บริษัทวิจัย Strategy Analytics เปิดเผยส่วนแบ่งทางการตลาดแท็บแล็ตของปี 2011 พบว่ายอดขายส่งของ Android แท็บแล็ตเพิ่มสูงขึ้นจากปีที่แล้วจาก 3.1 ล้านเครื่อง เป็น 10.5 ล้านเครื่อง
โดยที่ 1 ยังคงเป็น iPad ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 57.6% แต่ลดลงจากปีก่อนซึ่งครองส่วนแบ่งได้ถึง 68.2% จากตัวเลขจะเห็นว่าลดลงแต่ว่ากลับขายได้มากขึ้น จาก 7.3 ล้านเพิ่มเป็น 15.4 ล้านเครื่อง ส่วนที่ 2 เป็น Android ที่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10.1% เป็น 39.1%
โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้นของ Android มาจากแรงเหวี่ยงของ Amazon Kindle Fire ที่เข้ามาตีตลาดในไตรมาสสุดท้าย ทาง Flurry ได้เปิดเผยยอดส่วนแบ่งทางการตลาดของ Android แท็บแล็ต จากการสังเกตการใช้ app หนึ่งหมื่นตัวบน Android พบว่าในเดือนพฤศจิกายน 2011 ส่วนแบ่งทางการตลาดของ Kindle Fire มีเพียงแค่ 3% ในขณะที่แท็บแล็ตตระกูล Galaxy Tab มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงถึง 63%
แต่ในเดือนมกราคมปีนี้ Kindle Fire สามารถไล่กินส่วนแบ่งทางการตลาดจนกระทั่งมีส่วนแบ่งทางการตลาดเท่าๆ กับ Galaxy Tab ที่ 36% เท่ากัน
นอกจากนี้ในรายงานของ Flurry ยังพบข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับยอดการซื้อ app พบว่าผู้ใช้ Kindle Fire มีอัตราการซื้อ app ที่สูงกว่า Galaxy Tab ในอัตราส่วน 1 ต่อ 2.53
แต่หลักการที่ Flurry ใช้นั้นอาจจะไม่ได้สะท้อนภาพรวมของส่วนแบ่งทางการตลาดได้อย่างแท้จริง แต่ก็ช่วยทำให้เห็นภาพรวมของตลาด Android แท็บแล็ต
มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
Kindle fire มันต้องซื้ออะ ต่อคอมก็ไม่ได้ ใส่อะไรเพิ่มก็ไม่ได้ ล็อคทุกอย่างแบบ Ipad เลย
ถ้าซื้อจับมาลง cm ก็ค่อนข้างคุ้มครับ เสียอย่างเดียวเมมให้มาน้อยจริงๆ 8GB
ต้องไล่กินเเอปเปิ้ลให้หมด 555
การตลาด amazon เขาดีกว่า ตรง วัตถุประสงค์การใช้งานละมั้ง —> Ebook
Amazon เขาราคาถูก เพราะเขายังยอมขายทุน ไปขาย Content แทน
กินน้อยๆกินนานๆ ติอตลาดแล้ว อะไรก็ไม่เป็นปัญหา
พูดได้คำเดียวว่าคนกลัวที่จะเปลี่ยนมาใช้แอนดอร์ย เพราะไอแพทก็ดีอยู่แล้ว สวยหรู คุณภาพเยี่ยม แต่เมื่อมี คินเดิน ไฟ มาคนจึงคิดว่ามาจากบริษัทใหญ่ของพวกหัวทองด้วยกันจึงมีความมั่นใจมากขึ้น และก็ลองซื้อมาเล่นดูเพราะราคาไม่แพง สุดท้ายก็พบว่า เออกูไม่น่าบื่อเลย (แบบบื่อไหนคิดกันเอาเอง)