Intel เปิดตัวซีพียูโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ Core Ultra 200V สถาปัตยกรรม x86 โค้ดเนม Lunar Lake ที่รอบนี้มาพร้อมกับจุดเด่นเรื่องของการประหยัดพลังงานที่ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิม Core Ultra 100 ถึง 50% แต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพเหมือนเดิม เสริมทัพด้วย iGPU รุ่นใหม่สถาปัตยกรรม Xe2 แรงขึ้นแบบก้าวกระโดด ด้าน NPU ก็อัปเกรดมาใหม่ให้แรงทัดเทียมกับแบรนด์คู่แข่งได้แล้ว โดยทั้งหมดนี้สามารถรวมพลังการประมวลผล AI ได้ที่ 120 TOPS ส่วนรายละเอียดต่าง ๆ มีดังนี้
เริ่มกันที่ด้านซีพียูมีการปรับปรุงให้มีัประสิทธิภาพต่อคอร์ดีขึ้นประมาณ 18% P-Core แบบใหม่สถาปัตยกรรม Lion Cove ไม่มี Hyper-Threading แล้ว โดยทาง Intel ให้เหตุผลว่าทำเพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น E-Core ใช้พลังงานต่อคอร์น้อยกว่าเดิมถึง 53% มีประสิทธิภาพดีขึ้น 7% และถ้ารวมทุกส่วนบนตัวชิปจะประหยัดไฟกว่าเดิม 49%
จากตัวเลขจะเห็นว่าทุกอย่างดีขึ้นหมดเลย แต่ทำไมผลการทดสอบที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ถึงไม่ได้เพิ่มขึ้นมากมายนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าไม่มี Hyper-Threading แล้ว เลยทำเหมือนกับว่ามีคอร์ประมวลผลหายไป ซึ่งตามปกติคะแนนต้องหายตามไปด้วย แต่ Core Ultra 200V ก็ทำประสิทธิภาพต่อคอร์ได้ดีขึ้น เลยเหมือนเป็นการเข้ามาชดเชยตรงส่วนนี้ไม่ทำให้คะแนนหายไปมากนั่นเอง
NPU ความแรง 48 TOPS เพิ่มขึ้น 3 เท่า มีกำลังการประมวลรวมสูงสุด 120 TOPS หากเทียบพลังประมวลผล AI กับ Intel Core Ultra รุ่นปัจจุบัน Core Ultra 200V จะทำงานได้ดีกว่าเดิมราว 76% รองรับการทำงานร่วมกับโปรแกรมที่ใช้ AI หลากหลาย
ชิปกราฟิกตัวใหม่ Intel Xe2 แบบ 8 คอร์ ประสิทธิภาพดีขึ้น 30-68% (ขึ้นอยู่กับเกม) ใช้พลังงานน้อยลงกว่ารุ่นก่อน 11-35% รองรับ XeSS และ Ray-tracing เต็มรูปแบบ รองรับการถอดรหัส AVC, VP9, H.265 HEVC, AV1 (Encode / Decode)
แรมแบบใหม่อยู่บน SoC เลยใส่ได้สูงสุด 32 GB ช่วยเรื่องของการประหยัดพลังงานที่ดีขึ้น และลด Latency ช่วยให้ชิปทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ชิปเซ็ตภายในรองรับเทคโนโลยีใหม่เพียบ PCIe 5.0, Thunderbolt 4, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4 ครบจบในตัวไม่ต้องใช้ชิปแยกแล้ว
เรื่องการใช้พลังงานตัว Core Ultra 9 288V กินไฟ 30 W สูงสุด 37 W เป็นชิปตัวแรงที่กินไฟเยอะสุด ส่วนรุ่นอื่น ๆ จะกินไฟน้อยลงมาเหลือ 17 W สูงสุด 37 W พร้อมเคลมเป็นชิปที่แบตอึดที่สุดบนโน้ตบุ๊คฝั่ง Windows เมื่อเทียบกับ Qualcomm และ AMD
ความเข้ากันได้ของโปรแกรม Intel Core Ultra 200V ยังสามารถทำงานกับโปรแกรมชั้นนำบนระบบปฏิบัติการ Windows ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องความเข้ากันได้เมื่อใช้งานเหมือนเดิม
ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น มีระบบรักษาความปลอดภัยในตัวที่ช่วยป้องกันการโจมตีของมัลแวร์ และลดช่องโหว่ต่างๆ
รองรับ Copilot+ PC อุปกรณ์ที่ใช้ Intel Core Ultra 200V จะได้ใช้ฟีเจอร์ AI ใน Copilot+ PC แบบเดียวกับที่ Snapdragon X Elite เคยได้ใช้เมื่อก่อนหน้านี้ โดยจะเริ่มอัปเดตให้ใช้กันในเดือน พ.ย. 2024
ผลการทดสอบจาก Intel เรื่องของแบตเตอรี่ พบว่าโน้ตบุ๊กหน้าจอ 14-16 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ 1080p มีแบตเตอรี่ในตัว 75Whr ซีพียู Intel Core Ultra 7 268V ทดสอบด้วย UL Procyon Office Productivity Benchmark แล้ว สามารถใช้งานได้นานถึง 20 ชม. ถ้าประชุมงานออนไลน์ด้วย Microsoft Teams แบบผู้เข้าประชุม 9 คน จะประชุมได้นาน 10.7 ชม. หรือร่วม 11 ชม. ทีเดียว
ถ้าเป็นโน้ตบุ๊คในสเปคเดียวกัน แต่ใช้ Intel Core Ultra 9 288V ตัวแรงรุ่นกินไฟเยอะ แบตเตอรี่จะใช้งานได้น้อยกว่า โดยการทดสอบ UL Procyon Office Productivity Benchmark สามารถใช้งานได้นานถึง 14 ชม. ถ้าประชุมด้วย Microsoft Teams แบบผู้เข้าประชุม 9 คน ก็ยังใช้งานได้ประมาณ 10 ชม.
สรุป Intel Core Ultra 200V รอบนี้ออกมาเน้นเรื่องการประหยัดไฟ เป็นซีพียู x86 ที่แบตอึดที่สุดในโลก ส่วนจุดเด่นอื่น ๆ คงเป็นเรื่องกราฟิก iGPU ที่รอบนี้แรงขึ้นแบบก้าวกระโดด เพียงพอที่จะเล่นเกม AAA บนความละเอียด Full HD ได้สบาย ๆ แรมบน SoC แบบเดียวกับชิปที่ใช้ในมือถือ อัปเกรดเพิ่มไม่ได้แล้ว
ส่วนซีพียูรอบนี้อาจจะไม่แรงขึ้นแบบมากมายอะไร แรงขึ้นเล็กน้อย แต่ก็มีความเปลี่ยนแปลงสำคัญอย่างการตัด Hyper-Threading ออก เลยต้องชดเชยด้วยค่า IPC ที่สูงขึ้นของแต่ละคอร์ เพื่อใช้ชิปแรงไม่ต่างจากเดิม สำหรับใครที่รอโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิป Intel Core Ultra 200V อยู่ เห็นว่าช่วงแรกที่เริ่มวางจำหน่ายจะเป็นวันที่ 24 ก.ย. 2024 เป็นต้นไป จากแบรนด์ผู้ผลิตชั้นนำทั่วโลก
ที่มา : wccftech videocardz
Comment