หลังเสร็จสิ้นการประมูลคลื่น 1800MHz เพื่อเอามาทำ 4G เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาซึ่งทาง AIS และ TrueMove เป็นผู้ชนะการประมูลไป เห็นมีหลายคนเป็นห่วงกับการที่ DTAC ไม่ได้ใบอนุญาตแถมยังถอดใจไม่สู้ราคาแต่หัววัน จนเป็นพาลคิดไปว่า DTAC จะยังแข่งขันในธุรกิจนี้อย่างจริงๆ จังๆ หรือเปล่า เครือข่ายมันจะดีขึ้นมั้ย หรือว่าจะรีบเปลี่ยนใจย้ายค่ายหนีไปเลยดี ส่วนตัวผมก็มีเบอร์ของค่ายนี้อยู่เหมือนกัน เลยไปค้นหาข้อมูลต่างๆ และขอนำมาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ทราบด้วยเผื่อว่าใครที่กำลังตัดสินใจอยู่ได้นำไปพิจารณาครับ

 

DTAC พลาดการประมูลแต่ DTAC ยังเป็นเครือข่ายที่มีความถี่ในมือกว้างที่สุดอยู่

ก่อนการประมูล DTAC เป็นค่ายที่มีความถี่ในมือเยอะที่สุดคือ

  • คลื่น 850MHz จำนวน 10MHz

  • คลื่น 1800MHz จำนวน 25MHz (+20MHz)

  • คลื่น 2100MHz จำนวน 15MHz

รวมความถี่ทั้งหมดที่คือ 50MHz รองรับลูกค้า ราว 24 ล้านราย ซึ่งถือว่าเยอะมาก เมื่อเทียบกับ AIS ที่มีลูกค้า 37.81 ล้านราย แต่มีคลื่นความถี่ของตัวเองเพียง 15MHz จากใบอนุญาตฯ 2100MHz เท่านั้น แต่หลังจากการประมูลคลื่น 1800MHz ทำให้ทั้ง AIS และ TrueMove มีจำนวนคลื่นที่ไล่ขึ้นมาใกล้เคียงมากขึ้นดังตารางด้านล่างนี้

 

frequency

bandwidth

expire

AIS (30MHz)

1800MHz

15MHz

2033

37.81M subs

2100MHz

15MHz

2027

DTAC (50MHz)

850MHz

10MHz

2018

24.85M subs

1800MHz

25MHz

2018

 

2100MHz

15MHz

2027

TrueMove (45MHz)

850MHz

15MHz

2025

18.5M subs

1800MHz

15MHz

2033

 

2100MHz

15MHz

2027

ตามตารางข้างต้นนี้จะเห็นได้ว่าแม้ DTAC จะพลาดคลื่น 1800MHz จากการประมูลนี้ไป แต่จริงๆ พวกเค้าเองก็มีคลื่น 1800MHz ใช้งานอยู่แล้วเช่นกัน เพียงแต่ก่อนหน้านำเอาไปให้บริการ 2G อยู่ และเพิ่งแถลงข่าวเปิดให้บริการ 4G บนคลื่น 1800MHz ไปก่อนหน้าการประมูลไม่กี่วันเท่านั้น

 

ปัญหาหลักคือสัมปทานบนคลื่นเดิมที่มีอยู่ กำลังจะสิ้นสุดลงในปี 2018

ความน่าห่วงของ DTAC จะอยู่ที่สัมปทานของคลื่นทั้ง 850MHz และ 1800MHz ที่มีอยู่นั้นจะหมดลงในปี 2018 หรืออีกสามปีข้างหน้าเท่านั้น ซึ่งไม่มีใครบอกได้ว่าวันนั้นอะไรจะเกิดขึ้น การประมูลจะถูกจัดขึ้นหรือเปล่า และนี่ก็เป็นที่มาของการเข้าร่วมประมูลคลื่น 1800MHz ของ DTAC ในครั้งนี้ แต่กลับต้องชวดไปและนำพาเอาความเสี่ยงกลับมาอีกรอบ ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด ปี 2018 DTAC ไม่ได้ใบอนุญาตดำเนินการทั้ง 850/1800 MHz ต่อ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม DTAC จะตกที่นั่งลำบากแบบเดียวกับที่ AIS เคยเป็นมาก่อนหน้านี้ แต่จะทำสัญญาณได้ดีเท่า AIS รึเปล่า อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจนะ เพราะทุกวันนี้ที่มีคลื่นความถี่ในมือเยอะ ยังสู้คนอื่นเค้าไม่ได้อยู่เลย

อย่างไรก็ดี การที่ DTAC พลาดการประมูลในรอบนี้ไป ก็ไม่ได้มีแต่เรื่องแย่ซะทีเดียว โดยหากมองในมุมมองของเราๆคือต้นทุนของ DTAC ยังไม่ต้องเพิ่มขึ้นมาโดยไม่จำเป็น หากมีการแข่งขันกันขึ้นราคาจาก AIS และ TrueMove เพราะค่าประมูลฯแพง เราก็อาจจะได้เห็น DTAC ปล่อยโปรสวนกลับได้ไม่ยาก เพราะไม่มีต้นทุนมูลค่ากว่า 2 พันล้านในแต่ละปีเหมือน AIS และ TrueMove นั่นเอง

ยังมีการประมูลใบอนุญาตฯคลื่น 900MHz ที่กำลังจะมาถึงในเดือนหน้าอยู่อีกใบหนึ่ง ซึ่งก็ต้องรอดูว่า DTAC จะเข้าร่วมประมูลแบบเต็มๆตัว หรือว่าเข้าไปเป็นไม้ประดับเหมือนเดิม

 

ยังไม่ต้องห่วงเรื่องอนาคต เอาปัจจุบันให้ดีก่อน

กล่าวโดยสรุปคือ ลูกค้าดีแทคไม่ต้องกังวลในเรื่องของการใช้งานไปนัก เพราะวันนี้ดีแทคก็ยังมีความถี่สำหรับให้บริการที่เพียงพออยู่ และยังคงขยายสัญญาณ วางเสา และมีเงินลงทุนอยู่เรื่อยๆ ใช้ได้แบบไม่ต้องห่วงไปอีก 3 ปีสบายๆ ไว้ถึงปี 2018 ค่อยว่ากันใหม่ ส่วนเรื่องคุณภาพสัญญาน ยังไงลองดูจนถึงสิ้นปีนี้ เพราะเห็นว่ามีการปรับปรุงคุณภาพไปพอสมควร ใครที่เล่นดาต้าเยอะๆก็จะเห็นผลค่อนข้างชัดหลังมีการเปิดให้บริการ 4G บนคลื่น 1800MHz หากเจอปัญหาอะไรก็อย่าลืมโทรไปแจ้งทาง Call Center เพื่อเรียกช่างเข้ามาตรวจสอบสัญญานได้ แต่ถ้าหลังจากปีใหม่นี้ไปแล้วบริเวณที่คุณใช้งานอยู่สัญญาณก็ยังติดๆ ดับๆ คุยๆ อยู่สายหลุด โทรไปบ่น Call Center ฟังมาก็หลายทีแล้ว ความแรงของสัญญาณยังแค่ 1-2 ขีด ไม่ครอบคลุมซักเท่าไหร่ จนเป็นผลทำให้แบตของเครื่องหมดเร็ว อันนี้ก็ลองพิจารณากันต่อดูละกันครับว่าทางเลือกต่อไปของคุณจะฝากเอาไว้กับค่ายไหน

ปล. แม้ว่าด้วยเหตุผลจะเข้าใจได้ว่าการประมูลในครั้งนี้ของ DTAC เข้าท่าในเชิงธุรกิจ แต่ว่าในเรื่องของขวัญกำลังใจ และความเชื่อมั่นใจแบรนด์มันตกลงไปเยอะเหมือนกันนะ คือ ไม่ได้ไม่ว่า แต่ดันไม่สู้เอาซะเลยเนี่ยแหละ ที่เห็นแล้วก็เพลีย…