สรุปงานอีเว้นท์ The Android Show แบบเรียลไทม์ไปพร้อมกัน อุ่นเครื่องเตรียมความพร้อมก่อนถึงงาน Google I/O 2025 ในสัปดาห์ถัดไป – กับข้อมูลที่ห้ามพลาดของ Android 16 และกับการอัปเดตอื่นๆ ที่น่าตื่นเต้น จะมีอะไรบ้างไปดูพร้อมกันเลย!
UI ใหม่ลื่นไหลกว่าเดิมด้วย Material 3 Expressive
Android 16 ทำการปรับปรุง UX / UI ครั้งใหญ่โดยใช้ชื่อว่า Material 3 Expressive ด้วยพื้นฐานการออกแบบที่เน้นสีสัน ขนาดของไอคอนหรืออนิเมชันที่โดดเด่นสะดุดตา มีความเป็นธรรมชาติมากกว่าเดิม ตอบสนองกับการสัมผัสและการปัดได้ลื่นไหลสบายตามากขึ้น ยกระดับการใช้งานฟีเจอร์หรือแอปพลิเคชันต่างๆ ให้ดีกว่าเดิม พร้อมกันนั้น Wear OS 6 ก็จะได้รับการอัปเดตซึ่งใช้พื้นฐานของ Material 3 Expressive เหมือนกัน
สำหรับลูกเล่นที่มีการโชว์ภายในงานครั้งนี้มีตั้งแต่เอฟเฟกต์การปัด Notifications หรือแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งานทิ้ง ที่มีเอฟเฟกต์การตอบสนองกับนิ้วมือของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี แถบแจ้งเตือน Live Update ติดตามการแจ้งเตือนที่สำคัญได้ง่ายๆ ผ่านหน้าจอล็อกหรือมุมซ้ายบนของหน้าจอ ไปจนถึงแอปพลิเคชันของ Google ที่จะมีการปรับดีไซน์ใหม่ให้เข้ากับ Material 3 Expressive และสอดคล้องกับธีม สีหรือรูปแบบตัวอักษรของผู้ใช้งานที่ทำได้มากยิ่งขึ้น
Material 3 Expressive จะเป็นการอัปเดตแยกออกมาต่างหากจาก Android 16 ที่จะปล่อยอัปเดตออกมาก่อนในเดือนหน้า โดยผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนตระกูล Pixel จะได้รับการอัปเดตดีไซน์ใหม่ไปใช้งานกันภายในปีนี้


ผู้ช่วยส่วนตัวแบบเรียลไทม์ Gemini Live
ในปัจจุบันนี้ Gemini รองรับการใช้งานทั่วโลกแล้วมากถึง 40 ภาษา และหนึ่งในฟีเจอร์อย่าง Gemini Live ซึ่งเคยเปิดตัวมาก่อนหน้านี้ จะช่วยให้ชีวิตประจำวันของผู้ใช้งานง่ายขึ้นกว่าเดิม ด้วยการแชร์หน้าจอหรือเปิดกล้องเพื่อคุยกับ Gemini พร้อมรองรับคำสั่งที่หลากหลาย เช่น ช่วยสรุปสิ่งที่ต้องทำก่อน-หลัง (To-Do List) สอนการบ้าน เลือกเสื้อผ้า คิดสูตรอาหาร ไปจนถึงถามสิ่งที่อยู่บนหน้าจอแบบเรียลไทม์ว่าคืออะไร พร้อมให้ใช้งานฟรีแล้ววันนี้กับผู้ใช้ Android ทุกคน


ใช้งาน Gemini บนอุปกรณ์อื่นๆ ได้มากขึ้น
ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า Gemini จะไม่จำกัดการใช้งานแค่บนสมาร์ทโฟนอีกต่อไป ไม่ว่าจะกลางแจ้งหรือตอนขับรถก็สามารถใช้งาน Gemini และฟีเจอร์ Gemini Live ได้จากทุกที่ผ่านอุปกรณ์สวมใส่ Wear OS หรือ Android Auto ยกตัวอย่างเช่น สั่งให้ Gemini ช่วยพิมพ์หรือสรุปข้อความที่ได้รับ ช่วยจดบันทึกหรือจดจำนัดหมายพร้อมกับสถานที่ ไปจนถึงช่วยสรุปข่าวและสรุปเส้นทางบน Google Maps เหมาะสำหรับสถานการณ์คับขันที่ไม่สามารถหยิบสมาร์ทโฟนมาใช้งานได้ อย่างตอนออกกำลังหรือตอนขับรถ
นอกจากนั้นในอนาคต Google ยังมีแผนที่จะนำ Gemini มารวมเข้ากับ Android XR และ Google TV ภายในปีนี้อีกด้วย


ปลอดภัย อุ่นใจมากขึ้นด้วย Android 16
ด้วย Android 16 จะช่วยให้ผู้ใช้งานปลอดภัยจากสิ่งที่ไม่คาดคิดซึ่งเกิดขึ้นได้จากการใช้งานสมาร์ทโฟน เช่น มิจฉาชีพ การโจมตีทางไซเบอร์ ไปจนถึงการค้นหาตำแหน่งอุปกรณ์ ด้วย 3 ฟีเจอร์หลักๆ ดังนี้
- Scam Detection – ตรวจจับสายสนทนาหรือ SMS ที่น่าสงสัยและมาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ป้องกันสแปมไปจนถึงธุรกรรมทางการเงินที่ไม่ปลอดภัยได้แม่นยำมากขึ้น โดยเป็นการประมวลผลบนอุปกรณ์เป็นหลักเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน
- Find Hub – จาก Find My Device สู่ฟีเจอร์อย่าง Find Hub ครอบคลุมการค้นหาที่มากขึ้น เริ่มตั้งแต่ตำแหน่งของสมาร์ทโฟน อุปกรณ์ Android และกระเป๋าเดินทางที่มีระบบติดตามในตัว (หรือใช้ร่วมกับ Bluetooth Tag) โดยผู้ใช้ยังสามารถแชร์ตำแหน่งของตัวเองให้กับผู้ใช้รายอื่นได้ด้วย ในกรณีที่ต้องการจะติดตามสถานะของเพื่อนและคนในครอบครัว
- Advanced Protection – เสิร์ฟความปลอดภัยขั้นสูงให้กับสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ (Device-level) ด้วย Advance Protection ผู้ใช้สามารถเปิดฟีเจอร์ Advanced Protection ได้โดยตรงบน Android 16 และไม่จำเป็นต้องตั้งค่าผ่านบัญชี Google อย่างเดียวแล้ว


Android 16 มาแน่นอนเดือนหน้า
Sameer Samat ประธานของ Android Ecosystem กล่าวว่า Android 16 ในปีนี้จะทำการปล่อยอัปเดตให้กับผู้ใช้งานเร็วขึ้นกว่าเดิม โดยจะเริ่มปล่อยอัปเดตให้กับสมาร์ทโฟนตระกูล Pixel เริ่มต้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2025 และสำหรับสมาร์ทโฟนทางฝั่ง Samsung กับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ที่รองรับในช่วงซัมเมอร์นี้ (มิถุนายนถึงกันยายน 2025)
สำหรับในภาพรวมตอนนี้ Android 16 จะมีการเปลี่ยนแปลงหลักๆ เน้นไปที่ UX / UI บนพื้นฐานของ Material 3 Expressive ที่ยกเครื่องใหม่ในหลายๆ จุด ในส่วนของฟีเจอร์หรือการอัปเดตอื่นๆ จะเน้นไปที่ API กับ Lives Update ใหม่เสียมากกว่า ต้องมารอติดตามกันกันต่อไปว่าจะมีการเผยข้อมูลอะไรใหม่ๆ เพิ่มเติมในงาน Google I/O 2025 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 20-21 พฤษภาคม อีกหรือเปล่า
Comment