ในงาน WWDC ที่จัดขึ้นเมื่อต้นเดือน Tim Cook, CEO ของ Apple ได้มีการจิกกัดทาง Android หลักๆอยู่สองเรื่องเดิมๆคือ Fragmentation และ Malware ซึ่งนาย Sundar Pichai รองประธานอาวุโสของ Google ก็ไม่อยู่เฉยในเรื่องนี้ ให้ข้อมูลชี้แจงสถานการณ์ของปัญหาที่มี และการแก้ไขที่ทาง Android ได้ทำไปเรียบร้อยแล้ว รวมถึงสวนหมัดเข้าปลายคาง Apple ว่า
“ถ้าคุณได้ลองดู(นวัตกรรม)ที่แพลตฟอร์มอื่นที่เพิ่งจะมี ไม่ว่าจะเป็น Widget, Custom Keyboards, ของพวกนี้มันได้โผล่มาอยู่ใน Android 4-5 ปีที่แล้ว”
มาดูกันว่า Sundar Pichai ได้ชี้แจงสถานการณ์ของ Fragmentation และ Malware เอาไว้ว่ายังไงบ้างกัน
เลิกพูดถึง Fragmentation ไปดูที่ Google Play Services แทน
Google Play Services เป็นตัวที่ทาง Android ใช้เพื่ออัพเดทอะไรใหม่ที่ๆไม่ใช่ฟีเจอร์หลัก ซึ่งมีการอัพเดททุกๆ 6 สัปดาห์ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้กว่า 93% ได้รับ Google Play Services เวอร์ชั่นล่าสุดไปใช้งาน ซึ่งนั่นเป็นเสมือนการอัพเดท OS ที่เร็วกว่าที่การอัพเดทปกติทั่วไปมาก
นวัตกรรมความปลอดภัยบน Android
Malware Protection – แม้ว่า Google Play จะเปิดให้นักพัฒนาสามารถส่งแอพของตนขึ้นไปได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบที่วุ่นวาย แต่ว่าระบบก็มีการวิ่งไปตรวจสอบทุกๆแอพเหล่านั้นเพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าปลอดมัลแวร์ ส่วนแอพที่อยู่นอกสโตร์ซึ่งผู้ใช้ side load กันเข้าไปเอง ก็มีการตรวจสอบให้เช่นเดียวกัน ในกรณีที่ผู้ใช้อนุญาต
Security Patches – เมื่อตรวจพบปัญหาความปลอดภัยหรือช่องโหว่ของระบบทาง Google ก็จะมีการออกอัพเดทให้ผ่าน Google Play Services ได้ทันที
Factory Reset Protection – ใน Android L ได้ออกฟีเจอร์ Kill-switch เพิ่มขึ้นมา เพื่อสั่งล้างข้อมูลระยะไกลของเครื่องได้ในกรณีเครื่องหาย
Universal Data Controls – ใน Android L อีกเช่นกัน เราจะควบคุมความเป็นส่วนตัวได้ดีขึ้น สั่งเก็บหรือล้างข้อมูลที่ต้องการได้ เช่น ตำแหน่งของเรา ประวัติการใช้งาน ฯลฯ
Malware เป็นปัญหาของ Android จริงเหรอ?
เราเคยได้เห็นข่าวที่ว่า Malware บนมือถือส่วนมากอยู่บนแอนดรอยด์ก็จริง แต่ว่าด้วยความแพร่หลายของ Android ที่กินตลาดไปกว่า 80% ของ Smartphone ที่ขายได้ กลับมีน้อยกว่า 0.5% ของผู้ใช้ ที่เคยเจอปัญหาจาก Malware บน Android (ถ้าคำนวนว่า Android มีผู้ใช้พันล้านคน ก็มีราว 5 ล้านคนที่เคยเจอปัญหา Malware แต่ไม่ระบุเรื่องของความรุนแรงนะ)
อันนี้ก็อยากถามเพื่อนๆเหมือนกันว่ามีใครเคยเจอ Malware สร้างปัญหาให้ชีวิตมั่งยังหว่า?
ปล. จริงๆนาย Sundar Pichai ไม่ได้เอ่ยนาม Apple หรือว่า iOS เลยแม้แต่ครั้งเดียว ต่างจากทาง Apple ที่เล่นเอาตัว Android ไปเสียบประจานกลางงาน WWDC หาทางทำให้คนอื่นดูแย่ แบบที่ไม่ได้สนใจข้อมูลความเป็นจริงสักเท่าไหร่นัก…งานนี้บอกเลยว่าลึกๆก็แอบสะใจเล็กๆที่นาย Pichai สวนกลับไป เพราะอยู่ดีไม่ว่าดี ดันต้องมาหาเรื่องกันก่อนนะ
คิดเหมือนกัน ไม่ชอบมาก ๆ ที่มีการเมนชั่นโจมตีระบุชื่อค่ายอื่นออกมาเลย
ถึงแม้ว่ากฏหมายของเค้าจะโอเคก็ตาม แต่รู้สึกว่ามันไม่โอเคเลยอะ
จริง ๆ จรรญาบรรณสื่อไม่น่าจะโจมตีคู่แข่งโต้ง ๆ ขนาดนั้น
ตอนเรียน media แค่จะเมนชั่นถึงผู้สนับสนุน บางทีเค้าสนับสนุนเราทั้งคู่
แต่การพูดถึงคู่แข่งให้คู่แข่งฟังว่าเค้าก็ซัพพอร์ทเรา บางทียังดูไม่ดีเลย
ไม่ได้สาวก เพราะก็ใช้ทั้ง Android และ OSX (ไม่ได้ใช้ iOS)
แต่มาโจมตีกันแบบนี้ก็ไม่ถูก ใครชอบอะไรก็จะเลือกใช้เอง
ผมชอบครับ ตรงไปตรงมาดี เพราะในตลาดการค้าก็รู้ๆ กันอยู่ว่าาใครแข่งกับใคร
ไม่รู้จะบิดไปม้วนมาให้มากเรื่องทำไม ผมไม่ชอบการตลาด "โลกสวย" แบบของไทยครับ
ไอประเภทบังยี่ห้อดิบดี แต่ดูก็รู้ว่าเอาของยี่ห้อไหนมาเทียบ เหอะๆ
ผมชอบ ขำดี ถ้ามันจริง เอา fact มากัดกัน
แบบไทยๆมันดูน่าเบื่อและหลอกตัวเองครับ
หลายๆอย่างข้อด้อยหรือข้อเสียก็เห็นกันโต้งๆ พี่ทั่นข้ามเลย
ดูถูกสติปัญญาผู้บริโภคมาก
Fact หรอ บางทีผมว่ามันเป็นความจิงด้านเดียวที่เอามาพูดเพื่อให้คู่แข่งดูแย่ เพื่อให้สาวกรู้สึกพองโตและพอใจ
หรือเอาความจริงด้านเดียวมาพูดเพื่อให้ดูดี เช่นตัวเลขยอดขาย ios แต่ไม่ได้พูดถึงตลาดทั้งโลกว่าเป็นแค่ไม่กี่%เมื่อเทียบกับ Android
เอ้า ไปเรื่องสาวกซะงั้น
ผมกล่าวรวมๆ ผมชอบค่ายต่างๆกัดกัน ไม่ใช่แค่มือถือ
พวกรถอะไรแบบนี้ก็ด้วย ขำดี ก็ความจริงกันทั้งนั้นนี่นา
ส่วนทุกค่ายก็พูดเรื่องตัวเองได้เปรียบทั้งนั้น
แต่ตราบใดที่มันคือ fact ไม่มโนใส่กันผมว่าไม่เสียหายครับ
ยิ่งพูดด้านเดียวอีกฝ่ายก็มีช่องมาพูดอีกด้าน
คราวนี้เราก็ได้รู้ความจริงว่าค่ายไหนแย่ด้านไหนดีด้านไหนจากการแซะกัน
ถ้ารับข่าวหลายๆด้านแล้วคิดวิเคราะห์ตาม ก็หนุกดีออก
แต่ถ้าเป็นแฟนบอยก็อีกเรื่อง..
จะให้พูดครบทุกด้านคงต้องคาดหวังเอากับสื่อที่เป็นกลาง(หายาก)ไม่ใช่ค่ายพวกนี้
บ่นยาวเลย ผมพอดีกว่า
ถ้าตัวหนังสือผมมันขัดตาขัดใจ ข้ามๆไปก็ได้ครับ ขอโทษครับ
นั่นดิ ถ้าเป็นแฟนบอย ios มาจุ้นทำไมในบอร์ด android
เม้นนี้ก็พูดถูกนะ แต่ถ้ามองในมุมมองคนคิดมันขึ้นมาแล้ว มันก็น่าหวงนะ ที่มีคนเอาไอเดียเราไปโชแล้วบอกว่า นี่มันใหม่ จริงไหมครับ และผมว่ามันไม่ได้ออกไปในทางโจมตีสะทีเดียวครับ ผมว่ามันการตลาดครับ
เคยเจอครั้งนึงของเพื่อนมันจะส่ง sms ออกไปสมัครบริการเสียตังทุกครั้งที่เราเปิดเครื่องใหม่ ต่อให้เรายกเลิกกี่ครั้งมันก็จะสมัครเอง ทีแรกไม่เชื่อแต่พอเล่นมันจริงๆ เลยต้องล้างเครื่องอาการหายไปเลย
เคยเจอครั้งนึงของเพื่อนมันจะส่ง sms ออกไปสมัครบริการเสียตังทุกครั้งที่เราเปิดเครื่องใหม่ ต่อให้เรายกเลิกกี่ครั้งมันก็จะสมัครเอง ทีแรกไม่เชื่อแต่พอเล่นมันจริงๆ เลยต้องล้างเครื่องอาการหายไปเลย
ผมว่าเป็นธรรมเนียม.นะ
iOS เปิดตัว ก็มีจิกกัดค่ายโน้นนี่ ขึ้น Keynote เล็กๆ น้อยๆ มาตลอด
ก็ถือว่าเจ๊า..กัน เพราะทุกโฆษณาในทีวี ทุกยี่ห้อก็กัด เพียงยี่ห้อเดียว คือ apple เหมือนกัน
ผมว่าเป็นยี่ห้อที่ถูกกัด และเปรียบเทียบมากที่สุดในโฆษณาเลยด้วย….
กลับกันในโฆษณา ผมไม่เห็น apple กัดใครนะครับ ในยุค iOS
ปล. มีใครให้ ยี่ห้อไหน…ที่ถูกโจมตี เปรียบเทียบ จากคู่แข่งมากกว่า Apple อีกบ้างครับ?
ที่ว่าเป็นธรรมเนียม คือธรรมเนียมของฝั่ง Apple มากกว่ามั้งครับที่ชอบจิกกัดค่ายอื่นๆ ส่วนที่ Google ขึ้นมาเค้าเรียกว่าชี้แจงให้เห็นความจริง ไม่ใช่จิกกัด แต่บังเอิญข้อมูลความจริงอาจจะไปจิกกัดสาวกเข้ามั้งครับ
แล้วตามมารยาทเค้าจะไม่ขึ้นชื่อให้เห็นชัดๆ (ถึงคนดูจะรู้ว่าหมายถึงใครบ้างก็ตาม) แต่ Apple ก็ขึ้นชื่อคนอื่นหราเลย
ผมว่า ที่ apple กัด ก็เป็นความจริงนะ……
มีอันไหนด้วยเหรอครับ ที่ไม่จริง
ผมไม่ได้บอกว่าสิ่งที่ apple พูดไม่จริงนะครับ แต่จะพูดแค่จุดที่ดีกว่าส่วนจุดที่แย่กว่าไม่พูดถึงแค่นั้นเองครับ
ผมเคยเห็นใบโฆษณาเครื่อง PS2 ที่เมกาตอนปี 2003 (ไปครั้งสุดท้ายตอนโน้น)
ก็เห็นว่ามันตีแผ่ชัดๆ เลยนะว่าเครื่อง PS2 ดีกว่า Xbox กะ Gamecube ยังไง ไม่เซ็นเซอร์ด้วย แต่ของมันสิบกว่าปีแล้ว คงเอาหลักฐานมาแสดงไม่ได้นะครับ
แอปหลายๆ ตัว กูเกิ้ลก็ดึงออกมาจาก OS มาเป็นแอปเดี่ยวๆ เช่น google maps,gmail,google+ ส่วนตัวคิดว่าตั้งแต่ 4.1 เป็นต้นมา OS หลักก็ไม่ต่างจาก 4.4 มากเท่าไร สรุปคือผู้ใช้อย่าไปกังวลเรื่อง fragmentation มากนัก
ส่วนเรื่องมัลแวร์ ก็ไม่เคยเจอนะ ส่วนตัวโหลดจาก play store อย่างเดียว ถ้าผู้ใช้โหลดจากที่อื่นที่ไม่ใช่ play store หรือลง apk เองแล้วเจอมัลแวร์ จะไปโทษแอนดรอยด์ก็ไม่ถูกนัก เหมือนลงโปรแกรมเถื่อนในวินโดวส์แล้วเจอมัลแวร์ จะโทษวินโดวหรือ
ปูลู ใช้ nexus 4 อยู่จะได้ลอง android L เมื่อไรนะ
android รุ่นใหม่ใช้ชื่อแค่ตัว L หรอครับ หรือว่ายังไม่ได้คิดชื่อเลยใช้ตัวย่อ L ไปก่อน
เบื่อเหมือนกันเวลาคนอื่นชอบโจมตี Android ว่ามี malware ทั้งที่ผมเองและคนรอบข้างไม่เห็นเคยมีปัญหาจาก malware ซักที ไม่จำเป็นต้องมี Antivirus ให้วุ่นวายเลยด้วย แต่ถ้าใครมีปัญหาเพราะไปโหลดแอพเถื่อนมาใช้อันนี้มันก็ช่วยไม่ได้เพราะทำตัวเองให้อยู่ในความเสี่ยงเอง
สวนกันไป สวนกันมาอะดีครับ
เพราะ ส่วนที่ ios ไม่มี ก็ไปลอก android มาใส่ ส่วนที่ android ไม่มีก็ไปลอก ios มาใส่
ผู้บริโภคสบายเลย มีแต่ได้กับได้ 55
+1
อยากรู้ว่า มีอะไรที่ Android ลอกบ้าง
Android TV มาช้าหรอ เราว่าไม่นะเพราะปีที่แล้วchormecast ก็เปิดตัว , 2 ปีก่อนก็มี nexus q
Android Auto, Android Fit อะไรนั่นก็มาพร้อมกับ Apple นั้นละ แค่มาหลัง 1 WK ก็ไม่เรียกว่าลอกหรอก ไม่งั้นใครเปิดตัวมาทีหลังก็เรียกว่าลอกหมดนั่นละ แม้เพียง 1 ชั่วโมง
Widget แอนดรอยก็มาก่อน
UI แบบ flat แอนดรอยก็มาก่อน แต่อยู่ในรุป Custom Launcher แต่จะให้ถูกคือWindows Phone ทำมาก่อน
มือถือหน้าจอใหญ่แอนดรอยก็ทำมาก่อน แถมก่อนหน้ามีเย้ยด้วยว่า เอาไปทำไมหน้าจอใหญ่ แล้วตอนนี้?
Custom Keyboard , Word Suggestion, Swype Keyboard(คีย์บอร์ดแบบสไลด์)ก็ทำมาก่อน เผลอๆก่อน BB ด้วย
คืองงว่า อะไรที่ตัวเองทำมาก่อนจะจิกกัด แต่พอทำหลังจะบอกว่าทำให้มันดีขึ้นกว่าที่ตลาดมีอยู่แล้ว
คือถ้าจะจิกกัดกันจริงๆ แนะนำว่าตอนเปิดตัวเลย แล้วพอหลังจากเปิดตัวแบบนานๆ แล้วเพิ่งทำค่อยหาว่า ลอก เช่น Keyboard ที่แอนดรอยด์มีมานานแล้ว แต่แอปเปิลเพิ่งมี อันนี้ลอกจริง แต่อย่างอื่นมันแค่เปิดตัวทีหลังอะ
งั้นเราก็บอกได้ว่า Smart Watch, Google Glass พวกนี้ถ้าแอปเปิลทำทีหลังก็แสดงว่า ลอก สินะ
ปล. ตอนนี้จะหา innovation จาก Google ได้เยอะ แต่อีกฝั่งแทบไม่มีหลังจาก Jobs ตาย
ปล2. ไปอ่านเว็บของสาวกแอปเปิลมา แถมมีการลงลิ้งไว้ด้วยว่าเปิดตัวก่อนนะ เพื่อ? แต่ทีตัวเองทำหลังไม่เห็นอ้างอิงเลยว่า ลอกชาวบ้านมานะ แต่จะบอกว่า ทำให้มันดีกว่าที่มี
คืออจะบอกว่า ลอกๆไปเถอะถ้ามันดีจริงอะ เช่น Keyboard แบบแนะนำคำ หรือหน้าจอใหญ่ แต่ไม่ควรมาจิกกัดแบบนี้
+100
+101
+102
ผมว่า ดราม่า เรื่อง เปิดตัวก่อนหลัง เนี่ย
มันมาจาก แอนดรอย์ไปว่า ตอน iOS 8 ออกมานััั้นแหละครับ
เคยมีกระทู้ขึ้นแนะนำในพันทิป…..ซึ่ง กลายเป็นว่า เปิดตัวหลังกลายเป็นลอก ไป
อย่าง คีย์บอร์ด ซึ่งมันไม่ได้เป็นการลอก เพราะเป็นการแค่เปิดให้เข้าถึงเท่านั้น…
ปล. ผมเล่นพันทิปเป็นหลัก….พอดูกระแสได้….ตอนนี้ แอนดรอย์มี 64 bit แล้ว
ผมไม่เห็นกระทู้กวน หรือ ดราม่าเรื่องนี้เลย….แทบไม่มีดราม่าเลยด้วยซ้ำมั่ง
ต่างจากตอน iOS 8 เปิดตัวมาก บอร์ดแทบพัง…..
+103
+55000
ถึงพวกคุณๆที่ #โลกสวย
ไม่ต้องไปห้ามไอ้พวกสาวกมันหรอกให้เลิกปากหม..
เพราะมันเป็นมาตั้งแต่ตัวศาสดา และตัวพ่อบนเวที ละ
แล้วจะหาความสงบสุขได้ไง os ก็เริ่มล้าหลังก๊อปเอาๆ
มันก็ต้องด่ากลับเป็นธรรมดา
และมันเริ่มก่อนทุกครั้ง เริ่มบนเวทีนี่แหละ
#สงครามน้ำลาย
+104
ถูกใจ ชอบ ๆ เอาอีก ส่วนตัวใช้ทั้ง android และ ios แต่ว่าหลงไหลก็ยังอยู่ที่ android ผมว่าการแข่งขันเป็นสิ่งดี ทำให้สินค้าสมบูรณ์ยิ่งขึ้น การจิกกัดผมมองว่าเป็นสีสัน นะมันต้องมีกันบ้างหล่ะคร้าบบบบ
ยาวขี้เกียจอ่าน
แต่ผมรู้มาว่า swype keyboard มันไม่มีบน iOS ตั้งแต่แรกแล้ว
แต่มีบนแอนดรอยตั้งแต่เวอร์ชัน 2 แล้วไม่ใช่หรือ
ผิดถูกยังไง ชี้แจงได้ครับ
+105
การกัดคนอื่น คือสัญญานชี้การเป็นมวยรอง และการเสียเซลฟ์
เอาง่ายๆโฆษนาเป๊ปซี่ ชอบจิกโค้ก แต่โค้กไม่เคยจิกเป๊ปซี่
หรือโนเกีย จิกแอปเปิ้ล แต่แอปเปื้ล ไม่ต้องจิกโนเกีย
ต้องบอกตรงๆ ว่า
ดรอยมีก่อน แต่มันเนี๊ยบเหรอครัฟฟฟ
– เปลี่ยนคีย์บอร์ดได้ก่อน แต่ไม่ได้คิดว่าเวลาป้อนรหัสผ่านควรจะใชัคีย์บอร์ดของระบบแทน
– มี notification center ก่อน แต่ค่ามาตรฐานไม่ได้แสดงว่าขึ้น noti อะไร ต้องปลดล็อกจอ แล้วลาก noti bar ด้านบนเพื่อดู (ของ iPhone เปิดจอก็เห็น noti แล้ว)
และอีกหลายๆ อย่างที่ดรอยทำไม่เนี๊ยบ อย่างเวลาจอหรี่แสงไป แทนที่จะแตะจอเพื่อทำให้จอสว่างอย่างเดียวเหมือน iOS แต่กลายเป็นกดแล้วจอสว่างและกดปุ่ม กดลิงค์ในบริเวณนั้นไปด้วย หลายทีก็กลายเป็นการแตะโดยไม่ได้ตั้งใจ
ข้อแรกผมยังไม่รู้นะครับว่าเป็นยังไง แต่ที่อ่านแล้วคิดว่าน่าจะใช่คือ พอเราเลือกคีย์บอร์ดมาหนึ่งตัวแล้วพอจะใส่ pass ก็กลับไปใช้ของระบบตัวเองหรอครับ มันลำบากไปไหมครับที่ต้องสลับไปๆมาๆ แค่เปลี่ยนภาษาไทยเป็น eng แต่ละเจ้าก็ไม่เหมือนกันละ แถมรูปแบบ layout ก็ไม่เหมือนกันอีก
ข้อ 2 อันนี้ผมเห็นด้วยว่ามันทำไม่เนี้ยบจริง แต่มันคงงไม่เสียเวลามากหรอกครับ เพราะหน้าแรกของ Android ก็เป็น widget ที่แสดงข้อมูลอยู่แล้ว แค่ Apple มาเพิ่มเป็น Noti ทีหลัง
ข้อสุดท้าย ไม่เคยใช้ครับ
คีย์บอร์ดเปลี่ยนเองอัตโนมัติสิครับ พอแตะช่อง password คีย์บอร์ดระบบก็ขึ้นมาเอง ไม่ต้องเปลี่ยนเอง
เข้าใจผิดเรื่องคีย์บอร์ดแล้วครับ…..
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพของแอนดรอย์ คีย์บอร์ด manman เวลาเราพิม พาสเวิร์ด
มันก็เป้นของคีย์บอร์ด manman เองเลย ซึ่งมันเสียงมาก ว่าเค้าจะเก็บพาสเวิร์ดเราไปด้วย
แต่ของ apple โหลคีย์บอร์ด manman ก็ใช้งานเป็นปกติแต่เมื่อไหร่ ที่เราพิมพาสร์เวิร์ดเช่นเข้า เฟส
มันก็จะขึ้น คียร์บอร์ด ระบบ ขึ้นมา แทนที่จะเป็นตัวคียบอร์ด manman
แต่พอเราใช้งานพิมข้อความก็เป็น แป้นพิมพ์ manman ปกติ มันจะปลอดภัยกว่าครับ
ทำให้..ผุ้พัฒนาคีย์บอร์ดนอก ไม่สมารถเก็บ พาสเวิร์ด เราไปได้….
งั้นก็ขอโทษด้วยครับที่เข้าใจผิด
ข้อ 1 ผมเฉยๆมากครับ ถ้าคุณสังเกตุนะครับ แอพแต่ละตัวจะมี permission ที่ขอไว้และสามารถทำได้อยู่แล้วนะครับ
man man keyboard ไม่ได้ขอ permission internet ไม่ได้ขอ permission อะไรเลย แล้วเค้าจะดักเก็บข้อมูลไปได้ไงครับ
ข้อ 2 Notification Android ในความเห็นของผม ผมพูดได้เต็มปากเลยว่าดีกว่า iOS แน่นอนครับ ของ iOS โดย default ทั้งที่เรา lock จอไว้ เราควรเห็น Noti หรอครับ
สมมติ ทำมือถือหาย แล้วคนอื่นมาเก็บไป ไม่รุ้พาสเครื่องเรา แต่เค้าสามารถเห็น Noti เราได้อย่างนั้น เรียกว่าดีหรอครับ
เนี๊ยบในความหมายของแต่ละคนหมายความไม่เหมือนกันนะครับ ต่างคนต่างความเห็น ต่างความชอบครับ
ผมว่ามันน่ารำคาญนะ ถ้าจะต้องปลดล็อกจอเพื่อไล่ดู noti น่ะ
ถ้ามือถือหายไป เขารู้ว่าเราได้ noti อะไร แต่ก็ทำอะไรกับข้อมูลไม่ได้อยู่ดีนิครับ ติดหน้าล็อก หรือถ้าจะปลอดภัย เข้าไปติ๊กใน setting นิดเดียวก็ซ่อน noti ไปได้หมดแล้ว
Android รุ่นอื่นผมไม่รู้นะครับ
แต่ Xperia ไม่ต้องปลดล็อกจอ
ถ้ามีแจ้งเตือน Noti ก็แค่กดปุ่ม Start
แล้วลากแถบแจ้งเตือนลงมาดูได้เลย
Android รุ่นอื่นผมไม่รู้นะครับ
แต่ Xperia ไม่ต้องปลดล็อกจอ
ถ้ามีแจ้งเตือน Noti ก็แค่กดปุ่ม Start
แล้วลากแถบแจ้งเตือนลงมาดูได้เลย
เอาไรมาพูดเนี่ย อยากอธิบายแต่ไม่ดีกว่า555 น่าจะหาข้ออื่นมาวัดกัน ทุกข้อที่ว่ามาตรงกันข้ามแบบสุดสุด ตอนนี้คุณใช้รุ่นไรอยู่ที่เป็นandroid จะแนะนำให้ว่าต้องทำไง ไม่ว่าจะเรื่องnotiหรืออะไร จะเอาแบบอ่านข่าวบนลอกสกีนเลย หรือถ้าขี้เกียจมากจะอ่านข้อมูลตั้งแต่ไม่เปิดเคสก็ทำได้หลายรุ่น หรือถ้าขี้เกียจกดมาก ก็ไปชื้อmotox มันเปิดหน้าจอโดยไม่ต้องแตะทอสับเลย หรือไปโหลดแอพ asistantก็ได้ มันจะถามว่ามีsmsเข้า จะไห้อ่านให้ฟังไหม ตอบว่าเยส มันก้อจะอ่านให้ฟัง มือไม่ต้องขยับเลย ตาก็ไม่ต้องมองจอให้เมื่อยสายตา555 อักมากมายที่ดรอยสะดวกและดีกว่าแบบเห็นได้ชัด เราชอบiphoneสองอย่างคือ ขายต่อได้ราคา และ มีหลายคนเลยมองว่าเราดูดีเวลาใช้ จบนะ
เอาจริงๆ นะ จากคนที่ใช้แอนดรอยมาหลายปี (ตั้งแต่ HTC tattoo) ตอนนี้ใช้ motorola razr v4.0.3
เฉยๆ ครับจิ๊กกัดกันตามสบาย เพราะฟังชั่นที่มาให้ใช้จริงๆ ไม่ถึง 50% หลักๆ ก็โทรเข้ารับสาย เปิดฮอตสปอต เกมเล่นบ้าง เพลงก็ไม่ค่อยได้ฟัง กล้องนี้ยิ่งแล้วใหญ่ จะอัพเดตเวอชัน จะออกแอนดรอยเวอชั่นใหม่ออกมาก็เฉยๆ นะเพราะเท่าที่มีก็ยังใช้ไม่หมดเลย
ระบบปฏิบัติการไหนๆ จะดีไม่ดีมันอยู่ที่ "คน" ประยุกต์ใช้ให้เข้ากับชีวิตประจำวันตัวเองได้แค่ไหน บางคนยังไม่รู้เลยว่าบางฟังชั่นมีอยู่ในเครื่องตัวเองด้วย ไม่ว่า iOS Android หรือระบบปฏิบัติไหนๆ มันก็อยู่ที่เราใช้งานนั้นแหละ ปรับให้เข้ากับชีวิตได้ก็พอ ส่วนบริษัทเขาจะโฆษณาจุดเด่นของเขามันก็เรื่องธรรมดา แหละไม่มีใครเอาจุดด้อยของตัวเองมาโชว์หรอก
ตอนนี้ที่ใช้อยู่ ก็มี Ubuntu กับ แอนดรอย ผมไม่เน้นเล่นเกม จึงไม่จำเป็นต้องใช้วินโดว แม้ตอนนี้ Steam ก็ลง ubuntu แล้วก็ตาม บางรีวิว กล่าวว่า ubuntu เป็นข้อเสียของโน๊ตบุ๊คเครื่องนั้นๆ เลยทีเดียว ถึงขั้นลงวินโดว์เพื่อรีวิว พระเจ้าช่วยกล้วยทอด!!
โน๊ตบุ๊คของผม 7 – 8 ปี ยังสามารถใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหา โปรแกรมมีการอัพเดต ก็อัพได้หมด มีปัญหา เข้าไปยังชุมชนของ ubuntu ก็สามารถศึกษาและแก้ไขได้ด้วยตัวเอง ง่ายๆ พิมพ์คำสั่ง ไม่กี่บรรทัดจบเลย ส่วนตัวตอนนี้ชอบ Ubuntu ใช้ง่ายมากแทบไม่ต้องยุ่งยากอะไรกับมันเลย
ตอนนี้ให้กลับไปใช้วินโดว์ก็คงไม่ไปแล้วล่ะ เพราะ ไม่มีตังซื้อแผ่น ฮ่าๆๆ
ปล.ตอนนี้อยากลง chrome OS มากกว่า อิอิ
ชอบวิธีการตอบโต้แบบนี้ของ Sundar ที่ไม่มีการเอ่ยชื่อใครทั้งนั้น บอกแต่ว่า "คู่แข่ง" แล้วก็ focus ไปที่ fact ว่าความจริงมันเป็นเพราะอะไร เพราะเค้าคงรู้สึกว่าต้องตอบโต้บ้าง เงียบมากก็ไม่ดี ซึ่งการตอบโด้แบบนี้ดูมีคลาสมากกว่าอีกฝั่งที่มุ่งจิกกัดเพื่อเอาชนะและความสนุกปากไปวันๆ คล้ายกับการจับกลุ่มนินทาชาวบ้านว่าไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ ก็แล้วก็หัวร่อต่อกระซิก แต่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าเค้าสักเท่าไหร่ แต่คนเราใครมันอยากจะประจานตัวเองใช่มั้ยครับเท่าที่สังเกตวัฒนธรรมองค์กรของทั้งสองที่อาจจะต่างกัน ทำให้ attitude ต่างกัน ซึ่งเรื่องนี้ดูได้จากการแสดงออกของผู้บริหารองค์กรเอง Apple จะออกแนว "เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด" เมื่อผู้นำว่าไง เราก็ว่างั้น ทำตามท่านผู้นำไม่มีทางผิด ส่วนของ Google เองเราจะเห็นว่าน้อยมากที่เราจะได้ยินผู้บริหาร Google จิกกัดใครแบบที่ Apple ทำหรือแม้แต่โฆษณาสินค้าของ Google เองก็ไม่มีการแซะใครทั้งนั้น เน้นที่ solution ที่ตัวเองต้องการนำเสนอให้โลกรู้มากกว่าการพูดระรานเอาสนุกปากแบบขำๆ(เฉพาะกลุ่ม)
วิเคราะห์ได้เห็นภาพมากเลยครับ สุดยอดดดด
เห็นด้วยเลยครับ ผมก็เห็นว่าการจิกกัดเป็นสีสันอย่างหนึ่งขององค์กร แต่การจิกกัดที่ดีอย่างที่คุณว่าคือไม่ควรเอ่ยชื่อคู่แข่ง ถึงแม้จะรู้ว่าหมายถีงใครก็ตาม เช่น
http://www.flashfly.net/wp/?p=94285
แม้ว่าจะจิกกัด Bing ของ M$ แต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยชื่อบริษัท
อ่านเม้นแล้วสนุกดี ได้ความรู้ น่าจะมีการรวบรวมข้อมูลดิบของคอมเม้นมาเขียนใหม่ในรูปแบบบทความนะครับ แบบในเชิงภาษาพูดหนะ ส่วน 3 ประเด็นหลัก คือ แฟคเม้นเตชั่น ไวรัส และใครก๊อปใครเนี้ย
1. ผมสนับสนุนให้มีการทำอุปกรณ์ออกมาเยอะๆนะ ให้มีความหลากหลาย เหมือนวิวัฒนาการนั่นแหละ ถ้ามันไม่มีความหลากหลายแล้วจะเกิดการคัดสรรตามธรรมชาติได้ไง(พื้นฐานความรู้ประถม แต่มนุษย์แอปเปิ้ลดันไปคิดว่าสองสามอันดีแล้ว เวรกรรม ผ่านประถมมาได้ยังไงเนี้ย(แซว) จะแอคว่าคิดนอกกรอบว่างั้น สุดท้ายเครื่องพวกก็บานเต้ แพลอยเป็นทาง ให้เหตุผลว่าตกรุ่นแล้ว แล้วต่างอะไรกับดรอยครับ) ความยากในการพัฒนาแอปนั้น สุดท้ายผมคิดว่าก็ต้องหาทางออกได้ และก็จริง
2. ไวรัสก็พูดได้เลยว่าระบบที่มีผู้ใช้มากขนาดนี้ มันก็ต้องมีบ้างแหละ(ใครไม่มีไม่ต้องอิจฉา) และเราหยุดคนทำได้มั๊ยครับ เราห้ามไม่ให้เค้าคิดทำได้มั๊ย ไม่ได้ไง พูดได้เลยว่าร้อยเปอร์ต้องมี คำตอบอยู่ที่ทีมรักษาความปลอดภัยระบบ ถ้าเค้ามุ่งมั่นทำ ไม่ทิ้งๆขว้างๆเหมือนวินโดว์(ไม่ได้กล่าวถึงบริษัทอื่นๆที่ทำไวรัสแสกนให้กับวินนะ) ที่พยายามทำออกมาแล้วก็ห่วย เหลว ทั้งๆที่เป็นปัญหามาตั้งแต่วินเริ่มดังใหม่ๆเลยด้วยซ้ำ ดูทีมของดรอยกดจนไวรัสอยู่แค่ระดับ 0.5 เปอร์ ทั้งที่ครองตลาด 80เปอร์ เค้าก็ทำได้ไม่เลวนะ นี่ถ้าวินใช้จ่ายเงินง่ายเหมือนดรอยนะ ป่านนี้เศรษฐกิจพังเพราะโดนแฮกทุกวัน ไวรัสนี้เห็นจนบางคนใช้คู่ไปกับงานของตัวเองไปเลย เรียกได้ว่าถ้าเครื่องไม่มีไวรัสแล้วคงต้องงงๆนิดๆ
3. ใครก๊อปใครสุดคลาสสิค
3.1 ความคิดของผู้ใช้ธรรมดา ก็อปไปเหอะได้โปรด ผู้ใช้ได้ประโยชน์ จะเถียงกันให้ได้อะไร(เถียงกันทั้งๆที่ไม่มีความรู้เนี้ยนะ บางคนอ้างผิดๆถูกๆมั่วๆไปคนละทางไม่อยู่ในประเด็น เสียเวลา ไม่ได้อะไรนอกจากศัตรู)
3.2 ถ้าคุณเป็นพวกกรีค คุณก็เถียงกันเต็มที่เลย เอาข้อมูลจริงๆมาเล่นกันเลย ให้คนอ่านได้ประโยชน์ ผู้เถียงได้ความจริง จะมาม่า ไวไว อะไรก็ทำเถอะ อย่าห้ามกันเลย(เหมือนได้อ่านนิยายแนวใหม่เรื่องนึงเลย ผมชอบ สนุก ได้ความรู้) แต่ขอร้องให้อยู่ในกติกาที่ดี มีมารยาทต่อสังคม
….จบ
+1 ครับ ผมว่าอ่านคอมเมนต์คนถกเถียงกัน(แบบใช้ความจริง)ก็สนุกดี
แล้วก็เรื่อง การคัดสรรจากธรรมชาติ เรื่องนี้น่าคิดครับ เพราะจากที่เคยผ่านตากันมา เราก็มั่นใจกันได้ว่า ถึงจะเป็นเทคโนโลยี ก็ยังใช้คำนี้ได้อยู่ดี
อิๆ จิงๆบางเรื่อง เราคิดว่าเรารู้ดี ที่จริง ยังไม่เข้าใกล้ของเรื่องที่คุยกันเถียงกันสักนิด ความเป็นจิงของเค้าและเค้าหรืออีกเค้า คนอย่างเรานี่นะจะรุ้ได้ สมมุติถ้าเค้าๆๆๆๆได้อ่านเรื่องหยุมหยิมที่เราจับเป็นเด็นใหญ่โต คงนั่งหัวเราะ..
ช่างน่า5555 อ่อแต่เรื่องปลายทางถึงมือผู้ใช้ก็คงรู้กันดีแหละ แต่ผมหมายถึงเรื่องต้นถึงรากโน่นอะ ทำไมถึงรู้และเชื่อกันจนเถียงกันทุกบอร์ดอิๆ
สมนํ้าหน้า Apple อักคนน่ะ ชอบจิกกัดค่ายอื่นนี่เป็นสันดานของ apple มากกว่าใครๆ พอๆกับปากสาวกล่ะ เหมือนลูกถอดพ่อมาเต็มๆ โดนเอาบ้างมันดิ้นตายล่ะบอกเลย ดิ้นไปก็เท่านั้นอยู่กับความจริงดีกว่า สะใจหิหิ
ถึงคุณ Eka-x เอาไรมาพูดเนี่ย อยากอธิบายแต่ไม่ดีกว่า555 น่าจะหาข้ออื่นมาวัดกัน ทุกข้อที่ว่ามาตรงกันข้ามแบบสุดสุด ตอนนี้คุณใช้รุ่นไรอยู่ที่เป็นandroid จะแนะนำให้ว่าต้องทำไง ไม่ว่าจะเรื่องnotiหรืออะไร จะเอาแบบอ่านข่าวบนลอกสกีนเลย หรือถ้าขี้เกียจมากจะอ่านข้อมูลตั้งแต่ไม่เปิดเคสก็ทำได้หลายรุ่น หรือถ้าขี้เกียจกดมาก ก็ไปชื้อmotox มันเปิดหน้าจอโดยไม่ต้องแตะทอสับเลย หรือไปโหลดแอพ asistantก็ได้ มันจะถามว่ามีsmsเข้า จะไห้อ่านให้ฟังไหม ตอบว่าเยส มันก้อจะอ่านให้ฟัง มือไม่ต้องขยับเลย ตาก็ไม่ต้องมองจอให้เมื่อยสายตา555 อักมากมายที่ดรอยสะดวกและดีกว่าแบบเห็นได้ชัด เราชอบiphoneสองอย่างคือ ขายต่อได้ราคา และ มีหลายคนเลยมองว่าเราดูดีเวลาใช้ จบนะ
อีกอย่าง iphone จะเปิดกล้องทำไม้ต้องแตะตัวเครื่อง แอนดรอยไม่ต้องนะ
ไอโฟนจะฟังเพลงก็ต้องแตะตัวเครื่อง แอนดรอยไม่ต้องกะได้นะ
ที่ชอบที่สุดคือ googlenow ฉลาดมาก พิมด้วยเสียงแม่นมาก คำว่าok google พูดภาษาอีสานก็ได้ ไม่ยาก สนุก ดี คุ้ม ของดีบุ๋มก็บอกว่าดีนะ อย่ามาอย่ามา555
ก็เพราะแอนดรอย คิดอะไรก็ยัดๆ เข้าไป มันเลยขอืดค้างมาตลอดไง
ฟีเจอร์เยอะในขณะที่ศรัพยากรเครื่องไม่เพียงพอ
แต่ Apple เลือกมาใส่ตอน อะไรๆ มันพัฒนาแล้ว พอคิดอะไรไม่ออก เลยเอาที่ Google มี มาใส่ในตัวเองบ้าง
จะว่าลอกมันก็ไช่แหละ แต่ Apple เลือกจังหวะที่จะเอามาใส่ ไม่ไช่เอามาใส่ทั้งหมดโดยเครื่องไม่พร้อมเหมือนที่ Google ทำ
แต่ที่อยากให้ปรับปรุงคือ อันนี้เสนอ Google นะคือ เปลี่ยนจาก Support ทุก 18 เดือนเป็น 2 ปีตาม HTC แล้วให้แต่ละรุ่นอัพเดทภายใน 2 เดือนนับจากที่ปล่อย Source ลง AOSP(รุ่นเรือธงของปีที่อัพเดท android major changed ได้ภายใน 2 เดือนส่วนรุ่นเรือธง 1 ปี(หรือhardware ภายในเหมือนกันเช่น Z/ZR/ZL)ก็ภายใน 3-4 เดือนถัดมา) อันนี้จะดีมากเพราะกว่าแต่ละรุ่น แต่ละเจ้าอัพทีรอไปเหอะ ตัวใหม่มา ตัวเก่ารุ่นก่อนหน้ายังไม่ได้กิน
แล้วก็เสียงของ Google Now/ Translate ขอให้พูดเหมือนมนุษย์แบบ Siri/Cortana หน่อยก็ดีนะ 555 บางครั้งฟังยาวๆแล้วแสบหู รวมถึงการพูดคุยได้เหมือนทั้ง 2 เจ้าก็จะดียิ่ง เพราะเคยเสนอในงาน GDG ที่จัดตอนพฤษา มั้งแล้วก็ไม่มีอะไรเลย
อันนี้ไม่รุ้เปลี่ยนได้ป่าวนะ เพราะมันมีมาตั้งนานแล้ว คือออก android รุ่นใหม่แค่ 1 ตัวต่อปี แต่คงยากนะ 555
ปล. ปีนี้ดูเหมือน Google จัดเต็มเลยแหะ ทั้ง Hardware/Software สงสัยเพราะถึงเวลาพอดีก็ได้มั้ง
ผมรู้แต่ว่า os copy ios เขาจะเรียกว่า ก็อปมา เลียนแบบมา ทุเรศหน้าด้าน ( แต่ถ้า ) ios copy os เขาจะเรียกว่า ต่อ ยอด ความสำเร็จครับ คิดได้ไง มันดูดี โอว์สุดยอดมากๆๆ 555555 สิ่งที่ os มีคือทำได้ทุกอย่างแต่ตอนกำเนิดแล้วขอรับ ในขณะที่ ios ทำทุกอย่างเพียงแค่ต่อลมหายใจไปเท่านั้น!! ลาก่อนครับ ios ระบบปิดฝาโลง ( ค.ห.ส.ต ) ล้วนๆขอรับ
+inf.
เท่าที่ดูจากเว็บนี้ เขาก็ชี้แจง ถกเถียงกันในบางเรื่อง อาจมีจิกกัดบ้างตามประสาคนต่างค่าย แต่จะจบด้วยการเปรียบเทียบอะไรดีกว่า ด้อยกว่า เช่น ที่ iOS7 เปิดตัวแล้วมี Notification หรือ iOS8 เปิดตัวแล้วมี Widget แบบ Notification บลาๆ ก็จะมีการเทียบกันระหว่าง iOS vs Android
ios vs android ก็เหมือนสมัย osx vs windows แหละครับ ผลสุดท้ายแล้วจะเป็นยังไงก็รู้ๆกันอยู่
ตอนนี้ android ก็เสถียรมากแล้ว(บางค่าย) ติดแค่คุณภาพของแอฟและผู้พัฒนา
ถ้าเท่ากันเมื่อไหร่ ผู้ชนะก็จะเหมือน osx vs windows
สมัยก่อนใครๆก็รู้จัก windows น่ะนะ osx คืออะไรหรอ? กันทั้งนั้น
แต่ถ้าผู้พัฒนาแอฟยังโอนเอียงไปทาง ios ไม่ให้ความเสมอภาคกัน ก็สู้กันต่อไปละกัน
นิสัย apple ใจไม่ได้กว้างเหมือน microsoft, google หรอกนะ
หลงอะไรก็หลงพอประมาณพอ ดูหนังเรื่อง joตู๊ดละs เฮ้อ…เลย
ุผุ้ชนะ คือ อะไรเหรอครับ…ระบบ ปิด กับ เปิด มันต่างกันอยู่แล้ว
apple ทำเองคนเดียว คนใช้น้อยกว่า ถือว่าแพ้
android ให้ค่ายอื่นทำ มีคนใช้เยอะกว่า ถือว่าชนะ..?
Benz แพ้ Civic เหรอครับ..ถ้าคิดงั้น……
นิสัย Apple ไม่เปิดกว้าง เหมือน microsoft หรือ google เรื่องไรครับ???
เรื่องเอา iOS ให้ค่ายอื่นทำเหรอถือว่าเปิดกว้าง
แล้วเรื่อง App ไม่ต้องกังวลเลยครับ ยังไงนักพัฒนา
ก็ลงทุก แพทฟรอร์ม ไม่เลือกค่ายอยู่แล้ว
ปล. ให้คิดแบบนี้ครับ ระบบปฏิบัติการ
มีทั้ง ระบบปิด และ เปิด…เหมือน กลางวันกับกลางคืน
ทั้งสองแบบ มีข้อดีข้อด้อยต่างกัน….
เราไม่จำเป็นต้องมีอย่างใดอย่างหนึ่งครับ…มันควรจะคู่กัน
ไม่มีอันไหนผิดอันไหนถูก
ผมว่าคำตอบของคำถามว่าผู้ชนะคืออะไรเนี้ย ต้องถามด้วยเหรอครับ คือไม่ใช่รู้ๆกันอยู่ที่เปอเซนต์ผู้ใช้รึ เอาเถอะถึงคุณจะอ้างอะไรที่เป็นข้อมูลที่น่าสนใจมามากมาย แต่ยังไง จำนวนผู้ใช้ก็การันตีแทบจะทุกอย่างอยู่แล้ว บริษัทเดียวจะดิ้นรนอะไรได้มากใช่ป๊ะ ขายดีก็ดีใจด้วย อย่าให้หายไปเหมือน BB ละกัน ออกมาเป็นออฟชั่นให้ผู้ใช้เลือก และนักเลงคีย์บอร์ดได้ฉะกันก็ต่อไป ผมว่ามันก็พื้นฐานนะ แพ้ชนะหนะ(และมันไม่ยั่งยืน) ยอมรับง่ายๆดีกว่ารึเปล่าครับ
ส่วนนี้ไม่เกี่ยวกับประเด็นหลัก
และผมว่าระบบปิดกับเปิดหนะ คุณค่าทางจิตใจต่างกันมากครับ ผมแฟนพันธ์ทางโอเพนซอร์สจะขอมาอวยระบบนี้หน่อย ตอนนี้โคดของแอนดรอยและลินุกซ์หนะ มันแทรกซึมไปทุกที่เพราะคนเอาโคดไปปรับแต่งจนกลายเป็นอารยะธรรมย่อยๆเลยก็ว่าได้(ซุปเปอร์คอม เซอเวอร์ อุปกรณ์ทีวี 9ล9) ระบบปิดมีปัญญาทำได้อย่างนี้มั๊ยครับ สตีปจ๊อปเก่งจริงผมยอมรับ แต่แนวคิดของเค้ามันไม่อาจจะเรียกได้เต็มปากว่าเพื่อมวลมนุษย์ แต่เรียกได้เลยว่าเพื่อบริษัท(ดูมันรวยซะ) แอปเปิ้ลจะไปซุ่มทำอะไรก็ไปทำเถอะครับ เราก็แค่ลูกค้ามัน ได้ใช้เฉยๆ ไม่ได้เข้าใจมันหรอกครับ(และถ้าไม่อยากเข้าใจผมก็ไม่ได้ว่า แต่คนอื่นเค้าอยาก) เอาไปทำอะไรต่อยอดได้มั๊ย(คงได้หรอก เดี๋ยวมันฟ้องถึงเพือนๆญาติพี่น้องโน้น ดูมันไล่ฟ้องแอนดรอยดิ แล้วสุดท้ายใครเสียประโยชน์จริงๆ ก็ผู้ใช้ทั้งนั้น) ไม่ได้ ระบบปิดแบบนี้เนี้ย มีข้อดีตรงไหนครับ(ฉี่รดกางเกงในตัวเองในหน้าหนาวเหรอ) เราก็แค่ใช้ตามที่ผู้นำจะสั่ง เราจะเริ่มอะไรใหม่ๆได้ยิ่งใหญ่เท่าแอนดรอยมั๊ย ผมสงสัย แอนดรอยจะเกิดมั๊ยถ้าไม่มีลินุกซ์อยู่บนโลกนี้ ไม่ต้องสงสัยครับผู้ให้กำเนิดลินุกซ์นั้นแหละคือตัวจริง นักพัฒนาหนะก็เป็นกลุ่มหมาล่าเนื้อ อะไรทำเงินได้ก็ต้องไปทางงั้นไว้ก่อน เค้าจะสนระบบที่มีคนใช้ 1 เปอร์ก่อน 10 เปอร์หรือเปล่า คนเราต้องกินต้องใช้นะอย่าลืม ถ้างั้นประเด็นหลักของระบบที่ดีต่อผู้ใช้ก็คือ ต้องมีผู้นำที่ดี และมองว่าอะไรดีที่สุดต่อมวลมนุษย์ คำตอบคืออะไรครับยกมือ…. OPENSOURCE ไงทิด
ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องเกลียด อีกระบบ เลยหนิ….
เราเป็นแค่ผุ้ใช้ เองนิ
เหมือนจะบอกว่า บริษัทที่ทำ OS เอง ทำ Hardware เอง ขายเอง เห็นแก่ตัวซะงั้น
ไปยอมให้ใครเอาไปใช้……ผมว่ามันตลกไปนะ…
เอาเถอะ ผมว่าคุณเกลียด apple เข้าไส้เลยแหละครับ ผมเคยอ่านความเห็นคุณมาบ้างจะกระทู้ก่อนๆ
ถูกต้องเลย ผมโครตเกลียดบริษัท Apple เลยครับ ขอบอก Microsoft ด้วย แต่ก็ใช้นะ Ipad 2 ที่บ้านผมมี 2 เครื่อง Iphone 5 และ s 2 เครื่อง แมค Air อีกเครื่องนึง ไอพอดด้วย อย่าลืม ส่วนไมโครซอฟไม่ต้องพูดถึง บานเต(ได้เงินจากผมไปเยอะมาก) แต่ส่วนตัวผมใช้ Linux และ Andoird เป็นหลัก
ปล. ถึงผมเกลียดแต่ฉันก็ต้องการ ไม่ว่าใครๆ
เอาไปเรย ล้านกระโหลก 5555 สำหรับคุณ indyend แต่ ios มันก็คือระบบที่ทำให้ดูเหมือนว่าจะดูดี แต่ผมว่าไม่จริงม๊าง บอกตรงเลยครับ ผมไม่ชอบ ios ครับ เหตุผลมันอยู่ที่ตัวผมอยู่แล้วขอรับ
ถ้าพูดถึงระบบ..จริงๆ iOS และ Windows phone พึ้นฐานดีกว่าแอนดรอย์เยอะครับ….
พื้นฐานเค้าแน่น… เทียบง่ายๆนะครับ ให้ใช้ แอ๊บดนตรี…แล้วกดคีย์ เปียโน…จะรู้ครับ
แล้ว อีกอย่างนะครับ Apple และ Microsoft เค้า เป็น เจ้าพ่อ OS มาก่อนครับ
เค้า มี Mac OS และ Windows OS
จะบอกว่า พื้นฐาน เค้าแน่นนนนนนเปรี๊ยะ..ครับ
พึ้นฐานแอนดรอย์ เกิดมา สู้กับ BB ครับตอนแรก แล้วพึ่งเปลี่ยนมาเป็น ทัชสกรีน เอาตอน iphone ออก
เข้าใจนะครับ ว่าถ้าจะทำให้ android ดีเทียบเท่า ต้อง รื้อใหม่หมดครับ
ปล. ความจริงก็คือความจริง ครับ อย่าเอา ระบบสาวก ความรู้สึก มาตัดสินใจ
OK ครับ
iOS, Apple เจ้าพ่อทุกสถาบันครับ มีทั้งคนชื่นชมและปกป้อง ส่วนที่เหลือที่ไม่ใช่ Apple ก็บอกว่า ลอกๆๆๆๆ กันมาทั้งนั้น
แต่คุณอย่าลืมว่าระบบปิดกับเปิด อะไรจะก้าวหน้ากว่ากันครับ อย่างแต่ก่อน Apple ก้าวหน้ากว่ากันมาก เห็นได้จาก iPhone1-4s,iPod,iPad แต่ตอนนี้Android ต่างหากละครับที่ก้าวหน้ากว่า ไม่ใช่เพราะเก่ง แต่เพราะ เป็นระบบเปิดไงครับ
ซึ่งทั้งคู่มีทั้งข้อดีและเสีย เช่น ระบบปิดควบคุมการทำงานได้หมด อุดช่องว่างเวลาเกิดปัญหาได้เร็ว แต่ข้อเสียคือพัฒนาต่อยอดช้า ส่วนระบบเปิดก็ตรงกันข้ามกันนั่นละ
ซึ่งไม่เกี่ยวกับพื้นฐานแน่นเลยครับ เพราะถ้าพื้นฐานแน่นจริงทำไม Windows Mobile/ WP ถึงพัฒนาช้าจนแทบจะไม่มีที่ยืนแล้ว ทั้งๆที่ทำมาก่อนทุกเจ้าในตลาดตอนนี้ คือกำลังจะบอกว่าคนที่มีพื้นฐานแน่น ไม่จำเป็น ต้องครองตลาดเสมอไปครับ มันอยู่ที่ vision มากกว่า ถ้าตอนนั้น Windows มองเห็นอนาคตว่ากำลังเปลี่ยนไปก็เป็นผู้นำได้สบายๆครับ แต่มันไม่ใช่(ปล ผมไม่ได้สาวก M$ นะ แต่ที่กล่าวถึงเพราะมันเป็นความจริง) เหมือนกับ Google ตอนนั้นที่มองว่าต่อไป อินเทอร์เน็ตจะครองโลก ก็เลยสร้าง Search Engine ขึ้นมาพร้อมๆกับ Yahoo ที่เป็นคู่แข่งกันจนตอนหลัง ฝ่ายหลังก็แพ้ไปจนตั้งตัวได้เมื่อต้นปีที่แล้วมา
แล้วการทำให้ Android ดีเทียบเท่านั้น โอเคว่าต้องรื้อใหม่หมดจริงอย่างที่ทำกับ Android L ที่เปลี่ยนใหม่หมดเลย แต่ก่อนหน้านั้นตั้งแต่ Android 4.1 เป็นต้นมาก็เสถียรแล้วนะไม่จำเป็นต้องรื้อใหม่ก็ได้ แต่ถ้ามองการณ์ไกลก็คงต้องบอกว่าตามสมัยนิยม เพื่อจัดระเบียบใหม่ และให้มันเป็นไปตามแนวทางที่ได้วางไว้ ซึ่งอาจจะใช้ได้แค่ไหนก็ต้องรอดูว่า Google จะบังคับจริงจังเหมือนที่ Apple ทำไหม
ปล ผมก็ชอบทั้ง Apple, Google ละแต่เกลียด M$ แต่ข้างบนก็อ้างอิงตามหลักการจริงที่ได้อ่านจากหนังสือสงครามดิจิทัลนะ
ปล2 ผมชอบระบบ Android มากกว่าเพราะมันเป็นระบบเปิด ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องมี Virus อยู่แล้ว แต่ถ้าเราไม่ทำอะไรที่เสี่ยงๆ ก็ไม่ติดหรอกครับ คนที่ติดนั่นละที่ทำเอง จะโทษ OS ก็ไม่ได้ เช่นถ้าคุณโหลดของเถื่อน หรือดุหนังโป๊ แล้วมีไวรัสมาคุณจะบอกหรอว่า Windows/Android ไวรัสเยอะว่ะ ไปใช้ Apple ดีกว่า ไม่มีไวรัส
ไม่จำเป็นครับว่าระบบปิด อย่าง iOS จะพัฒนาช้ากว่า ระบบเปิด…
ถ้าแค่เค้าอยากเก้า เค้าก็จะก้าวไปเร็วกว่าระบบ เปิด อย่างแอนดรอย์ด้วยซ้ำครับ
เช่น ระบบ 64 bit ระบบปิด อย่าง iOS สามารถจัดการดัดแปลงและควบคุมทิศทางได้ทันที
หรือ เมื่อเปลี่ยน interface ใหม่ ก็สามารถบังคับทิศทางได้ง่ายดาย รวมถึง
บังคับ นักพัฒนา App ให้ทำ interface ให้ลองรับได้ทันที
เพราะ apple ควบคุมเองทั้งหมดครับ
แต่ฝั่งแอนดรอย์ ทำได้ยากกว่า เพราะระบบเปิดกว้าง การเคลื่อนที่ทำได้ช้าเพราะต้องรอกันหลายฝ่าย
เช่น 64 bit กว่า Android L จะออกได้ใช้กันในอับเดทกัน ต้องรอ ฝั่งผุ้ผลิต ออก ชิพอีก
รวมถึงต้องรอการเปลี่ยนแปลงของ App ใน Storeด้วย เป็นต้นครับ
แล้วระบบ app การเขียน app ฝั่งแอนดรอย์ยังตามหลัง iOS อยู่มากนะครับ
ปล. อย่าเอาเรื่อง เพิ่มวิดเจ็ด เปลี่ยนคีย์บอร์ด อะไรพวกนี้ได้ มาเทียบครับ
เพราะเรื่องพวกนี้ไม่ถือว่านำ เลยครับ มันเรื่องเล็กน้อยมาก
ฝั่ง iOS ถ้าเค้า เจลเบรก มันก็ทำได้ครับ เรื่องพวกนี้… แต่เรื่องการนำ หรือไม่นำ
มันต้องดูที่ระบบ องค์รวมครับ ที่ไม่สามารถสร้างได้ในข้ามคืนครับ
comment เยอะจัง อ่านไม่ไหวแฮะ แต่ดูแค่นี้ก็พอรู้
Android ครองแชมป์อีกแล้ว 97% ของ Malware สมาร์ทโฟนอยู่บน Android จ๊ะ
[url]http://droidsans.com/97-percent-of-mobile-malware-is-on-android-platform[/url]
[เตือนภัย] มัลแวร์ที่มาในรูปแบบแอนตี้ไวรัสปลอม อาจทำให้สูญเงินในบัญชีได้
[url]http://droidsans.com/node/130199[/url]
ซื้อมือถือปลอมวันนี้ แถมฟรีมัลแวร์
[url]http://droidsans.com/fake-chinese-phone-malware-infected[/url]
และอีกหลายๆ แอพที่เคยเป็นข่าวบน play store หรือ google play ในเว็บนี้แลไปลองค้นดู
ไม่แปลกที่จะโดนคู่แข่งเอาไปใช้ขายของ
[url]http://youtu.be/DijFob8vxgI][/url]
ฝรั่งเข้าแซวกันแรงเป็นปรกติมั้ง
สำหรับท่านที่มา comment ในนี้บ่อยๆ เป็น power user แล้ว
malware บน android คงทำอะไรท่านไม่ได้
แต่สำหรับ อาม่า อากง อาเจ็ก อาแปะ และ end user แบบผม มันมีความเสียงสูงอะครับ
ขี้เกียจจะพูด รู้แต่ว่า คนงบน้อยแบบเราเหมาะสมกับของถูกกว่าทำงานได้ยืดหยุ่นกว่า
จะเทียบกันจริงต้องเอารุ่นทอปมาเทียบ
เราใช้สองระบบมายาวนาน แอนดรอยดีกว่าจริงจริงทุกด้าน นี่ขนาดแอนดรอยรุ่นกลางนะ แต่พอเราถือiosคนชื่นชมมากกว่าถือแอนดรอย ความเหมาะสมการใช้งานเราเหมาะกับแอนดรอย
เพราะเราไม่มีคอมwindows
1 เราชอบโหลดเพลงใน4shared. โหลดmv hd full hd จากtubemate ที่บิ้วอินvery hight speed downloader เนทเราเอจช้าช้าก้อเร็วยังกว่าสามจีแบบเร็ว ลองดูดิ
2 Google map มีประโยชกับการนำทางกับเรามากมีเสียงไทย
3 เราชอบโดนถามนั่นนี่ตลอดเราก็google now ให้พ่อแม่พี่สาวเพื่อนน้องฟังอ่านคำตอบด้วยกันอย่างรวดเร็ว
4.เราจัดการไฟล์ทุกอย่างบนมือถือ zip coppy วาง ตัด ส่งไฟล์ทุกนามสกุลที่มือถือ
และอีกมากมายที่เราคิดว่าเหมาะกับเราที่กำลังซื้อน้อย
ถ้าสักวันเรามีกำลังซื้อiosรุ่นทอปล่าสุด เราก็คงจะว่าแอนดรอยเหมาะกับเรากว่า เพราะมันทำง่นได้หลายอย่างกับชีวิตเราจริงจริง ก็iphone มันทำไม่ได้จริงจริงเห็นกันอยู่ แต่เราปลื้มในราคาที่ขายต่อมากกกกก คนแย่งกันซื้ออะถ้าแอนดรอยขายยากกว่า ขาดทุนเยอะมาก มีไอโฟนเหมือนมีทอง55