หลังจากปี 2022 ที่ Apple เปิดตัว iPhone SE รุ่นล่าสุดไป ก็ยังไม่มี SE รุ่นใหม่เปิดตัวเลยสักรุ่น และจากรายงานของ Bloomberg โดย Mark Gurman กล่าวว่า iPhone SE รุ่นปัจจุบันถูกยกเลิกการผลิตไปแล้ว เนื่องจากข้อบังคับให้ใช้ USB-C ในสหภาพยุโรป และล่าสุดมีข่าวว่า iPhone SE (2025) หรือ iPhone SE 4 กำลังจะเปิดตัว และคาดว่าจะวางจำหน่ายเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้านี้เลย โดยจะมาพร้อมการเปลี่ยนแปลงหลัก ๆ 5 ประการดังนี้

Mark Gurman เผย Apple อาจวางจำหน่าย iPhone SE 4 เร็วที่สุดสัปดาห์หน้า มาพร้อม 5 จุดเปลี่ยนสำคัญ

ดีไซน์ถอดแบบมาจาก iPhone 14

iPhone SE 4 จะมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงการออกแบบครั้งใหญ่เมื่อเทียบกับ iPhone SE 3 รุ่นก่อนหน้าที่มีดีไซน์คลาสสิคพร้อมปุ่มโฮม และมีข่าวลือว่า SE 4 จะมีการออกแบบเหมือน iPhone 14

นั่นก็หมายความว่า iPhone SE 4 จะมีหน้าจอแบบมีรอยบาก เช่นเดียวกับ iPhone 14 รวมถึงมีพื้นที่หน้าจอขนาดใหญ่ประมาณ 6.1 นิ้ว พร้อมตัดขอบจอด้านบนและล่างออก ส่วนด้านหลังจะยังคงใช้กล้องตัวเดียวพร้อมแฟลช LED อยู่

iPhone SE 3

รองรับ Face ID

iPhone SE 4 จะเป็นรุ่น SE Series รุ่นแรกที่จะมาพร้อมกับการรองรับ Face ID เนื่องจากเหตุผลด้านการออกแบบตามด้านบน ทำให้ต้องตัดเซนเซอร์ Touch ID ออกไป และเพิ่มรอยบาก และใส่เซนเซอร์ Face ID ไปแทน

Apple Intelligence ก็มา

ในยุคที่ขับเคลื่อนด้วย AI แบบนี้ แน่นอนว่า Apple จะเพิ่ม Apple Intelligence ที่เปิดตัวพร้อมกับ iPhone 16 Series มาให้ใช้บน iPhone SE 4 ด้วย ซึ่งจะทำให้รุ่นนี้เป็น iPhone ที่สามารถใช้ AI ของ Apple ที่มีราคาคุ้มค่าที่สุด โดย Apple Intelligence จะมาพร้อมฟีเจอร์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Siri ที่ดีขึ้น เครื่องมือการเขียนที่ให้ AI ช่วยเขียน การแก้ไขภาพอัจฉริยะ และคำแนะนำส่วนบุคคลแบบเดียวกับบน iPhone 16 Series

ได้ชิป Apple A18 เหมือนรุ่นใหญ่

และด้วยชิปเซต Apple A18 ที่ช่วยให้ iPhone 16 และ iPhone 16 Plus สามารถประมวลผล Apple Intelligence ได้ จึงเป็นไปได้ว่า iPhone SE 4 ที่จะใช้งาน Apple Intelligence ได้ ก็น่าจะใช้ชิป A18 ด้วย ซึ่งจะทำให้ iPhone SE 4 มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับรุ่น iPhone 16 และ 16 Plus เลย

USB-C จะขาดไม่ได้

อีกหนึ่งสิ่งใหม่สำหรับ iPhone SE ก็คือการเปลี่ยนไปใช้พอร์ต USB-C ซึ่งแน่นอนว่าเป็นผลกระทบมาจากกฎระเบียบของสหภาพยุโรป ที่กำหนดให้สมาร์ทโฟนใหม่ทั้งหมดที่จำหน่ายในสหภาพยุโรป ต้องใช้การชาร์จผ่านพอร์ต USB-C แต่เป็นไปได้ว่าความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลของพอร์ต USB-C บน iPhone SE รุ่นที่ 4 อาจจำกัดอยู่ที่ความเร็ว USB 2.0 เท่ากับพอร์ต Lightning เดิม ซึ่งเท่ากันกับ iPhone 15, 15 Plus, 16 และ 16 Plus

นอกจากนี้ ยังมีรายงานอ้างว่า iPhone SE 4 จะมีกล้องหลัง 48 ล้านพิกเซลโมดูลใหม่ (แต่รายงานของ Bloomberg ไม่ได้พูดถึงในส่วนนี้) และรายงานยังระบุด้วยว่า iPhone SE 4 จะมีราคาแพงขึ้น แต่จะอยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันได้เมื่อเทียบกับรุ่นระดับเริ่มต้นจาก Samsung และ Google และคาดว่า Apple จะได้ยอดขายสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในตลาดจีน อินเดีย และตลาดเกิดใหม่

ที่มา gizmochina