สิ่งที่หลายๆ คนรอคอยและไม่กล้าทำกับมือถือของตัวเอง (แต่เชียร์ให้คนอื่นทำ drop test กันเหลือเกิน) กับบททดสอบความทนทานด้วย 3 ขั้นตอนคลาสสิกของนาย Zack แห่ง JerryRigEverything ที่คราวนี้ก็ถึงคิวของสมาร์ทโฟนที่แพงที่สุดเท่าที่ Zack เคยทำคลิปทดสอบมาอย่าง iPhone XS Max
บททดสอบหลักๆ ก็มีการขูดขีดตัวเครื่อง, การเผาจอ, และการบิดงอตัวเครื่อง ซึ่งจากการทดสอบ หน้าจอของ iPhone XS Max ยังคงมีความทนทานเท่าๆ กับกระจกหน้าจอสมาร์ทโฟนทั่วไปคือเริ่มเกิดรอยขูดที่ความแข็งระดับ 6 ตามสเกลความแข็ง Mohs และเกิดรอยลึกขึ้นที่ระดับ 7 ส่วนลำโพงด้านบนเป็นโลหะติดแน่นหนาไม่สามารถแงะออกมาให้หลุดทั้งแผ่นได้ ขอบรอบตัวเครื่องเป็นโลหะสเตนเลสที่แข็งแรงกว่าขอบอลูมิเนียม
ส่วนด้านหลังก็เป็นกระจกเหมือนกับด้านหน้าและกระจกบริเวณเลนส์กล้องที่ Apple เคลมว่าทำจากผลึกแซฟไฟร์ แต่เมื่อ Zack ลองขูดทดสอบดูแล้วกลับเป็นรอยที่ระดับ 6 เหมือนกับกระจกกันรอยทั่วไปไม่มีผิด (ปกติแล้วแซฟไฟร์จะสามารถทนการขูดขีดได้ถึงระดับ 8 หรือ 9) นั่นแปลว่าผลึกแซฟไฟร์ที่ Apple นำมาใช้นี้อาจไม่ใช่แซฟไฟร์บริสุทธิ์
ต่อไปเป็นการทดสอบโดยการใช้เปลวไฟลนหน้าจอ ซึ่ง iPhone XS Max สามารถทนต่อเปลวไฟได้เกิน 1 นาทีเหมือนๆ กับ Galaxy S8 แต่ด้วยความที่มันเป็นหน้าจอ OLED รอยไหม้ที่เกิดขึ้นจึงไม่สามารถหายไปเองได้เหมือนกับจอ LCD
สุดท้ายเป็น bend test หรือทดสอบด้วยการจับเครื่องมาบิดดูความแข็งแรง iPhone XS Max ไม่เกิดความเสียหายอะไรเลยเมื่อบิดทั้งจากด้านหน้าและหลัง นับว่าเป็นงานประกอบที่แน่นหนามากจึงสอบผ่านมาตรฐานการทดสอบนี้ไปได้ ส่วนใครที่อยากไปดู drop test ต่อก็กดเข้าไปอ่านกันได้
ที่มา: JerryRigEverything
เบาๆซิ อุส่าบอกว่าใช้แซฟไฟร์ ราคาจะได้ขึ้นเยอะๆ
แหม ต่อให้บอกว่าทำจากเพชรแท้สาวกเขาก็เชื่อครับ
คงเหมือนกันพวกรังนกแท้ละ เห็นข้างขวดมันก็เขียนว่ามีแค่1%-2% นอกนั้นดันเป็นน้ำเชื่อม
โกหกว่าใช้แซฟไฟร์แบบนี้ สคบ อเมริกา เค้าปล่อยมาได้ยังไงกัน หรือเป็นเสือกระดาษแบบบ้านเรา
Sapphire เซินเจิ้น
Sapphire ถ้าจะใช้ต้องเทียบเท่ากับพวกระดับนาฬิกา ไม่ใช่เอา Sapphire ห่วยๆแบบนี้มา