LG เปิดตัว LG V50 พร้อมๆ กับ LG G8 ภายในงาน MWC 2019 ซึ่งปกติแล้วมือถือซีรีส์ V จะเป็นมือถือที่มีสเปคและฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ได้รับการอัพเกรดมาจากซีรีส์ G รอบนี้จัดเต็มด้วยสเปค 5 กล้อง และหน้าจอเสริมพิเศษ ประกบแล้วหน้าตาเหมือน Nintendo DS ยังไงยังงั้น

LG V50 ThinQ 5G (นี่คือชื่ออย่างเป็นทางการ) ยังคงมาพร้อมกับดีไซน์ที่แทบจะไม่แตกต่างจาก LG V40 เลย ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอขนาด 6.4 นิ้วเท่าเดิม แล้วยังมี Notch เป็นแถบยาวสำหรับวางกล้องเซลฟี่คู่เหมือนเดิมอีก พลิกมาดูด้านหลังมีกล้อง 3 ตัว เรียงเป็นแนวนอน ถัดลงมาเป็นเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือ และถัดลงมาอีกหน่อยเป็นโลโก้ V50 ThinQ (ถ้าไม่มีคนอาจจะแยกไม่ออกมาว่า V40 หรือ V50)

LG V50 มีกล้องหลัง 3 ตัว เลนส์หลักความละเอียด 12MP, เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 16MP และเลนส์ซูม 12MP ส่วนกล้องเซลฟี่คู่มีความละเอียด 8MP + 5MP มีกล้องตัวที่ 2 ในการจับความลึกเพื่อการถ่ายเซลฟี่โหมด Portrait ได้เป็นธรรมชาติมากกว่า

ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ก็จะคล้ายๆ กับ LG G8 ทั้ง Quad DAC ที่ให้คุณภาพเสียงระดับ 32-bit, ระบบเสียง DTS:X 3D Surround, มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องระบบสแกนเส้นเลือดแบบที่ใช้ใน LG G8 ว่ามีเหมือนกันรึเปล่า

แต่สิ่งที่พิเศษกว่า LG G8 ก็คือ LG V50 จะเป็นมือถือรุ่นแรกของแบรนด์ที่รองรับการใช้งานเครือข่าย 5G อีกด้วย ซึ่งตอนนี้ยังรองรับการใช้งานอยู่แค่บางรัฐในสหรัฐอเมริกา ผ่านทางผู้ให้บริการเครือข่าย Sprint และ Verizon ส่วนหลังจากนี้ก็จะเริ่มทะยอยวางจำหน่ายตามประเทศที่มีการใช้งาน 5G แล้ว อย่างเช่นบ้านเกิดเกาหลีใต้, ออสเตรเลีย และบางประเทศในโซนยุโรปต่อไป

นอกจากนี้ LG V50 ยังรองรับการใช้งานอุปกรณ์เสริมคล้ายๆ กับของ ROG Phone ที่เป็นเคสหน้าจอเสริมเอาเสียบเข้ากับตัวเครื่อง LG V50 ให้กลายเป็นมือถือพับได้ (ไม่ใช่พับจอแบบ Galaxy Fold หรือ Mate X นะ) สไตล์เครื่องเกม Nintendo DS นั่นเอง โดยเจ้าหน้าจอเสริมที่ว่านี้เป็นหน้าจอแบบ OLED มีขนาดอยู่ที่ 6.2 นิ้ว เมื่อเสียบแล้วหน้าจอดังกล่าวจะสามารถใช้งานแยกได้ สำหรับเปิดแอปเพื่อใช้งานอีกจอนึง อย่างเช่นดูหนังจอนึง อีกจอนึงเล่นเกม อะไรประมาณนี้ แต่ข่าวร้ายก็คือมันไม่มีแบตเตอรี่ในตัว ก็เลยต้องดึงพลังงานจากตัว LG V40 มาใช้นั่นเอง

หน้าจอเสริมนี้ นอกจากจะใช้เปิดแอปแยกได้แล้ว มันยังใช้เป็นคอนโทรลเลอร์แบบหน้าจอสัมผัสสำหรับเกมต่างๆ ได้อีกด้วย (คาดว่าน่าจะใช้งานผ่านแอปของ LG อีกทีนึง)

สเปค LG V50 ThinQ 5G

  • หน้าจอ OLED ความละเอียด QHD+ ขนาด 6.4 นิ้ว รองรับการแสดงผลแบบ HDR10 และ Dolby Vision
  • CPU : Snapdragon 855
  • GPU : Adreno 640
  • RAM : 6GB
  • ความจุ : 128GB รองรับ MicroSD Card 512GB ช่องแยก
  • กล้องหลัง 3 ตัว : เลนส์หลัก 12MP (f/1.5) + เลนส์ซูม 12MP (f/2.4) + เลนส์ Ultra-Wide 16MP (f/1.9)
  • กล้องหน้าคู่ : 8MP (f/1.9) + 5MP (f/2.2)
  • ระบบเสียง : รูหูฟัง 3.5 มม., คุณภาพเสียง 32-bit/192kHZ, DTS:X Surround Sound, ลำโพงสเตอรีโอ Boombox
  • มีวิทยุ FM
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, DLNA, BT 5.0
  • เซ็นเซอร์ : Fingerprint (ด้านหลัง), accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer
  • มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น : IP68
  • มาตณฐานกันกระแทก : MIL-STD-810G
  • แบตเตอรี่ : 3500 mAh รองรับชาร์จไว QC 3.0, ชาร์จไร้สาย
  • ระบบ Android 9.0 Pie
  • สีที่วางจำหน่าย : สีดำ Astro Black

สำหรับราคาของทั้ง LG V50 และเคสจอเสริมในตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลนะครับ ว่าจะอยู่ที่เท่าไหร่กันบ้าง แต่ถ้าหากเอาไปเทียบกับ LG V40 ตอนเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว 899 ดอลลาร์ (ประมาณ 28,000 บาท) แต่ LG V50 นั้นรองรับการใช้งาน 5G ด้วย ก็ไม่แน่ว่าอาจจะมีราคาที่แพงขึ้นอีกหน่อยนึงก็ได้

Play video

 

ที่มา : Androidauthority