หลังจาก YouTube ได้อัปเดตนโยบายการสร้างรายได้สำหรับคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาซ้ำหรือไม่มีความสร้างสรรค์ ล่าสุด Meta ก็ได้ประกาศกฎใหม่ที่คล้ายคลึงกัน เพื่อจัดการกับบัญชีที่ชอบโพสต์คอนเทนต์ซึ่ง ไม่ใช่ต้นฉบับของตัวเอง (Unoriginal Content) มาโพสต์ซ้ำๆ โดยไม่ได้มีการเพิ่มเนื้อหาหรือสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ เพิ่มเติมลงไป
กฎใหม่ที่ออกมานี้ Meta ได้ทำการชี้แจงไว้อย่างชัดเจนว่าคอนเทนต์ประเภท วิดีโอรีแอคชัน, คอนเทนต์ตามเทรนด์หรือการนำคอนเทนต์คนอื่นมาวิเคราะห์ต่อยอดในสไตล์ของตัวเอง ยังสามารถทำได้ตามปกติและจะไม่ถูกลงโทษ แต่เป้าหมายหลักที่ Meta ต้องการจะลงโทษก็คือ บัญชีสแปมหรือบัญชีที่แอบอ้างเป็นครีเอเตอร์ตัวจริง แล้วชอบดูดคลิปหรือก๊อปปี้ผลงานของคนอื่นมาลงซ้ำๆ เพื่อหวังยอดวิวและสร้างรายได้ให้ตัวเอง

โดยบัญชีที่เข้าข่ายหรือละเมิดกฎนี้ซ้ำๆ จะถูกลงโทษด้วยการ ระงับการสร้างรายได้ เป็นการชั่วคราว ลดการมองเห็น ของโพสต์ต่างๆ ไปจนถึงเมื่อระบบตรวจเจอวิดีโอที่ซ้ำกันก็จะลดการมองเห็นของคลิปที่ก๊อปปี้ และหันไปส่งเสริมหรือดันคลิปต้นฉบับให้ได้ยอดวิวและยอดการมองเห็นที่ควรจะเป็นแทน
นอกจากนี้ Meta กำลังทดสอบระบบที่จะทำการ เพิ่มลิงก์ของวิดีโอต้นฉบับ ที่จะถูกแปะไว้บนคลิปที่ถูกดูดหรือก๊อปปี้ไปลงซ้ำ เพื่อให้ผู้ชมสามารถกดกลับไปดูที่มาหรือต้นฉบับของเจ้าของคลิปได้เลยทันที

สำหรับการออกกฎใหม่ในครั้งนี้ก็คาดว่า Meta ต้องการจะจำกัดคอนเทนต์ขยะที่สร้างจาก AI แล้วนำมาโพสต์บนแพดบตฟอร์มแบบง่ายๆ โดยไม่ได้มีการเรียบเรียงหรือคิดเนื้อหาให้ออกมาสร้างสรรค์ที่เรียกว่า AI Slop
ถึงแม้ว่าทาง Meta จะไม่ได้พูดถึงคอนเทนต์ที่ทำจาก AI โดยตรง แต่คำแนะนำสำหรับครีเอเตอร์ก็มีการแนะนำไว้ว่า ไม่ควรตัดแปะคลิปของคนอื่นมารวมกันเฉยๆ หรือ เอาฟุตเทจจากครีเอเตอร์คนอื่นมายำรวมกันแล้วแปะลายน้ำของตัวเองเท่านั้น แต่ควรจะโฟกัสในการ เล่าเรื่องหรือเนื้อหาที่ถูกคิดขึ้นมาใหม่ ไม่ใช่แค่ทำวิดีโอสั้นๆ เนื้อหาไม่มีจับใจความก็ไม่ได้
เราเลยอาจจะยังพอคาดการณ์ได้ครับว่าคอนเทนต์ที่ถูกสร้างขึ้นด้วย AI อาจจะไม่ถูกลงโทษหรือจำกัดการสร้างรายได้ ถ้าเกิดคอนเทนต์หรือฟุตเทจจาก AI ถูกนำมาใช้และเสริมเนื้อหาหรือเรื่องราวที่สร้างสรรค์มากขึ้น มีแนวทางการเล่าเรื่องที่ชัดเจนไม่ใช้รูปแบบหรือเทมเพลตเดิมซ้ำๆ
ที่มา: TechCrunch
Comment