ตอนนี้ข่าวลือเกี่ยวกับ iPhone SE 4 เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา และนิ่งพอสมควรแล้ว เนื่องจากแหล่งข่าวหลายแห่งรายงานไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้พอจะสรุปในเบื้องต้นได้ว่า iPhone SE 4 จะมีการอัปเกรดอย่างมากแทบทุกแง่มุม ทั้งดีไซน์ภายนอก และฮาร์ดแวร์ภายใน โดยเฉพาะชิปเซตที่มีลุ้นได้ใช้งาน A18 ตัวเดียวกับ iPhone 16 รุ่นมาตรฐาน เนื่องจากแอปเปิลต้องการผลักดัน Apple Intelligence ให้เป็นจุดขาย จึงต้องอาศัยศักยภาพของหน่วยประมวลผลที่ทรงพลังมากพอ

ภาพเรนเดอร์ iPhone SE 4 (คาดการณ์) จาก Majin Bu

iPhone SE 4 จะมีดีไซน์แบบเดียวกับ iPhone 14 มาพร้อมหน้าจอ OLED อัตรารีเฟรช 60Hz ขนาด 6.06 นิ้ว ถือว่าใหญ่ขึ้นจากเดิมมาก (รุ่นปัจจุบันหน้าจอ 4.7 นิ้ว) เพราะแอปเปิลถอดเซนเซอร์ Touch ID ออก แล้วใส่ Facde ID มาแทน จึงสามารถขยายพื้นที่การแสดงผลได้ชิดขอบทั้ง 4 ด้าน

แต่ทั้งนี้ หน้าจอ 6.06 นิ้ว ของ iPhone SE 4 ก็ยังเป็นขนาดที่เล็กที่สุดในบรรดา iPhone อยู่ดี โดย iPhone 16 เริ่มที่ 6.12 นิ้ว และ iPhone 17 เริ่มที่ 6.27 นิ้ว (อ้างอิงตามข่าวลือ) ดังนั้นจุดขายด้านความกะทัดรัดก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม

แหล่งข่าวบอกอีกว่า iPhone SE 4 จะมากับกล้องหลัง 48MP เป็นกล้องหลังเดี่ยว และเปลี่ยนพอร์ตเป็น USB-C ตามเทรนด์ นอกจากนี้ยังอาจเพิ่มแรมเป็น 6GB หรือ 8GB แบบ LPDDR5x ซึ่งการที่มีตัวเลข 8GB โผล่มา ก็พอจะเดาได้ว่าเป็นผลพวงจาก Apple Intelligence อีกเช่นกัน ที่ต้องการแรมที่เพียงพอในการรันโมเดล AI แบบ on-device บนตัวอุปกรณ์

สเปค iPhone SE 4 (คาดการณ์)

  • จอภาพ OLED ขนาด 6.06 นิ้ว
    • อัตรารีเฟรช 60Hz
    • รองรับ Fade ID
  • ชิป A18
  • หน่วยความจำ LPDDR5x 6 หรือ 8GB
  • กล้องหลัง 48MP
  • เครือข่าย 5G
    • โมเดม Apple 5G หรือ Qualcomm 5G X-series
  • พอร์ต USB-C
  • เฟรมเครื่องอะลูมิเนียม

คาดว่า iPhone SE 4 จะเปิดราคาที่ 499 – 549 ดอลลาร์ (ประมาณ 18,000 – 20,000 บาท) แพงขึ้นราว 2,500 – 4,500 บาท เมื่อเทียบกับ iPhone SE 3 ส่วนกำหนดการเปิดตัวจะอยู่ในช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม 2025

ที่มา : Ice Universe