หลังจากเปิดตัวในประเทศจีนไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ก็ถึงเวลาที่ nubia Z80 Ultra เริ่มวางจำหน่ายขายทั่วโลกแล้ว พร้อมสเปคสุดแรงที่ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon 8 Elite Gen 5 จอความละเอียด 1.5K อัตราการรีเฟรช 144Hz บนระบบปฏิบัติการ MyOS บนพื้นฐาน Android 16 ในราคาเริ่มต้น 649 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 21,000 บาท)
หน้าจอ / กล้องของ nubia Z80 Ultra
มือถือรุ่นนี้เปิดตัวมากับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.85 นิ้ว ความละเอียด 1.5K อัตราการรีเฟรช 144 Hz ความสว่างสุด 2,000 นิต มีฟีเจอร์ AI EyeCare ช่วยปรับความสว่างตลอดทั้งวันให้ใช้งานสบายตามากขึ้น

ให้กล้องหลังมาทั้งหมด 3 ตัว ได้แก่ กล้องหลักความละเอียด 50MP กล้องอัลตราไวด์ความละเอียด 50MP และกล้องเทเลโฟโต้ความละเอียด 64MP โดยมีเซ็นเซอร์ Light & Shadow Master 990 สามารถปรับรูรับแสงได้ รวมถึงระบบกันสั่นแบบออปติคอล ในส่วนของกล้องหน้าใต้หน้าจอให้ความละเอียดมา 16MP

ชิปเซ็ต / แบตเตอรี่ของ nubia Z80 Ultra

nubia Z80 Ultra ขับเคลื่อนด้วยชิป Snapdragon 8 Elite Gen 5 รองรับหน่วยความจำ (RAM) LPDDR5X และพื้นที่เก็บข้อมูล (Storage) UFS 4.1 จับคู่กับระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม 35% ช่วยให้ RedMagic Gaming Engine ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บนความจุแบตเตอรี่ 7,200 mAh รองรับชาร์จไวถึง 80W ทั้งการชาร์จผ่านสายและชาร์จแบบไร้สาย แต่จำเป็นต้องใช้ที่ชาร์จของ nubia เท่านั้น แตกต่างจากเวอร์ชันวางขายในจีนซึ่งการชาร์จด้วยสายจะรองรับความเร็วสูงถึง 90W แทน

ราคาของ nubia Z80 Ultra
nubia Z80 Ultra เปิดตัวในทั่วโลกด้วยสีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Black (ดำ), White (ขาว) และ Starry Night โดยขายในราคาที่แตกต่างกันในแต่ละสี ดังนี้
- Black RAM 12GB + 256GB ราคา 649 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 21,000 บาท)
- Black RAM 16GB + 512GB ราคา 799 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 25,900 บาท)
- Black RAM 16GB + 1TB ราคา 899 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 29,100 บาท)
- White RAM 16GB + 512GB ราคา 799 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 25,900 บาท)
- Starry Night RAM 16GB + 512GB ราคา 829 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 26,840 บาท)
ราคานี้ยังไม่อุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เช่น nubia Z80 Ultra Retro kit และ nubia Gamepad 2

สเปค Nubia Z80 Ultra
| รายละเอียด | Nubia Z80 Ultra | |
| จอภาพ | พาเนล | AMOLED |
| ขนาด | 6.85 นิ้ว | |
| ความละเอียด | 2688×1216 พิกเซล | |
| อัตรารีเฟรช | 144Hz | |
| ความสว่างหน้าจอสูงสุด | 2,000 นิต | |
| ประสิทธิภาพ | ชิปเซต | Snapdragon 8 Elite Gen 5 |
| หน่วยความจำ | 12GB / 16GB (LPDDR5X) | |
| ความจุ | 256GB / 512GB / 1TB (UFS 4.1) | |
| ระบบปฏิบัติการ | MyOS บนพื้นฐาน Android 16 | |
| กล้อง | กล้องหลัก | 50MP (f/1.7) |
| กล้องอัลตราไวด์ | 50MP (f/1.8) | |
| กล้องเทเลโฟโต้ | 64MP (f/2.48) | |
| กล้องหน้า | 16MP | |
| ระบบเสียง | ลำโพง | ลำโพงคู่ระบบสเตอริโอ DTS:X Ultra |
| การเชื่อมต่อ | เครือข่าย | 5G |
| Wi-Fi | Wi-Fi 7 | |
| Bluetooth | 6 | |
| NFC | รองรับ | |
| พอร์ต | USB-C | |
| เซนเซอร์ | เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอแบบอัลตราโซนิค | |
| แบตเตอรี่ | ความจุ | 7,200mAh |
| ชาร์จผ่านสาย | 80W | |
| ชาร์จไร้สาย | 80W | |
| ความทนทาน | ทนน้ำทนฝุ่น | IP68 + IP69 |
| ขนาด | 164.5 x 77.2 x 8.6 มม. | |
| น้ำหนัก | 227 กรัม | |
ท้ายที่สุดก็ต้องติดตามกันต่อไป มือถือรุ่นเรือธงรุ่นนี้จะมีแผนเข้าไทยหรือไม่ หากใครไม่อยากรอลุ้นก็สามารถไปซื้อมือถือเกมมิ่งแบรนด์ลูกของ nubia อย่าง RedMagic มาใช้ก่อนก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่น
ที่มา : Gizmochina, nubia

Comment