หลังจากที่ Galaxy Note 8 และ iPhone 8 Plus ออกมาพร้อมกับฟีเจอร์กล้องถ่ายภาพ Portrait ปรับภาพให้เป็น Bokeh ละลายฉากหลังให้เบลอฟุ้งดูนิ่มนวลดั่งถ่ายจากกล้องใหญ่ DSLR ราคาแพง ก็มีความพยายามบอกกันเหลือเกินว่าภาพของทั้งคู่นี้ถ่ายออกมาได้แบบไปเที่ยวไม่ต้องแบกกล้องใหญ่อีกต่อไปแล้ว วันนี้เลยขอเอาไปลองทดสอบให้ได้เห็นกันจะๆว่าถ้าจับชนเทียบกันจริงๆจะเป็นอย่างไรกันแน่
*เพิ่มเติมภาพ crop*
ข้อมูลกล้อง Full Frame ที่นำมาใช้
โดยกล้อง Full Frame ที่นำเอามาเปรียบเทียบด้วยจะเป็น Sony Alpha 7II ใส่เลนส์ Kit 28-70 f3.5-5.6 ที่มากับเครื่องมันเอง ซึ่งเลนส์ตัวนี้แม้ว่าจะเป็นเลนส์คิท แต่ถ้าใครเคยไปอ่านรีวิวทดสอบจากหลายๆสำนัก จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็น Kit ที่คุณภาพดีมากตัวนึงเลยทีเดียวครับ ส่วนการตั้งค่าจะเลือกเป็นโหมด P หรือ SCN (autoscene) เป็นหลัก จะได้มีเงื่อนไขเดียวกับสมาร์ทโฟนทั้งคู่ที่เราเพียงแค่ยกถ่ายเช่นกัน ให้คล้ายผู้ใช้ทั่วไปใช้ที่สุดครับ
ถ้าไม่อยากดูภาพจากด้านล่าง ช่วยเราประหยัด Bandwidth สามารถไปดูภาพทั้งหมดได้ที่ Google Photos ตามลิงก์นี้นะ https://photos.app.goo.gl/LXunjq249HCgC34u2
สำหรับภาพ Portrait ที่ถ่ายมานั้น จะพยายามทดสอบหลายรูปแบบ หลายสภาพแสงนะ โดยภาพจะมีการเรียงตามลำดับ ซ้ายไปขวาดังนี้
- ซ้าย : Sony Alpha 7II
- กลาง : iPhone 8 Plus
- ขวา : Galaxy Note 8
ทุกภาพพยายามผมพยายามจัดองค์ประกอบและวัดแสงตำแหน่งเดียวกันเพื่อให้ได้ภาพที่ออกมาเหมือนกันมากที่สุดนะ และแบ่งภาพออกเป็นสองส่วนคือ
1. ภาพบุคคล + ภูมิทัศน์
Sony Alpha 7II ปรับเลนส์ไปที่ 28mm ส่วน Galaxy Note 8 และ iPhone 8 Plus จะใช้เลนส์ธรรมดา
2. ภาพบุคคล + เปิด Bokeh
Sony Alpha 7II ปรับเลนส์ไปที่ 50mm เพื่อให้ใกล้เคียงกับซูม 2 เท่าของทั้ง Galaxy Note 8 และ iPhone 8 Plus เพื่อลองเช็คคุณภาพเซนเซอร์ เลนส์ และคุณภาพการถ่ายโบเก้ ดูสวยจริงหลอกแค่ไหน
ดูผ่านๆ ภาพเล็กเหมือนจะสวยไม่ต่าง ความห่างชั้นจะชัดเมื่อดูจอใหญ่
จนถึงตอนนี้ถ้าใครดูภาพผ่านจอมือถือหรือไซส์เล็กอาจจะบอกว่าภาพดูไม่ต่าง หรือว่าบนมือถือดูสวยกว่า แต่เดี๋ยวก่อน อยากให้ลองดูภาพใหญ่ขนาดไฟล์เต็มๆกันนิดนึงก่อน และดูรายละเอียดของ Dynamic Range (พื้นที่ส่วนสว่างสุดและมืดสุด) ความอิ่มของสี (ซีดหรือสดกว่า) และรายละเอียดของพื้นผิว (ทั้งคนและสิ่งของ) จะเห็นว่า Full Frame จะเก็บข้อมูลมาได้เยอะกว่า
*เพิ่มเติม* คิดว่าน่าจะมีหลายคนที่ไม่ได้ได้เข้าไปดูภาพขนาดเต็มและซูมรายละเอียด จึงขอไปครอปมาให้ดูไปเลยละกัน แนะนำว่าต้องดูจอใหญ่นิดนึงนะถึงจะเห็นชัด
ดูภาพทั้งหมดผ่าน Google Photos
เห็นภาพข้างต้นแล้วก็เริ่มอยากจะดูแบบซูมรายละเอียดแล้วใช่มั้ยครับ เพื่อความง่าย สะดวก และได้ภาพที่คมชัด ทางผมได้อัพโหลดไฟล์ทั้งหมดนี้ขึ้น Google Photos เรียบร้อย สามารถเข้าไปกดดูกันได้ตามลิงก์นี้นะ https://photos.app.goo.gl/LXunjq249HCgC34u2
การปรับแสงภายหลัง ข้อได้เปรียบใหญ่ของกล้องโปร
ภาพของกล้อง Sony Alpha 7II หลายภาพ ผมต้องทำการปรับแสงเล็กน้อย เพราะมีการถ่าย under ไปในหลายๆชอต จากความไม่ชินของผมเอง ซึ่งก็ยังสามารถดึงได้โดยภาพไม่สูญเสียคุณภาพอะไร ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับภาพจากกล้องมือถือแล้ว คุณภาพดรอปลดลงอย่างชัดเจนเลยทีเดียว
เปรียบเทียบการดึงแสงปรับสีจากแต่ละกล้อง
สภาพแสงน้อย Full Frame ยังกินขาดสมาร์ทโฟน โดยเฉพาะเลนส์ซูม 2x
ปัจจุบันสภาพแสงปกติเมื่อถ่ายภาพมา สมาร์ทโฟนระดับท็อปแทบจะมีคุณภาพที่ไม่หนีกันมากนัก แต่ถ้าเป็นสภาพแสงน้อยเมื่อไหร่ จะเริ่มเห็นความต่างของเซนเซอร์และเลนส์อย่างชัดเจน ยิ่งเป็นกล้องตัวที่สอง ซึ่งปกติจะเลือกเลนส์และเซนเซอร์ที่ดีไม่เท่ากล้องหลักแล้วยิ่งพัง และ iPhone 8 Plus กับ Galaxy Note 8 ก็ไม่ได้ต่างกัน แต่สำหรับกล้อง Full Frame ที่สามารถปรับ ISO ได้สูงๆ เซนเซอร์ใหญ่รับแสงได้เยอะแล้วการถ่ายภาพแสงน้อยจะทำได้ดีกว่ากล้องมือถือค่อนข้างมาเลยล่ะครับ
ตัวอย่างภาพจากทั้ง iPhone 8 Plus และ Galaxy Note 8
ภาพทั่วไป เมื่อถ่ายเทียบ iPhone 8 Plus – Galaxy Note 8 กับ Mirrorless Full Frame
เอาตัวอย่างเพิ่มเติมจากทั้งสามกล้องมาเทียบกันกันให้ดูเพิ่มเติมนะครับ
สรุปส่งท้าย Full Frame WIN เรื่องคุณภาพ, Smartphone WIN เรื่องความสะดวกสบาย
Galaxy Note 8 และ iPhone 8 ทั้งคู่ทำกล้องออกมาได้ระดับที่เรียกว่าดีมากๆ แต่สุดท้ายแล้วกล้อง Full Frame ก็ยังเหนือกว่าอยู่ดี จะบอกว่าสมาร์ทโฟนดีกว่าก็เกรงใจขนาดเซนเซอร์รับแสงที่ใหญ่เบ้อเริ่ม และเสนส์ใหญ่เป็นบาซูก้ากันนิดนึง 5555 แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ต้องการส่งภาพประกวด อวดโชว์ภาพให้โลกเห็น แค่เป็นช่างภาพสมัครเล่นรักความสบาย ไม่ต้องแบกของหนักตลอดเวลา เปิดดูรูปแค่บนมือถือและจอคอมเล็กๆ สมาร์ทโฟนกล้องดีๆนี่ก็น่าจะเพียงพอมากๆ ในระดับนึงแล้วล่ะ ที่เหลือคือฝึกถ่ายหามุมมอง เลี่ยงข้อจำกัดที่ทำให้ถ่ายภาพได้คุณภาพต่ำ เท่านั้นภาพที่เราถ่ายก็สวยงามพร้อมอวดโชว์ให้โลกรู้ละ 🙂
เดี๋ยวมีเทียบเฉพาะ iPhone 8 Plus vs Galaxy Note 8 ให้อีกทีนะ (ถ้ายังมีแรงทำ หะหะ)
ถ้าใครมีข้อสงสัยอย่างไรเกี่ยวกับการทดสอบ สามารถมาคุยกันได้ใน comment เลยนะครับ หรือถ้าอยากลองเองก็ตอนนี้มีขายกันแล้วนะ ลองเลือกช้อปปิ้งกันดูได้ ว่าจะเอาค่ายไหน เครื่องอะไรไปลองบ้าง นี่เห็นพี่พัดก็เพิ่งสั่ง iPhone 8 Plus มาผ่าน AIS Online Store เห็นว่าโปรแต่ละค่ายมีให้โทรเน็ตมากน้อยต่างกันอยู่ แต่ของทาง AIS เห็นว่ามีดีตรงที่สั่งแล้วได้รับสินค้าหลังสั่งภายในเวลาเพียง 3 ชม. สำหรับคนที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ เมื่อสั่งภายใน 8.00-14.00 น. ของวันนั้นด้วยนะ ยังไงก็เลือกซื้อของเจ้าไหน โปรใครเด็ดสุดก็เอามาบอกกันหน่อยนะ ยังไม่ได้เช็คละเอียดเองเลย 555
พื้นที่โฆษณา
กระจกกันรอยพรีเมี่ยมจากโฟกัส เป็นกระจกกันรอยเต็มจอลงโค้ง แข็งแกร่งพิเศษ Focus Super Glass 3D Full Frame ปกป้องเต็มจอถึงขอบโค้ง ติดเรียบเนียน ทุกมุม เพิ่มความคงทนแข็งแรง รับแรงกระแทกได้มากกว่าเดิมถึง 2 เท่า และคงความสดใสของหน้าจอได้เป็นอย่างดี หมดปัญหาเรื่องฝุ่นเข้าขอบจอ ทัชลื่นไม่สะดุด ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ให้การปกป้องมั่นใจมากกว่ากระจกกันรอยในท้องตลาดทั่วไป และรองรับรุ่น iPhone 8, iPhone 8Plus, iPhone X โดยเฉพาะ
ทำไมผมชอบภาพจากมือถือมากกว่า
สงสัยตาน่าจะเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ
เพราะหลายๆภาพ มีการปรับด้วยซอฟท์แวร์ของมือถือแล้วไงครับ ภาพกลางทุ่งหญ้า Note8 ออกแนวดรามาติคไปเลย คิดว่าน่าจะมีการปรับภาพมากกว่าซอฟท์แวร์พวกกล้องด้วยครับ แต่ว่ากล้องแต่ละค่ายก็ต่างกันไปอีกนั่นละ แต่เอาจริงๆแล้วพวกฟูลเฟรมถ่ายแบบคอนโทรลเองจะเพอร์เฟคที่สุดครับ
แสงบางครั้งรู้สึก iphone8 ทำได้ดีกว่าแต่ถ้าซูมภาพเข้าไป note8 ดีกว่าเยอะ iphone8 ถ้าดูจากหน้าคนถ้าซูมเข้าไปเละเลยเก็บความละเอียดได้ค่อนข้างต่ำแต่ถ้าไม่ซูมแทบมองไม่ออกจริงๆ
ดูเสร็จ วิ่งไปขายกล้อง ><"
ผมนั่งเปิดดูในคอม ไม่ได้รู้สึกว่า FF มัน Win มันเรื่องคุณภาพเหมือนที่สรุปท้ายบทความเลยนะครับ (ตัดสินแค่จากรูปในนี้นะครับ)
ที่ผมรู้สึกว่ามันดูดีกว่าก็แค่เรื่อง depth ที่ดูเป็นธรรมชาติกว่า และ details ดีกว่า ซึ่งถ้าไม่ซูมดูก็แทบแยกไม่ออก
ภาพรวมสู้กล้องมือถือไม่ได้เลย dynamic แย่กว่า สีสรรก็แย่กว่า ถ้าดูผ่านๆรูปจาก FF เหมือนรูปถ่ายของมือถือระดับกลางๆมากกว่า (ขอย้ำอีกที ตัดสินแค่จากรูปในบทความนี้)
เรื่องไดนามิคผมกลับมองว่ามองหลายๆ จุดในภาพจะมองออกนะครับ ผมสามารถแยกแยะ 3 ตัวนี้ออกจากกันได้เลยด้วยการดูช่วงสีและสีสันในภาพ (นั่งมองตอนคุณ @gimme เลือกภาพอยู่)
ความชอบของผมจากที่ดูคือชอบสีและไดนามิคของ Full Frame > Note8 > iPhone เอาจริงๆ กล้องใหญ่จะเห็นประสิทธิภาพชัดสุดตอนเอาภาพมาแต่งเพิ่มนี่แหละครับ ดีเทลมันเก็บหมดจริงๆ
แต่ก็ยอมรับว่าในแง่ที่ไม่ต้องเอาปรับแต่งภาพเพิ่ม การปรับคอนทราสต์ของแอปกล้องมือถือทำมาได้ของข้างสดใสทีเดียว ซึ่งมันจบในตัวจริงๆ สำหรับการถ่ายภาพแบบจบในแชะเดียว
ตรง depth กับ details นี่หละครับที่สำคัญเหมือนกัน
แฟนผมสาย blogger ใช้กล้องมือถือมาแต่งต่อนี่ให้ได้แค่เพดานนึง
แต่พอใช้กล้องโปรมาแต่งต่อจะทะลุขีดจำกัดเดิม ใกล้เคียงความต้องการมากกว่า
ต้องยอมรับว่ากล้องมือถือมาไกลมาก กล้องโปรยุคก่อนปี 2554 สู้ไม่ได้แล้ว
กับกล้องมือถือมันถ่ายพร้อมปรับสำเร็จเบื้องต้นมาแล้ว แว๊บแรกเลยดูสวยงามยอมเลยครับ
ถ้าเป็นผม // ผมจะ ทดสอบแบบ:
1.ใช้ฝีมือเต็มที่ ปรับแต่งให้สุดฝีมือ กับทุกอุปกรณืที่ทดสอบ จะได้รู้ว่า แต่ละอุปกรณ์มีคุณภาพ ความสามารถทำได้ขนาดไหน แล้วก็จะได้รู้ด้วยว่า จ่ายเงินไปหลายๆหมืน นี่ใช้งานได้ดีขนาดไหน ฟังชั่นที่ใส่มาแต่ละอุปกรณ์ ช่วยให้ได้รูปถ่ายดีๆขนาดไหน ….. อุปกรณืไหนคุ้มค่าเงินที่ต้องเสียไปมากกว่ากัน
2. เอามาทำรูปต่อในคอมด้วย ปรับให้สุดฝีมือ จะได้รู้ว่าคุณภาพไฟล์ ที่แท้จริง อุปกรณืไหน สามารถให้คุณภาพในการนำรูปไปใช้ได้มากกว่ากัน สมราคาค่าตัวไหม แล้วอุปกรณืไหนคุ้มค่ากว่ากัน ในเรื่องไหนบ้าง
3. จากข้อ1และ2นี่ ทำให้เต็มฝีมือเอาให้รูปสวยตามต้องการของผู้ถ่ายเลยนะ แล้วก็เอาผลมาดูมาเทียบกัน
– เราซื้อมือถือมาจ่ายเงินไปแล้วปรับให้เต็มที่ แล้วพิสูจน์ว่า เครื่องไหน มีความสามารถมากสุด แบบนี้น่าจะโอเครกว่าสำหรับผมนะ
– การทดสอบแบบไม่ปรับอะไรถ่ายไปตามค่ามาตราฐานที่ตั้งมาจากโรงงาน ….. พิสูจน์ได้แน่ๆว่าแบรนด์ไหนปรับแต่งเริ่มต้นมาให้ผู้ทดสอบถูกใจที่สุด แต่ผลทดสอบไม่ได้บอกความสามารถที่สุดของอุปกรณื…… คงจะตอบยากว่าเครื่องไหนดีกว่ากัน
………..
ผมนั่งรอชมครับ
จากคนใช้กล้อง sony นะครับ เลนส์ 28-70 นี่ไม่ถือเป็นเลนส์ที่ดีนะครับ ca เยอะ เหลื่อมแสง ขอบไม่ชัด ละลายห่วย แต่ความสามารถก็ตามราคามันแหละครับ หมายถึงเลนส์หนะ
ส่วนกล้องถ้าถ่าย raw ปรับ dynamics range ดีๆนี่ดึงกันสนุกสนานเลย เรียกได้ว่าดึงกันทะลุเมฆ
เลนส์ที่เหมาะกับ portrait จริงๆน่าจะลอง 55z18 ดูครับ น่าจะดีสุดในราคาที่จับต้องได้
ใช้55z1.8มาเทสไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยวทุกอย่างมันจะทิ้งห่างจากมือถือไปไกลครับ ทั้งราคา(+บอดี้) และคุณภาพ,เดฟ,เร้น,สี เรียกได้ว่าเหมือนเอาฟรอยเมเวทเทอร์มาต่อยกับทอร์ สรุปมันไม่น่าเอามาเทียบกันแต่แรกและเพาะกล้องffมันเปลี่ยนเลนส์ก้อเหมือนเปลี่ยนคุณภาพภาพเลนส์ป๊องแป๊งก้อคุณภาพป๊องแป๊ง
ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ภาพหลังกล้องจากมือถือจะออกมาสวยกว่า เพราะความสวยงามมันคนละเรื่องกับคุณภาพ (หรืออาจจะสวนทางกันเลยด้วยซ้ำ เช่น ภาพที่คนมองว่าสวยคือภาพที่ Contrast สูง แต่ภาพที่คุณภาพดี Contrast จะต่ำ) ซึ่งคุณภาพกล้อง FF ก็เหนือกว่าตามที่คาด (ส่วนความสวยภาพจากการจบหลังกล้อง Sony เองก็ขึ้นชื่อว่าไม่ค่อยสวยเท่าไหร่อยู่แล้ว เลยไม่คาดหวังอะไร)
อยากให้ DxOMark ทดสอบกล้องมือถือแบบเดียวกับกล้องด้วย (ไม่ได้บอกว่าทดสอบมือถือแบบตอนนี้ไม่ดี แต่อยากให้มีทดสอบแบบกล้องเพิ่มขึ้นมาด้วย) เช่น เอาไฟล์ RAW แต่ละกล้องมาลองดึงดู DR ทดสอบ Noise Performance แบบเป็นตัวเลขเลยว่าได้ที่ ISO เท่าไหร่ คุณภาพเลนส์ก็ดูพวก MTF, Distortion, Vignette, CA อะไรพวกนี้จริงๆจังๆไปเลย ไม่เอาเลขมโนแบบปัจจุบัน (ที่ใช้คำว่าเลขมโนเพราะเราไม่รู้เลยว่า 1 คะแนนมันแตกต่างกันขนาดไหน)
อยากเห็นเทียบกับ iphone X ที่ได้คะแนนภาพนิ่งสูง ี่สุดในโลกตอนนี้ครับ
ภาพบางส่วนของ Note8 จากทริปย่าติงครับ ถ่ายเป็๋น .jpeg ล้วน No Ps No Lr ผ่าน Snapseed อย่างเดียว
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1673842525999479&set=pcb.1789556714388943&type=3&theater&ifg=1
กล้อง Full Frame มิติของรูป Dynamic Range ความเป็นธรรมชาติของ DOF มันดูดีกว่าเห็นๆ
รูปที่ดีไม่ใช่ว่าต้องชัดไปทั้งรูป แล้วเรื่องการวัดแสงก็สำคัญ ซึ่งจากรูปตัวอย่างที่เอามา หลายรูปวัดแสงไม่เท่ากัน
ถ้าจะเปรียบเทียบที่ระบบออโต้ ถือว่าทำได้ แต่ถ้าจะมาเทียบคุณลักษณะของรูป ถือว่าทดสอบผิด
อีกเรื่องคือ Sensor Full Frame ต้องคู่ควรกับเลนส์ที่ดีเท่านั้น … คนเล่นกล้องรู้ดี เพราะ Sensor ใหญ่ ความละเอียดสูง มันจะแสดงข้อผิดพลาดของเลนส์ออกมาได้ง่าย ไม่งั้นเค้าไม่ซื้อเลนส์กันตัวละหลายหมื่นถึงแสนหรอกครับ ซึ่ง 28-70 F3.5-5.6 มันเป็นเลนส์คิทโง่ๆรุ่นต่ำสุดติดกล้องมา … ผมเคยใช้ตัวนี้มาก่อน ความคมไม่ค่อยดีเท่าไหร่ สีสรรเฉพาะตัวของเลนส์ก็ต่างกัน (ปัจจุบันผมใช้ 24-70F2.8 ZA)
ถ้าจะวัดกันที่ความสวย … มันเป็นเรื่องของรสนิยม
คนตาไม่ถึงดูไม่ออกก็ดีแล้วครับ จะได้ไม่ต้องเสียเงินเป็นแสนๆเพื่อระบบ Full Frame
ปล่อยให้คนโง่ซื้อไปครับ กล้องอะไรแพงก็แพงดันสวยสู้มือถือไม่ได้ 55
คนฉลาดก็ซื้อมือถือไปก็ดีแล้ว
ทำไม กล้องใหญ่ ภาพโทนสีออกขาว พวกมือถือออกเหลืองๆ
กล้องใหญ่มันมี Profile สีให้ตั้งเป็นเบื้องต้น
White Balance แต่ละเครื่องก็ไม่เหมือนกัน แม้จะเป็น Auto ก็ตาม
ไม่เอาpixel 2เทียบด้วยล่ะครับ
ตอนที่ไปทดสอบ ผมยังไม่มีเครื่อง pixel2 เลยครับ ^^"
รอดูเทสต์ต่อไป มาแน่เร็วๆนี้ครับ
รอชมครับ HDR+ของgoogleผมว่าแอบเทพน่ะ หาแอพมาลงปรับmanualเองยังสู้ไม่ได้เลย คือHDR+ปรับisoได้ที่ล่ะdigitอ่ะ HDRยี่ห้ออื่นนี้ผมลองก็สู้ไม่ได้(แต่ผมก็ลิงมาน้อยเกินจะเอามาอ้างอิง)
งงว่าทำไม iPhone สีมันสดใสแบบที่สาวกชอบด่า Samsung กันว่าสีเพี้ยน แล้ว Note มันสีจืดลงหญ้าเขียวสู้ iPhone ไม่ได้ ตกลงใครสีเพี้ยนกันแน่
ทำไมภาพบุคคล+ทิวทัศน์ภาพที่สอง ที่ถ่ายกับป้าย A890
ภาพของไอโฟน เหมือนเปิด HDR เห็นรายละเอียดเมฆกับแฉกดวงอาทิตย์ก็ชัด
แต่ FF กับ Note8 ฟ้ามันขาวไปเลย
ส่วนตัวรู้สึกว่า ภาพถ่ายกลางแจ้ง Full Frame ภาพจะดู Overexposure กว่ามือถือประมาณ 1 stop
และรู้สึกว่าคนถ่ายจัดองค์ประกอบภาพจากกล้อง Full Frame (ซึ่งมีอัตราส่วน 2:3) ได้ดีกว่าถ่ายจากมือถือ (4:3)
ลืมบอกว่าถ้าถ่ายคนผมชอบภาพจากกล้อง Full Frame มากกว่า
ถ้าถ่ายวิวชอบภาพจากมือถือมากกว่าครับ
สมัยเริ่มเล่นเครื่องเสียง ตอนเปลี่ยนจาก Mini Compo มาเป็น HiFi จริงๆ วันแรกตกใจเลย
เฮ้ยยทำไมเสียงมันฟังไม่กระหึ่มเลยฟะ เสียง mini compo ยังตึ้บกว่า มันกว่า
ตอนเล่นกล้องแรกๆก็เป็น พอเปลี่ยนจากคอมแพคมา DSLR ก็รู้สึกว่าทำไมภาพมันออกมาเหมือนเดิมฟะ 555
อันนี้บอกเลยว่าเป็นเรื่องความชอบจริงๆ ไม่มีผิดถูก ที่ใครจะรู้สึกว่า"ภาพโดยรวมๆ"ไอโฟนดีกว่าฟูลเฟรม
ความที่เล่นกล้องมาพอสมควร เอาภาพที่เห็นผมไม่ได้ต้องเพ่งอะไรมากที่จะรับรู้ได้ว่า A7 มันดีกว่าอีกสองตัวมาก
แต่แปลกใจเหมือนกันที่ไอโฟน 8 ได้แย่กว่าโน๊ต 8 แบบห่างเลย ไฟล์หลอกมาก พลาสติคมาก
สรุปคือทุกวันนี้กล้องมือถือ เข้ามาแทนที่กล้องคอมแพคได้เบ็ดเสร็จแล้ว ถ้าถ่ายแบบแคชชวล ก็ใช้ๆไปเถอะครับ
ไม่ต้องมาเถียงกันว่าใครเหนือกว่าใคร
เห็นด้วยครับ เรื่องถ่ายทั่ว ๆ ไปเนี่ย กล้องมือถือชนะกล้องคอมแพคไปแล้ว ด้วยราคาที่ไม่ต่างกันมาก
แต่ผมก็รู้สึกว่ากล้องจริงคุณภาพก็ยังดีกว่ากล้องมือถืออยู่นะ ผมใช้ Pana GF9 ถ่ายทั่วไป ก็ยังรู้สึกว่าดีกว่าอยู่ดี ปรับนู่นนี่ได้ ละลายจริงจาก out of focus ไม่ใช่ software แพ้แค่เรื่องความสะดวกเวลาจะแชร์ลงโซเชียลเฉย ๆ ครับ
เห็นไฮแลนด์แล้วคิดถึงตอนไปเรียนอยู่ที่สกอตส์เลย แหม่
ที่ผมรู้สึกว่ามันดูดีกว่าก็แค่เรื่อง depth ที่ดูเป็นธรรมชาติกว่า และ details ดีกว่า ซึ่งถ้าไม่ซูมดูก็แทบแยกไม่ออก
ภาพรวมสู้กล้องมือถือไม่ได้เลย dynamic แย่กว่า สีสรรก็แย่กว่า ถ้าดูผ่านๆรูปจาก FF เหมือนรูปถ่ายของมือถือระดับกลางๆมากกว่า (ขอย้ำอีกที ตัดสินแค่จากรูปในบทความนี้)
ขนาดผมเป็นสาวกซัมซุง…ดูด้วยตาแบบธรรมดา ผมให้ iPhone 8 สวยสุดครับ
ถ้าเอาภาพมาใช้ในชีวิตประจำวัน ภาพจากมือถือเริ่มจะเพียงพอ
ไม่จำเป็นต้องไปซื้อกล้องให้เปลืองสตางค์อีกต่อไป
น้อยมากๆ ที่เราจะปรินท์ภาพออกมาใช้
และความสนุกในการถ่ายภาพ มือถือจะได้มากกว่า มากๆ
ปล่อยให้สายอาชีพ เขาใช้กล้องโปรกันไป
ภาพ iphone8 สกินโทนช่างดีงาม แปลกใจเมื่อไหร่ ss จะเลิก ใส่ฟิลเตอร์ sharpness ที่มันดูโอเวอร์ๆ ซักที