ยังมีเวลาปรับปรุง Yield rate ก่อนการผลิตจริงในปี 2025 โดยชิปรุ่น 18A วางแผนให้เป็นหัวใจหลักในผลิตภัณฑ์สำคัญ เช่น ชิปเซิร์ฟเวอร์ Clearwater Forest และซีพียูโน้ตบุ๊ก Panther Lake หากปรับปรุงสำเร็จ Intel อาจกลับมามีบทบาทในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ระดับสูงโดยไม่ต้องพึ่ง TSMC อีกต่อไป
เอิ่ม…..ทำไมภาพปกมัน…. 🤢