เมื่อวานนี้เวลา 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย LG ได้จัดงานเปิดตัวมือถือเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด LG G4 ขึ้นในเมือง New York ประเทศสหรัฐฯและกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดย LG G4 นั้นเป็นมือถือรุ่นแรกที่เลือกใช้หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 808, หน้าจอ 5.5 นิ้ว IPS Quantum Display และกล้องความละเอียด 16MP แต่จุดเด่นที่เห็นได้ชัดที่สุดของมือถือรุ่นนี้คือ การใช้วัสดุ “หนังแท้” มาทำฝาหลังของตัวเครื่อง และเป็นมือถือเรือธงไม่กี่รุ่นของปีนี้ที่ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่เองได้และยังเสียบ microSD card เพิ่มได้อีกด้วย มาดูรายละเอียดของ LG G4 กันดีกว่า

 

งานออกแบบและหน้าจอแสดงผล

LG G4 นั้นเลือกใช้หน้าจอขนาด 5.5 นิ้วความละเอียด QHD 2,560×1,440 เหมือนกับรุ่นพี่ LG G3 เช่นเดิม โดยคิดเป็นค่าความหนาแน่นพิกเซลที่ 534ppi อยู่ตรงกลางระหว่างคู่แข่งอย่าง Samsung Galaxy S6 ที่ 577ppi และ HTC One M9 ที่ 441ppi ถึงแม้ LG G4 จะมีขนาดหน้าจอและความละเอียดเท่ากับ LG G3 แต่มันมาพร้อมเทคโนโลยีการแสดงผลแบบใหม่ IPS Quantum Display ที่ LG เคลมว่าให้ความสว่างมากกว่าเดิม 25% (500 nits) และมีความกว้างของช่วงสีมากขึ้นถึง 20% จากหน้าจอ QHD แบบเดิม ในส่วนของค่า Contrast ก็เพิ่มขึ้นอีก 50% เทียบกับหน้าจอของ G3 เป็น 1,500:1

หน้าจอ IPS Quantum Display จะให้สีที่แม่นยำและเสมือนจริงมากขึ้นกว่าเดิมทั้งโทนแดงและโทนฟ้า แต่ส่วนใหญ่ถ้าดูจาก LG G4 เดี่ยวๆจะแยกไม่ค่อยออก ต้องเอาไปเทียบกับหน้าจอของมือถือคู่แข่งที่เป็น Retina กับ AMOLED ถึงจะเห็นความแตกต่าง นอกจากนั้นหน้าจอของ LG G4 ยังโค้งเหมือนๆกับ LG G Flex 2 แต่จะโค้งน้อยกว่าประมาณ 4 เท่า เรียกว่า “Slim Arc” ทำให้จับถือได้สะดวกมากกว่า โดยที่มองด้วยตาเปล่าจะไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก

 

ในส่วนงานออกแบบฝาหลังของตัวเครื่องนั้น LG G4 มีตัวเลือกให้ถึง 3 แบบคือ หนังแท้, พลาสติกลายเซรามิก และ พลาสติกลายโลหะแบบ G3 โดยวัสดุแบบ “หนังแท้” คือตัวที่ LG ภูมิใจนำเสนอมากที่สุด เป็นการนำเอาแผ่นหนังเย็บลงไปบนแผ่นพลาสติกอีกที มีหลายสีให้เลือก

หากเรามองตัวเครื่อง LG G4 จากด้านหน้าอาจจะไม่ดูต่างจาก LG G3 สักเท่าไหร่นัก แต่เวลาสัมผัสแล้วจะรู้สึกว่าเครื่องบางลงและกระชับมือมากขึ้นเพราะความโค้ง ในขณะที่ความกว้างและความสูงของเครื่องจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในส่วนของวัสดุหนังนั้น LG บอกว่านำมาจาก supplier เดียวกันกับที่ส่งให้แบรนด์หรูนำไปผลิตเครื่องหนังเลยครับ

 

สเปกของ LG G4

  • CPU: Qualcomm Snapdragon 808 Hexa-core 
  • GPU: Areno 418
  • RAM: 3 GB มี Graphic RAM แยกสำหรับใช้กับหน้าจอแสดงผล
  • ROM: 32 GB รองรับ microSD ได้สูงสุด 2TB (ถ้ามีตังค์ซื้อ)
  • หน้าจอ: IPS Quantum Display ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Quad HD (2560*1440 พิกเซล) 534ppi
  • กล้องหลัง: ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เลนส์ f/1.8 พร้อมเลเซอร์โฟกัส ถ่ายภาพแบบ RAW ได้
  • กล้องหน้า: 8 ล้านพิกเซล เลนส์ f/1.8
  • แบตเตอรี่: 3000 mAh ถอดเปลี่ยนได้ รองรับการชาร์จแบบไร้สาย 
  • OS: Android 5.1 พร้อม LG UX 4.0
  • อื่นๆ: รองรับ Wireless AC, LTE Advanced, Bluetooth 4.0 และ NFC

ในส่วนของชิปเซ็ต Snapdragon 808 นั้นทางผู้บริหารของ Qualcomm ได้บอกว่า LG กับ Qualcomm ร่วมมือกันปรับจูนตัวชิปเซ็ตให้เหมาะกับ LG G4 โดยเฉพาะ ทำให้ซอฟแวร์ฟีเจอร์ใหม่ๆของ G4 ดึงประสิทธิภาพของ Snapdragon 808 มาใช้ได้อย่างเต็มที่ ทั้งการแสดงผล, คุณภาพเสียงสนทนา, คุณภาพเสียงเพลง และ LTE ที่เร็วสุดๆ การใช้งานจะลื่นไหลอย่างไม่ต้องสงสัย

นอกจากนั้นเหตุผลหนึ่งที่ LG เลือก Snapdragon 808 ที่เป็นเหมือนเป็นรุ่นรองของ Snapdragon 810 คือการจัดการพลังงานที่ดีกว่า โดย LG ยอมให้ LG G4 ช้าลงกว่า G Flex 2 (ที่ใช้ Snapdragon 810) แต่ได้มาซึ่งแบตเตอรี่ที่ยาวนานกว่า โดยแบตเตอรี่ 3000mAh นั้น LG เคลมว่าอยู่ได้นานวันกว่าๆเลย

สำหรับกล้องหลังของ LG G4 นั้นมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เพิ่มขึ้นจากของ G3 ที่ 13 ล้านพิกเซล มาพร้อมเลนส์ที่มีค่ารูรับแสง f/1.8 ทำให้สามารถถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้ดีมากขึ้น นอกจากนั้นตัวเซนเซอร์ยังใหญ่ขึ้น 40% มีระบบ OIS 2.0 และ Laser Autofocus ที่ปรับปรุงให้ดีกว่าเดิม ในส่วนของ OIS 2.0 นั้นจะวัดการสั่นไหวของภาพจาก 2 แกนในขณะที่แบบเดิมจะวัดจากแกนเดียว 3 แกนคือ X, Y, Z ในขณะที่แบบเดิมจะวัดจากแกน X และ Y เท่านั้น

 

ส่วน Laser AF ก็ได้รับการปรับปรุงโดยเพิ่มเซนเซอร์วัดค่าสีของวัตถุเข้าไปไว้ใต้ Flash ทำให้ได้ภาพที่มีสีสันสวยงามและถูกต้องมากขึ้น กล้องหน้าเป็นอีกจุดที่ถือว่าเป็นการปรับปรุงแบบก้าวกระโดด เพราะ LG G4 นั้นมีกล้องหน้าสำหรับถ่าย selfie ความละเอียดถึง 8 ล้านพิกเซล ในขณะที่ G3 นั้นมีแค่ 2.1 ล้านพิกเซลเท่านั้น ตรงนี้อาจจะถูกใจหลายคนที่เคยบ่นเรื่องกล้องหน้าของ LG นะครับ

นอกจากนั้น LG G4 ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์กล้องแบบ Manual mode ที่จัดมาเพื่อผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายรูปแบบปรับค่าได้เองเหมือนกับการใช้กล้อง DSLR เลยครับ โดยเราสามารถปรับ White balance, focus, ความสว่าง และ ISO ได้หลายระดับ เช่น WB ปรับได้ 51 ระดับ และ ISO ปรับได้ตั้งแต่ 50-2,700 รวมถึงความสามารถในการถ่ายภาพแบบ RAW และ JPEG อีกด้วย จัดเต็มจริงๆ

 

เป็นอย่างไรบ้างครับกับ LG G4 เรือธงตัวล่าสุดของ LG ชอบหรือถูกใจกันตรงไหนบ้าง มาร่วมแชร์ความคิดเห็นกันได้ แถมท้ายด้วยวิดีโอ Hands-on ของ CNET ครับ

 

ที่มา: CNET (1) และ (2)