กลายเป็นข่าวใหญ่ที่เขย่าวงการไอทีเบา ๆ เมื่อ Linux ระบบปฏิบัติการที่เคยถูกมองว่าเป็นทางเลือกของผู้ใช้กลุ่มเล็ก ๆ สร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ในสหรัฐอเมริกา ด้วยการมีส่วนแบ่งตลาดบนคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปทะลุ 5% เป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี จากข้อมูลของ StatCounter ประจำเดือนมิถุนายน 2025 ระบุว่า Linux ครองส่วนแบ่งตลาดเดสก์ท็อปในสหรัฐฯ อยู่ที่ 5.03% ซึ่งถือเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่มีการเก็บสถิติมา
แม้ว่า Windows จะยังครองตำแหน่งเจ้าตลาดด้วยส่วนแบ่ง 63.2% แต่ทิศทางกลับเป็นขาลงอย่างต่อเนื่องในช่วงสิบปีที่ผ่านมา โดยสูญเสียส่วนแบ่งไปราว 13 จุดเปอร์เซ็นต์ ขณะเดียวกันฝั่ง Apple ยังคงรักษาฐานผู้ใช้อย่างแข็งแรงด้วยสัดส่วนรวมกันราว 24% ระหว่าง macOS และ OS X ส่วน Chrome OS ครองอยู่ที่ 2.71% และยังมีระบบที่ถูกจัดอยู่ในหมวด “Unknown” อยู่ที่ 4.76% นับเป็นครั้งแรกที่ Linux สามารถแซงหน้าหมวด Unknown ได้

สิ่งที่ผลักดันให้ Linux เติบโตอย่างชัดเจนในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งมาจากกระแสความไม่พอใจในระบบของ Microsoft เอง โดยเฉพาะการที่ Windows 10 กำลังจะสิ้นสุดการสนับสนุน ทำให้ผู้ใช้จำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้ฮาร์ดแวร์รุ่นเก่าเริ่มลังเลกับการอัปเกรดไป Windows 11 เพราะต้องเจอกับข้อกำหนดสเปกที่เข้มงวด โดยอาจหมายถึงการต้องซื้อเครื่องใหม่ นอกจากนี้ ปัญหาความเป็นส่วนตัว การบังคับอัปเดต และการแทรกโฆษณาหรือเนื้อหาส่งเสริมการขายภายในระบบ รวมถึงแนวทางการเก็บข้อมูลเพื่อใช้กับ AI ของ Microsoft ยิ่งทำให้ผู้ใช้หลายรายเริ่มมองหา OS ทางเลือกที่ให้ความอิสระและควบคุมได้มากกว่า
Linux ในปัจจุบันยังไม่ใช่ระบบที่จำกัดอยู่แค่คนไอทีหรือผู้ใช้สายเทคนิคเหมือนในอดีต เพราะดิสโทรอย่าง Ubuntu, Linux Mint และอีกหลายดิสโทรได้พัฒนาหน้าตาและประสบการณ์การใช้งานให้เป็นมิตรกับผู้ใช้ทั่วไปมากขึ้น ติดตั้งง่าย ใช้งานง่าย และมีชุมชนคอยช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ทำให้แม้คนที่ไม่เคยแตะ Linux มาก่อนก็สามารถเริ่มใช้งานได้โดยไม่ยุ่งยาก นอกจากนี้ Linux ยังมีชื่อเสียงในเรื่องความเบาและใช้ทรัพยากรน้อย ทำให้สามารถนำคอมพิวเตอร์เก่ากลับมาใช้งานได้อีกครั้งโดยยังคงความรวดเร็วและปลอดภัย ถือเป็นข้อดีที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ไม่อยากลงทุนซื้อเครื่องใหม่

อีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ Linux เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้วงกว้างมากขึ้นคือกระแสเกมมิ่ง โดยเฉพาะความสำเร็จของ Steam Deck เครื่องเกมพกพาจาก Valve ที่ใช้ระบบปฏิบัติการพื้นฐาน Linux ทำให้เกมเมอร์รุ่นใหม่ได้สัมผัสและเรียนรู้ว่า Linux ก็สามารถรันเกมได้อย่างลื่นไหล และมีความยืดหยุ่นสูง การมาถึงของ Steam Deck จึงไม่เพียงแต่เปิดตลาดฮาร์ดแวร์เกมใหม่ แต่ยังช่วยสร้างภาพจำใหม่ให้ Linux ว่าไม่ใช่ระบบที่เล่นเกมไม่ได้อีกต่อไป
แม้ StatCounter จะรายงานส่วนแบ่ง Linux อยู่ที่ 5.03% แต่ในชุมชนโอเพ่นซอร์สมีการถกเถียงกันว่าตัวเลขจริงอาจสูงกว่านี้ เนื่องจากผู้ใช้ Linux จำนวนมากนิยมปิดการติดตามหรือเปลี่ยน user agent ทำให้เครื่องมือตรวจวัดไม่สามารถนับรวมได้ครบถ้วน อีกทั้งในหมวด Unknown OS ที่มีอยู่ 4.76% ก็อาจมีบางส่วนที่เป็น Linux ด้วย

นอกจากนี้ หากนับรวม Chrome OS ที่ใช้เคอร์เนล Linux ด้วยแล้ว ส่วนแบ่งรวมของ “ครอบครัว Linux” จะขยับไปอยู่ที่ 7.74% ของตลาดเดสก์ท็อปในสหรัฐฯ ยิ่งตอกย้ำว่าอิทธิพลของระบบปฏิบัติการสาย Linux กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การเดินทางของ Linux ในตลาดเดสก์ท็อปอาจเริ่มช้ากว่าระบบอื่น โดยใช้เวลาถึงแปดปีเต็มกว่าจะขยับจาก 1% ไปสู่ 2% ในปี 2021 แต่หลังจากนั้นเพียงสามปีกว่า Linux ก็สามารถเติบโตจนทะลุ 5% ได้สำเร็จ แนวโน้มนี้เป็นสัญญาณชัดเจนว่า Linux ไม่ได้เป็นเพียง OS ทางเลือกเฉพาะกลุ่มอีกต่อไป แต่กำลังก้าวเข้าสู่กระแสหลักอย่างมั่นคง และอาจสร้างประวัติศาสตร์บทใหม่ได้อีกในอนาคต
ที่มา : techspot
Comment