ตอนนี้เหล่ามือถือเรือธงระดับพรีเมี่ยมจากค่ายต่าง ๆ ก็เปิดตัวกันเกือบครบแล้ว (เหลือ Pixel 7 อีก…แต่เอาแค่นี้ก่อน) แน่นอนว่าแต่ละรุ่นต้องจัดทั้งเรื่องหน้าจอ, ความแรง, กล้อง, แบตเตอรี่, ระบบชาร์จ มาให้แบบเต็ม ๆ จนหลายคนไม่รู้ว่ารุ่นไหนมีอะไรดีไปกว่ากัน และใครมีจุดเด่นตรงไหนบ้าง เราก็เลยจับเอามือถือตัวท็อปของแต่ละค่ายทั้ง iPhone 14 Pro / Max, Galaxy S22 Ultra, Xiaomi 12s Ultra, OPPO Find X5 Pro, vivo X80 Pro และ HUAWEI Mate50 Pro มาชนกันให้เห็น ๆ ไปเลยว่าใครจะเป็นยังไงบ้าง

สเปค iPhone 14 Pro | Galaxy S22 Ultra | Xiaomi 12s Ultra | Find X5 Pro | vivo X80 Pro | Mate50 Pro

สเปคiPhone 14 Pro / MaxGalaxy S22 UltraXiaomi 12s UltraOPPO Find X5 Provivo X80 ProHUAWEI Mate50 Pro
พาเนลหน้าจอOLED ขนาด 6.1 นิ้ว / 6.7 นิ้วAMOLED ขนาด 6.8 นิ้วAMOLED ขนาด 6.73 นิ้วAMOLED ขนาด 6.7 นิ้วAMOLED ขนาด 6.78 นิ้วOLED ขนาด 6.74 นิ้ว
ความละเอียด2532 x 1170 / 2778 x 12843088 x 14403200 x 14403216 x 14403200 x 14402616 x 1212
รีเฟรชเรท120Hz120Hz120Hz120Hz120Hz120Hz
ความสว่างจอสูงสุด2,000 nits1,750 nits1,500 nits1,300 nits1,500 nits1,500 nits
CPUA16 BionicSnapdragon 8 Gen 1Snapdragon 8+ Gen 1Snapdragon 8 Gen 1Snapdragon 8 Gen 1Snapdragon 8+ Gen 1 (4G)
RAM6GB8GB / 12GB12GB12GB12GB8GB
ความจุ128GB / 256GB / 512GB / 1TB128GB / 256GB / 512GB256GB / 512GB256GB256GB256GB / 512GB
กล้องหลัง– กล้องหลัก 48MP (f/1.78), กันสั่น Sensor-shift OIS

– กล้อง Ultrawide 12MP (f/2.2)

– กล้อง Telephoto 12MP (f/2.8) ซูม Optical 3x, กันสั่น OIS

– กล้องหลัก 108MP (f/1.8), กันสั่น OIS

– กล้อง Ultrawide 12MP (f/2.2)

– กล้อง Telephoto 10MP (f/2.4), ซูม Optical 3x, กันสั่น OIS

– กล้อง Periscope 10MP (f/4.9), ซูม Optical 10x, กันสั่น OIS

– กล้องหลัก 50MP (f/1.9), กันสั่น OIS

– กล้อง Ultrawide 48MP (f/2.2)

– กล้อง Telephoto Periscope 48MP (f/4.1) ซูม Optical 5x, กันสั่น OIS

– กล้องหลัก 50MP (f/1.7), กันสั่น 5-Axis Stabilization

– กล้อง Ultrawide 50MP (f/2.2)

– กล้อง Telephoto 13MP (f/2.4) ซูม Optical 5x

– กล้องหลัก 50MP (f/1.57), กันสั่น OIS

– กล้อง Ultrawide 48MP (f/2.2)

– กล้อง Telephoto 12MP (f/1.8), ซูม Optical 2x, กันสั่น OIS

– กล้อง Periscope 8MP (f/3.4), ซูม Optical 5x, กันสั่น OIS

– กล้องหลัก 50MP (f/1.4 – 4.0), กันสั่น OIS

– กล้อง Ultrawide 13MP (f/2.2)

– กล้อง Periscope 64MP (f/3.5) ซูม Optical 3.5x, กันสั่น OIS

กล้องหน้า12MP (f/1.9), 4K40MP (f/2.2), 4K32MP (f/2.4), 1080p32MP (f/2.4), 1080p32MP (f/2.45), 1080p13MP (f/2.4), 4K
การเชื่อมต่อ5G, WiFi 65G, WiFi 6e5G, WiFi 6e5G, WiFi 6e5G, WiFi 64G, WiFi 6
ระบบเสียงลำโพงสเตอรีโอลำโพงสเตอรีโอลำโพงสเตอรีโอลำโพงสเตอรีโอลำโพงสเตอรีโอลำโพงสเตอรีโอ
มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นIP68, ลงน้ำจืดลึก 6 เมตรIP68, ลงน้ำจืดลึก 1.5 เมตรIP68, ลงน้ำจืดลึก 1.5 เมตรIP68, ลงน้ำจืดลึก 1.5 เมตรIP68, ลงน้ำจืดลึก 1.5 เมตรIP68, ลงน้ำจืดลึก 6 เมตร
แบตเตอรี่3200 / 4323 mAh5000 mAh4860 mAh5000 mAh4700 mAh4700 mAh
ระบบชาร์จมีสาย 20W / ไร้สาย 7.5W / MagSafe 15Wมีสาย 45W / ไร้สาย 15Wมีสาย 67W / ไร้สาย 50Wมีสาย 80W / ไร้สาย 50Wมีสาย 80W / ไร้สาย 50Wมีสาย 66W / ไร้สาย 50W
ระบบiOS 16Android 12Android 12Android 12Android 12Android 12

 

หน้าจอ

สำหรับหน้าจอของมือถือทั้ง 6 รุ่นนี้ ถ้าไม่ได้มาวางเทียบพร้อม ๆ กันก็แทบจะไม่เห็นความแตกต่างในการแสดงผลเท่าไหร่นัก เพราะแต่ละรุ่นก็จัดเต็มมาให้ด้วยพาเนลแบบ OLED / AMOLED ที่มีสีสันสดสวย พร้อมความละเอียดสูงคมชัดบาดตา และรีเฟรชเรทลื่น ๆ 120Hz กันทั้งหมด

ที่พอจะเอามาข่มกันได้ก็คงจะเป็นระดับความสว่างหน้าจอที่จะมี iPhone 14 Pro / Pro Max โดดเด่นกว่าใครเพราะสามารถเร่งได้สูงสุดถึง 2000 nits เมื่อใช้งานกลางแจ้งแดดจัด ๆ ตามมาด้วย Galaxy S22 Ultra ที่เร่งแสงได้ 1750 nits ส่วนรุ่นอื่น ๆ ก็จะอยู่ที่ 1500 nits และต่ำสุดคือ OPPO Find X5 Pro ที่ 1300 nits

หากจะพูดถึงเรื่องดีไซน์หน้าจอส่วนมากก็ใช้การเจาะรูเล็ก ๆ สำหรับวางกล้องเซลฟี่ทั้งนั้น จะมีก็แค่ iPhone 14 Pro Series ที่เจาะรูกล้องเป็นแถบยาวซึ่งบางคนอาจจะคิดว่ามันรกสายตามากกว่า Notch แบบเดิมซะอีก…แต่ Apple ก็ใส่ฟีเจอร์ Dynamic Island เข้ามาให้มันดูมีอะไรจนคนว้าวกันได้ ส่วนอีกรุ่นก็คือ HUAWEI Mate50 Pro ที่ยังคงใช้ Notch เป็นแถบยาวอยู่ เพราะต้องวางทั้งกล้องเซลฟี่และเซนเซอร์ 3D ด้วยนั่นเอง

Mate50 Pro

แต่สำหรับรุ่นที่โดดเด่นกว่าใครในนี้ก็คือ Galaxy S22 Ultra ที่ไม่ได้มีแค่หน้าจอสวย ๆ เท่านั้น แต่มันยังรองรับการใช้งานร่วมกับปากกา S Pen ให้เอามาใช้ประโยชน์ได้จริง ทั้งการจดโน้ต หรือการวาดรูปขีด ๆ เขียน ๆ ที่ไม่มีรุ่นไหนสู้ได้ครับ

Samsung Galaxy S22 Ultra

สเปคเครื่อง

สเปคเครื่องของมือถือเรือธงในปัจจุบันนี้ บอกเลยว่าแรงเกินความจำเป็นไปมากแล้ว โดยชิป Snapdragon 8 Gen 1 และ Snapdragon 8+ Gen 1 ของฝั่ง Android ก็เรียกว่าแรงจนเล่นเกม 3D กราฟิกโหด ๆ ในปัจจุบันได้ทั้งหมด RAM 8 – 12GB ก็ทำให้เปิดแอปต่าง ๆ ค้างไว้ได้เพียบพร้อมสลับไปมาได้อย่างรวดเร็ว

ยิ่งชิป A16 Bionic ของ Apple ที่เคลมว่าเป็นชิปตัวแรงจัด ๆ ของฝั่งมือถือ ก็อีกนั่นแหละ…แรงมากเกินกว่าที่จะเอาไปใช้ได้เต็มประสิทธิภาพในปัจจุบันแล้ว เพราะฉะนั้นในส่วนนี้แทบไม่ต้องตัดสินใจเลือกเลย เพราะแรงทุกรุ่น ใช้งานลื่นทุกรุ่นอยู่แล้วครับ

กล้องหลัง

มาถึงส่วนสำคัญที่เรียกว่าเป็นจุดขายของเหล่ามือถือเรือธงระดับพรีเมี่ยมทุกรุ่น ซึ่งแต่ละค่ายก็พยายามงัดเทคโนโลยีกล้องมาถล่มใส่กันเต็มที่ เอาจริง ๆ คือแต่ละคนอาจมีความชอบในสไตล์ภาพที่ไม่เหมือนกันก็ได้

Play video

iPhone 14 Pro Series

อัปเกรดด้วยกล้องหลัก 48MP ที่มีระบบกันสั่นสุดเนียน Sensor-Shift พร้อมเทคโนโลยี Quad Pixel และ Photonic Engine เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพที่แสงน้อยให้ออกมาเนี้ยบสุด ๆ มีฟีเจอร์ Action Mode สำหรับการถ่ายวิดีโอที่เนียนนิ่งแม้จะวิ่งอยู่ก็ตาม

Galaxy S22 Ultra

อัดกล้องหลักมาให้ถึง 108MP โดดเด่นด้วยกล้อง Telephoto จำนวน 2 ตัว ซูม Optical ได้ที่ 3x และ 10x แถมยังดันระยะซูมออกไปได้สูงสุดถึง 100x (Space Zoom) มีการประมวลผลจากตัวเซนเซอร์ + NPU และระบบ Multiframe ช่วยให้การถ่ายภาพและถ่ายวิดีโอตอนกลางคืนออกมาได้สว่างคมชัดกว่าเดิม

Xiaomi 12s Ultra

คราวนี้ไปจับมือกับ LEICA ช่วยในการพัฒนาซอฟท์แวร์กล้องเพื่อเพิ่มความเทพให้มากกว่าเดิม ส่วนด้านฮาร์ดแวร์ก็จัดเต็มด้วยกล้องหลัก 50MP ที่มีขนาดเซนเซอร์ใหญ่ถึง 1 นิ้ว, กล้อง Ultrawide 48MP และกล้อง Telephoto แบบ Periscope ที่ซูมแบบ Digital ได้ถึง 120x และเอาใจสาย Extreme ด้วยระบบกันสั่น HyperOIS ที่นิ่งสุด ๆ

OPPO Find X5 Pro

จับมือกับค่าย Hasselblad ช่วยกันพัฒนากล้อง แถมยังมีชิปประมวลผลภาพถ่าย MariSilicon X ที่มีความสามารถในการประมวลผลด้าน AI โดย NPU สุดทรงพลังโดยผสานกับ ISP ในตัวเพื่อยกระดับ Computational Photography ให้ถ่ายภาพและวิดีโอได้แจ่มแจ๋วกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นที่ระบบกันสั่นแบบ 5 แกน (SLR-Level 5-Axis Stabilization) เพิ่มความนิ่งให้กล้อง และมีอีกจุดเด่นคือ 4K Ultra Night Video ที่สามารถถ่ายวิดีโอระดับ 4K ด้วยโหมดการถ่ายภาพตอนกลางคืนได้ด้วย

vivo X80 Pro

จับมือกับค่าย ZEISS เพื่อพัฒนากล้อง พร้อมชิปประมวลผลภาพถ่าย V1+ ISP มากับกล้องหลัก 50MP + กล้อง Ultrawide ความละเอียด 48MP และกล้อง Telephoto จำนวน 2 ตัว ซูมแบบ Optical ได้ 2x และ 5x

HUAWEI Mate50 Pro

อีกหนึ่งมือถือกล้องเทพที่แม้คราวนี้จะไม่ได้ไปจับมือกับแบรนด์กล้องไหนแล้ว แต่ก็พัฒนาเทคโนโลยีภาพถ่าย XMAGE เพื่อเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทั้งเรื่องภาพนิ่งและการถ่ายวิดีโอ มากับกล้องหลัก 50MP มีกันสั่น OIS + กล้อง Ultrawide 13MP + กล้อง Telephoto เลนส์ Periscope 64MP มีกันสั่น OIS ที่สามารถซูม Digital ได้แบบสะใจสูงสุดถึง 200x กันไปเลย

ส่วนจุดเด่นของมือถือรุ่นนี้คือกล้องหลักที่สามารถปรับค่ารูรับแสงได้ถึง 10 สต็อป ตั้งแต่ f/1.4 ไปจนถึง f/4.0 เพื่อการถ่ายภาพในหลากหลายสถานการณ์

กล้องหน้า

เรื่องของกล้องหน้าถ้าใครชอบกล้องที่มีความละเอียดสูง ๆ เก็บรายละเอียดครบ ๆ ก็จะมี Galaxy S22 Ultra ที่มีความละเอียดที่สุดแล้ว อยู่ที่ 40MP ถัดลงมาคือ Xiaomi 12s Ultra, OPPO Find X5 Pro และ vivo X80 Pro อยู่ที่ 32MP ส่วน iPhone 14 Pro Series จะอยู่ที่ 12MP และ HUAWEI Mate50 Pro ที่ 13MP

แต่ถ้าใครเน้นการถ่ายวิดีโอเซลฟี่ความละเอียดสูงระดับ 4K ก็จะเหลือตัวเลือกคือ iPhone 14 Pro Series, Galaxy S22 Ultra และ HUAWEI Mate50 Pro เท่านั้น เพราะรุ่นอื่นเหนือจากนี้ถ่ายได้แค่ระดับ 1080p เท่านั้นครับ

มาตรฐานกันน้ำ / ฝุ่น

มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นของมือถือระดับเรือธงทุกรุ่นในลิสท์นี้จะอยู่ที่ IP68 ทั้งหมด ซึ่งตามมาตรฐานแล้วจะสามารถทนน้ำจืดได้ลึก 1.5 เมตร เป็นเวลาครึ่งชั่วโมง จะมีแค่ iPhone 14 Series และ HUAWEI Mate 50 Pro เท่านั้นที่เคลมว่าสามารถลงน้ำจืดได้ลึกกว่าชาวบ้านถึงระดับ 6 เมตร 

ระบบชาร์จ

ชาร์จมีสาย

สำหรับเรื่องแบตเตอรี่อาจต้องใช้เวลาในการทดสอบกันว่าแต่ละรุ่นใครอยู่ได้นานสุด เพราะไม่สามารถตัดสินกันได้จากขนาดแบตเตอรี่เท่านั้น แต่เรื่องระบบชาร์จนี่พอจะบอกกันได้จากตัวเลขเลย โดยรุ่นที่มากับระบบชาร์จไวสุด ๆ คือ OPPO Find X5 Pro และ vivo X80 Pro ที่รองรับชาร์จไวได้ถึง 80W ทำให้มันชาร์จแบตเตอรี่จาก 0 – 100% ได้ในเวลาไม่ถึงชั่วโมงเท่านั้น

ถัดลงมาคือ Xiaomi 12s Ultra ชาร์จได้ที่ 67W และ HUAWEI mate50 Pro ชาร์จได้ 66W ส่วน Galaxy S22 Ultra ได้สูงสุดที่ 45W และ iPhone 14 Pro Series ได้น้อยสุดที่ 20W

ชาร์จไร้สาย

ระบบชาร์จไร้สายก็เริ่มพัฒนาขึ้นมาจนชาร์จได้เร็วมาก ๆ แล้ว โดยในลิสท์นี้ค่ายมือถือจากจีนล้วนรองรับการชาร์จไร้สายได้ถึง 50W ในขณะที่ Galaxy S22 Ultra รองรับเพียง 15W และ iPhone 14 Pro Series ได้แค่ 7.5W เท่านั้นเอง

ซื้อรุ่นไหนดี?

สำหรับคนที่อยากจะเปลี่ยนมือถือใหม่มาใช้เรือธงของปี 2022 เฉพาะรุ่นที่ขายในประเทศไทยก็จะมีแค่ iPhone 14 Pro Series, Galaxy S22 Ultra, OPPO Find X5 Pro และ vivo X80 Pro เท่านั้น สำหรับ HUAWEI Mate50 Pro นี่ยังไม่รู้ว่าจะเอาเข้ามาในบ้านเรารึเปล่า ส่วน Xiaomi 12s Ultra อันนี้ตัดทิ้งไปได้เลยเพราะมีขายเฉพาะในจีนเท่านั้น

iPhone 14 Pro Series

สำหรับสาวก Apple คงไม่ต้องคิดกันมากกับมือถือพรีเมี่ยมระดับ Pro ที่คราวนี้ได้รับการอัปเกรดกล้องให้ดีกว่าเดิมเยอะมาก ก็เรียกว่าเป็นมือถือครบเครื่องที่ได้ทั้งความแรง กล้องสวย แบตเตอรี่อึด และมีเคสให้เลือกใช้เพียบบบบ แต่ราคาก็จะค่อนข้างสูงกว่ามือถือพรีเมี่ยมในลิสท์นี้ด้วย

เปิดตัว iPhone 14 | iPhone 14 Pro Series ชิป A16 หน้าจอเจาะรู อัปเกรดกล้อง 48MP พร้อมระบบ SOS ผ่านดาวเทียม

Galaxy S22 Ultra

โดดเด่นกว่าใครด้วยฟีเจอร์รองรับ S Pen ที่เอามาใช้ประโยชน์ในชีวิตจริงได้ เรื่องกล้องก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใครทั้งภาพนิ่งหรือการถ่ายวิดีโอและยังเป็นไม่กี่รุ่นที่ถ่ายวิดีโอเซลฟี่ 4K ได้ และยังมีฟีเจอร์ล้ำ ๆ อย่าง DeX Mode ให้ต่อออกจอทีวี หรือมอนิเตอร์เพื่อใช้เป็น PC ได้อีกต่างหาก แถมราคาตอนนี้ก็ไม่แพงมากแล้ว…หาซื้อได้ในราคาเริ่มต้นไม่ถึง 30,000 บาท

เปิดตัว Samsung Galaxy S22 Series การกลับมาของ S Pen รุ่นอัปเกรด พร้อมยกระดับกล้องด้วยขุมพลัง AI

OPPO Find X5 Pro

เด่นที่กล้องหลังแปะแบรนด์ Hasselblad ซึ่งน่าจะพอใจกับคนที่ชอบภาพในสไตล์ของแบรนด์นี้ บวกกับสเปคอื่น ๆ ที่ครบเครื่อง ทั้งความแรง จอสวย แบตเตอรี่ใหญ่ แถมชาร์จไวทั้งมีสายไร้สาย หาได้ในราคาไม่เกิน 30,000 บาทเหมือนกัน

OPPO Find X5 Pro 5G มือถือกล้องเทพพลัง Hasselblad เคาะราคา 39,990 บาท

vivo X80 Pro

อีกรุ่นที่ครบเครื่องทั้งความแรง จอสวย กล้องสวย มีโหมดหน้าชัดหลังเบลอสไตล์ ZEISS แบบต่าง ๆ ให้เล่นทั้งการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ นอกจากนี้ยังใส่ชิปเสียง Hi-Fi CS43131 ช่วยเพิ่มความเพราะพริ้งให้กับการฟังเพลงมากขึ้นไปอีกระดับ

เปิดราคา vivo X80 5G / X80 Pro 5G มือถือกล้องสวยพลัง ZEISS พร้อมชิปภาพถ่าย V1+ เริ่มต้น 29,999 บาท

สรุปแล้วเราอยากได้มือถือรุ่นไหนก็คงต้องไปลองจับ ๆ เล่น ๆ และลองกล้องกันดูให้รู้ว่าชอบสไตล์แบบไหนมากที่สุดครับ เพราะมือถือระดับนี้เรื่องสเปคต่าง ๆ แทบจะไม่หนีกันเลย เร็วแรง จอสวย กล้องสวย…ซึ่งเจ้าตัวหลังนี่แหละ ที่จะเป็นเหตุผลหลักในการเลือกซื้อมือถือของหลาย ๆ คน ก็เลยต้องไปลองกันด้วยตัวเองและตัดสินใจเองจะดีที่สุดครับ