เปิดตัวกันไปเรียบร้อยกับ Meizu m3 note รุ่นสานต่อความแรงในราคาจิ๋วๆจาก m2 note ซึ่งถ้าใครได้ลองติดตามงานของค่ายนี้ก็จะพอรู้ว่า งานดีงานละเอียด มีการดีไซน์และรูปแบบการใช้งานที่แตกต่าง แต่ก็ลงตัวไม่เบา แถมไม่ขี้เหนียวเรื่องสเปคและฟีเจอร์ จับยัดทุกอย่างมาให้ในราคาจิ๋วๆ และใน m3 note นี้ก็เช่นกัน RAM/Storage ที่  3/32GB และแบตเตอรีที่ 4,100 mAh เปิดตัวมาที่ราคา 999 หยวน หรือราว 6,000 บาท เท่านั้น

สำหรับ m3 note นี้ จริงๆจะมีเปิดตัวมา 2 รุ่นด้วยกัน ซึ่งต่างกันที่ RAM/Storage เท่านั้น ยังไงมาดูรายละเอียดกันครับ

สเปคของ Meizu m3 note

– หน้าจอ 5.5 นิ้ว LTPS ความละเอียด 1080P (~403ppi) กระจอโค้ง 2.5D

– FlymeOS (Android 5.1)

– CPU : Mediatek Helio P10 (Octa core 1.8GHz)

– GPU : Mali T860

– RAM : 2/3GB

– Storage : 16/32GB eMMC 5.1 + microSD สูงสุด 128GB

– กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล + หน้า 5 ล้านพิกเซล

– รองรับ WiFi 2.4/5G

– 2 ซิม (Hybrid Slot) รองรับ 3G/4G และ VoLTE

– Fingerscan + mTouch 2.1 (ใช้เป็นปุ่มแสกนลายนิ้วมือ + ปุ่ม Back ได้)

– ตัวเครื่องใช้วัสดุโลหะ

– แบตเตอรี่ 4,100 mAh (เคลมว่า stanby ได้ 16 วัน, ดูซีรีย์เกาหลีได้ 17 ตอน, คุยโทรศัพท์ได้ 32 ชม.)

– ราคา 799 – 999 หยวน (ราว 4,800 บาท และ 6,000 บาท)

 

ตามที่ได้คุยกับทีม Meizu Thailand คาดว่าจะนำเข้ามาขายในไทยช่วงต้นเดือนพฤษภาคม หรือเร็วกว่านั้น ส่วนราคาอาจจะแพงกว่าที่ขายในประเทศจีนพอสมควร เพราะว่าต้องโดนทั้งเรื่องของภาษี ค่าบริหารจัดการ และบริการหลังการขาย ซึ่งจะมีการปรับปรุงเพิ่มเติมในปีนี้ ทำให้ต้องบวกราคาเพิ่มขึ้นไปอีกราว 1,000 – 1,500 บาท จากราคาของประเทศจีนครับ

สำหรับใครที่อยากรู้ว่าเจ้า m3 note จะเป็นอย่างไร ใช้งานจริงเวิร์คแค่ไหน รอติดตามเร็วๆนี้ครับ เดี๋ยวจะมีมาให้ดูแน่นอนคร้าบ

เอาภาพบางส่วนมาฝากก่อนตามนี้ครับ

ด้านหลัง ดีไซน์ที่คุ้นเคย meizu ใช้แบบนี้มาสักพักใหญ่ๆละ

ช่องหูฟัง 3.5mm กับไมค์ตัวที่ 2 เพื่อตัดเสียงรอบข้าง

ด้านหน้า ที่จับแล้วให้สัมผัสคล้ายกับ iPhone มากเพราะกระจก 2.5D

ด้านซ้ายของตัวเครื่องเป็นที่ใส่ซิมและ microSD ซึ่งเป็นแบบ Hybrid Slot

ด้านล่างเป็นลำโพง ซึ่งน่าจะแค่ข้างเดียว ส่วนอีกฝั่งน่าจะเป็นไมค์ ยังไงรอการทดสอบอีกทีครับ

ด้านขวาของเครื่องก็ปุ่ม power + ปุ่มปรับเพิ่มลดเสียง

ในงานมีการจับเอาชิ้นส่วนต่างๆมาแยกชิ้นให้ดูกันเลย

ราคาเปิดตัวแบบเบาๆที่จีน แต่เข้าไทยมายังไงราคาก็จะโดดขึ้นไปอีกเล็กน้อย

มีเปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ด้วย เป็น bluetooth + หูฟังเป็นแม่เหล็กดูดกันได้ และกันเหงื่อ

ขายเดี่ยวๆราคานึง

ซื้อพร้อมกับ m3 note ราคานึง

แล้วก็มี bong หรือ wristband ตรวจวัดก้าวเดินและการนอน

ลดราคาเมื่อซื้อแพ็กคู่อีกเหมือนกัน