Apple วางแผนเตรียมปรับราคา iPhone 17 Series รุ่นใหม่ ที่จะเปิดตัวในปลายปีนี้อีกครั้ง ตามรายงานของ The Wall Street Journal เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดย Apple หลีกเลี่ยงในการให้เหตุผลของการปรับราคาเพราะภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา แต่ขึ้นราคาเพราะฟีเจอร์และดีไซน์แบบใหม่
Apple ถือเป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่ปะทุขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มต้นประกาศเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าในหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีนซึ่งเป็นหนึ่งในฐานผลิตหลักๆ ของ iPhone ถึงแม้ว่าล่าสุดทั้งสองประเทศ จะได้มีการเจรจาเพื่อทำข้อตกลงระงับการเก็บภาษีนำเข้า ‘ชั่วคราว’ เป็นเวลา 90 วัน แล้วก็ตาม
สำหรับการขึ้นราคา iPhone จะช่วยให้ Apple รับมือกับต้นทุนจำนวนมหาศาลที่อาจเพิ่มขึ้นถึง 900 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลกระทบจากภาษีนำเข้าในอนาคต เลยเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ Apple พยายามที่จะย้ายฐานการผลิตไปที่อินเดียเป็นหลักในตอนนี้ โดยนักวิเคราะห์หลายรายได้คาดการณ์ไว้ว่า การขึ้นราคา iPhone อาจทำให้บริษัทสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาด โดยเฉพาะกับคู่แข่งอย่าง Samsung ซึ่งมีจุดขายในเรื่องของ AI ที่ Apple ยังไม่มีความพร้อมในเรื่องนี้สักเท่าไหร่ พร้อมกับผลตอบรับจากกลุ่มลูกค้าที่อาจจะไม่พึงพอใจมากนัก
ทำให้สาเหตุของ Apple ปรับราคาขึ้นตามต้นทุนนั้น เป็นการขึ้นราคาเพราะ ‘ฟีเจอร์ใหม่และดีไซน์ใหม่’ ที่กำลังจะมาถึงใน iPhone 17 Series แทนที่จะกล่าวถึงสาเหตุจากภาษีนำเข้า เพื่อลดความเสี่ยงของผลตอบรับที่อาจจะตามมาภายหลัง และใครที่อยากรู้ว่า iPhone จะต้องขึ้นราคาเท่าไหร่ DroidSans ก็เคยสรุปไว้ให้แล้ว สามารถตามไปอ่านได้ที่ลิงก์ข้างล่างนี้เลย!
ที่มา: Reuters
Comment