ไม่แตก ไม่บุบสลาย… iPhone เครื่องที่ตกมาจากฟ้าระยะห่างจากพื้น 16,000 ฟุต หรือราว 5,000 เมตร แต่ตัวเครื่องกลับไม่เป็นอะไรเลย หน้าจอไม่แตก แถมยังใช้งานได้ปกติ จึงได้รับคำแซว ๆ ว่า นี่สินะ สิ่งที่เรียกว่า Airplane Mode…

เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2567 ฌอน เบตส์ (Seanathan Bates) ผู้ใช้แอป X (ทวิตเตอร์) ได้ออกมาโพสต์ข้อความว่า เขาพบ iPhone ตกอยู่ข้างถนน สภาพหน้าจอของตัวเครื่องมีรอยขีดข่วนเล็กน้อย แบตเตอรี่คงเหลือ 44 เปอร์เซ็นต์ มีพอร์ตชาร์จคาไว้ที่ช่องชาร์จ แต่สายฉีกขาดไปแล้ว และเปิดโหมดเครื่องบินอยู่ ส่วนบนหน้าจอมีอีเมลล์ใบเสร็จค่าโหลดกระเป๋าเดินทางจากสายการบิน Alaska Airlines ส่งมาให้เจ้าของเครื่อง

เขาจึงทราบว่า iPhone เครื่องที่พบน่าจะเป็นของผู้โดยสารจากสายการบิน Alaska Airlines เที่ยวบินที่ 1282 ที่ได้เกิดอุบัติเหตุชิ้นส่วนหลุดขณะขึ้นบิน จึงได้โทรไปแจ้งเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติ (NTSB)

โดยเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2567 เครื่องบินของสายการบิน Alaska Airlines เที่ยวบิน 1282 เครื่องโบอิ้ง 737-9 MAX ที่เดินทางออกจากท่าอากาศยานนานาชาติพอร์ตแลนด์ มุ่งหน้าไปเมืองออนแทรีโอ รัฐแคลิฟอร์เนีย ขณะขึ้นบินไต่ระดับที่ความสูง 16,000 ฟุต ได้เกิดอุบัติเหตุชิ้นส่วนหลุด ซึ่งเป็นส่วนที่เรียกว่า door plug ถ้าอย่างคนทั่วไปเข้าใจมันคือส่วนของประตู ทำให้สัมภาระที่อยู่ภายในเครื่องบางส่วนถูกดูดออกไปตามแรงดันอากาศ รวมถึง iPhone เครื่องที่ฌอนพบด้วย

Alaska Airlines เที่ยวบิน 1282

โดยเครื่องบินลำดังกล่าว ต้องทำการลงจอดแบบฉุกเฉินด้วยการวนกลับไปที่สนามบินพอร์ตแลนด์ โชคดีที่ผู้โดยสารและลูกเรือทุกคนปลอดภัย

ฌอน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงตำแหน่งที่เขาพบ iPhone และโทรศัพท์อีกเครื่อง รวมถึง door plug ของสายการบิน Alaska Airlines เที่ยวบิน 1282 ที่หล่นลงมา

Alaska Airlines 1282

ซึ่งนี่ก็อาจจะเป็นเรื่องของโชค ที่ทำให้ iPhone ร่วงลงมาบนพื้นดินที่ไม่ได้แข็งมากจนทำให้เครื่องแตก บวกกับตัวเครื่องได้ใส่ทั้งเคสและกระจกกันรอยไว้ เลยทำให้ช่วยเอาไว้ได้อีกส่วน แต่ที่โชคดีกว่าคือ ในเที่ยวบินดังกล่าวไม่มีใครได้อันตราย รวมถึงสิ่งของที่ตกลงมาจากเครื่องบินไม่ได้เป็นอันตรายต่อทรัพย์สินและคนที่อยู่พื้นด้านล่างด้วย

ที่มา : Yahoo News, CNN