Lytro เป็นบริษัทผู้ผลิต Light-field camera สำหรับผู้บริโภคทั่วไปเป็นเจ้าแรกของโลก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้เราสามารถเปลี่ยนจุดโฟกัสหลังถ่ายภาพได้ แต่ด้วยความแข็งแกร่งของคู่แข่งอย่าง Canon และ Nikon รวมไปถึงการพัฒนาของกล้องสมาร์ทโฟนยุคใหม่ ทำให้ Lytro เริ่มสู้ไม่ไหว จนถึงขั้นที่ซีอีโอของ Lytro ออกมาบอกเองเลยว่า แข่งกับพวกนี้มีแต่เสียกับเสีย
นาย Jason Rosenthal ซีอีโอของ Lytro ออกมาโพสต์ข้อความบน Backchannel(Medium) ว่า Lytro นั้นกำลังแข่งกับคู่แข่งที่แข็งแกร่งและมีความพร้อมในเรื่องการผลิตมากกว่า และตลาดของกล้องถ่ายรูปก็มีแนวโน้มที่ลดลง 35% ต่อปี เพราะว่าคนหันไปใช้สมาร์ทโฟนในการถ่ายภาพมากขึ้นเรื่อยๆ
ถึงแม้ว่า Lytro จะเปิดตัวมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่โดดเด่น(ในตอนนั้น) อย่างการ re-focus ภายหลังการถ่ายภาพ แต่ด้วยขนาดไฟล์ที่ใหญ่ และคุณภาพที่ต่ำ แถมราคายังสูง ทำให้ Lytro ไม่สามารถต่อกรกับคู่แข่งอื่นๆ ได้ โดยเฉพาะตอนนี้ที่สมาร์ทโฟนก็สามารถทำได้ด้วยคุณภาพที่สูงกว่า
นอกจากนี้ นาย Jason Rosenthal ก็ยังบอกอีกว่า ถ้า Lytro ยังทำ รุ่นที่ 3 หรือ รุ่นที่ 4 ต่อ อาจจะต้องใช้งบถึง $50 ล้านเหรียญ (~1,700 ล้านบาท) ซึ่งถ้าทำออกมาแล้วไม่สามารถขายได้ตามเป้าละก็ Lytro อาจจะถึงขึ้นต้องปิดตัวเลยทีเดียว ทาง Lytro จึงนำเทคโนโลยี Light-field ที่มีอยู่ไปใช้กับเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) ที่ตอนนี้ยังเป็นยุคเริ่มต้นเท่านั้นแทน
โดยเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว Lytro ได้ทำการเปิดตัว Lytro Immerge กล้องถ่ายรูป VR ตัวแรกของบริษัท ซึ่งทาง Lytro หวังว่าการพัฒนาในส่วนของ VR ครั้งนี้จะช่วยเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมของ VR ให้มีความก้าวหน้ามากขึ้นครับ
ที่มา: Backchannel via The Verge
ทรงสวยดีนะ
บ่นแบบนี้ไม่เห็นยอดของ sony fuji olympus ใช่มั้ย
ยอด mirrorless ของ 3 เจ้านี้เข้มแข็งมากนะครับโดยเฉพาะ Sony ตั่งแต่มี พวก A7 ออกมาทำให้ DSLR ของ Nikon canon หนาวๆๆร้อนๆๆกันเลยที่เดียว
ว่าแต่ จัดไป Sony ซื้อ Lytro ซะเลย เอาเทคโนโลยี เขามาหนุนทั้งสาย Alpha , cyber shot , Xperia ของตัวเองให้เทพยิ่งๆๆขึ้นไป
Sony ยอดขายกล้องไม่ธรรมดานะ เป็นธุรกิจที่โซนี่ทำกำไรมาก
กล้อง SONY แข็งแรงจริง
และตลาดของกล้องถ่ายรูปก็มีแนวโน้มที่ลดลง 35% ต่อปี เพราะว่าคนหันไปใช้สมาร์ทโฟนในการถ่ายภาพมากขึ้นเรื่อยๆ
อันนี้ปัญหาใหญ่สุดสินะ
พัฒนาทำลงสมาร์ทโฟนให้ได้ ยังไง VR ก็น่าจะได้ใช้