หลังจาก Xiaomi ได้ออกมาคอนเฟิร์มว่า Mi 11 Series จะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 888 ล่าสุดก็มีข่าวลือออกมาว่า Xiaomi เตรียมเปิดตัวมือถือรุ่นเรือธงของพวกเขาในช่วงสิ้นปีที่จะถึงนี้ โดยจะมากับสเปคระดับท็อปแทบจะทุกด้าน
โดยจากแหล่งข่าวเผยว่า Mi 11 และ Mi 11 Pro จะมาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED ที่รองรับค่ารีเฟรชเรท 120Hz บนความละเอียด Quad HD+ หรือ 2K นั่นเอง แต่ในส่วนของขนาดหน้าจอ ยังไม่มีข้อมูลและรายละเอียดออกมา ซึ่งทั้ง Mi 11 และ Mi 11 Pro ต่างคาดการณ์กันว่าจะมากับกล้องหน้าความละเอียด 20MP
ขณะที่ในเรื่องของแบตเตอรี่ Mi 11 จะมากับแบตความจุ 4,780 มิลลิแอมป์ รองรับชาร์จไวแบบมีสายและไร้สายที่ 50W และ 30W ตามลำดับ ในส่วนรุ่นท็อปอย่าง Mi 11 Pro อาจเลือกใช้แบตขนาดเล็กกว่าที่ 4,500 มิลลิแอมป์ รองรับชาร์จไว 120W และแบบไร้สาย 80W
ส่วนกล้องหลัง คาดว่า Mi 11 จะมีด้วยกันทั้งหมด 3 ตัว ประกอบไปด้วยเซ็นเซอร์หลักความละเอียด 108MP, กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 13MP และกล้อง Macro ความละเอียด 5MP ไม่มีกล้อง Telephoto หรือ Depth ส่วนรุ่นพี่อย่าง Mi 11 Pro ก็จะมากับกล้องหลัง 3 ตัวเช่นเดียวกัน แต่เซ็นเซอร์หลักจะใช้เป็นของ OmniVision OV48C ความละเอียด 48MP, กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 20MP และกล้อง Telephoto ซูมแบบ Optical 2x ความละเอียด 12MP
ทั้ง Mi 11 และ Mi 11 Pro จะถูกขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตตัวแรงล่าสุดจาก Qualcomm อย่าง Snapdragon 888 และมากับ RAM ชนิด LPDDR5 และหน่วยความจำ UFS 3.1 ซึ่งนอกจากนี้ก็มีราคาของทั้ง Mi 11 และ Mi 11 Pro หลุดออกมาด้วย ดังนี้
- Mi 11 รุ่น RAM 8GB + ROM 128GB ราคาระหว่าง 3,999 – 4,499 หยวน หรือประมาณ 18,400 – 20,800 บาท
- Mi 11 Pro รุ่น RAM 8GB + ROM 128GB ราคาระหว่าง 5,299 – 5,499 หยวน หรือประมาณ 24,500 – 25,400 บาท
สำหรับวันเปิดตัวของ Mi 11 Series ในส่วนนี้ทาง Xiaomi ยังไม่ได้ออกมาประกาศเคาะวันอย่างเป็นทางการนะครับ แต่ Ice Universe แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ บอกว่าน่าจะมาให้ยลโฉมกันไวสุดในช่วงสิ้นปีที่จะถึงนี้
ที่มา: gizmochina
ถ้าตัดเรื่อง Snap 888, จอ 2K , ชาร์จไว-ชาร์จไร้สาย และก็ราคาที่ถูกลง
เรื่องกล้องเนี่ยไม่ค่อยโอเลย ลดกล้องเหลือแค่ 3 ตัว อีกทั้งตัว Pro กล้องหลักเหลือแค่ 48 MP เอง
ตอนนี้ใช้ K30Pro Zoom อยู่ สเป็คที่มีคิดว่าน่าจะใช้ในปัจจุบันได้อีกยาว ๆ
คงต้องรอ Snap 89x หรือ Mi 12 โน่นแหละค่อยว่ากัน
สเปคอื่นๆจัดว่าแรงจัด แต่ไปแอบกั๊กๆ ตรงกล้องนิดหนึ่ง
แต่ราคานี้ก็ได้อยู่
OV48C เป็น sensor ที่ทำให้ Mi 10 ultra ทำคะแนนdxomark รวม 133 คะแนน เป็นรอง Mate 40 Pro ที่เพิ่งออกมาแค่ 3 คะแนน ทำไมถึงคิดว่า sensor ไม่ดีกันล่ะ
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมตัว Pro กล้องถึงแย่กว่าตัวธรรมดา แถมไม่มีข้อมูลเรื่องกันสั่นอีก
กล้องตัวproนี้ดีกว่า ตัวรองนะครับถึงจะแค่ 48 ล้าน เพราะน่าจะใช้เซ็นเซอร์จาก mi10ultra ที่เคยได้ที่1 จาก dx0mark ตอนนี้เป็นรองแค่ mate40pro
แหล่งข่างเปิดเผยว่า แต่ยังไม่ได้มาจาก official ที ใจเย็น
OV48C เป็น sensor ที่ทำให้ Mi 10 ultra ทำคะแนนdxomark รวม 133 คะแนน เป็นรอง Mate 40 Pro ที่เพิ่งออกมาแค่ 3 คะแนน ทำไมถึงคิดว่า sensor ไม่ดีกันล่ะ
จริงครับ ต้องดูสเปคอย่างอื่นด้วย ซึ่ง OV48C ขนาดเซ็นเซอร์ใหญ่กว่า HMX อีก ถึงจำนวนพิกเซลจะน้อยกว่าแต่ขนาดพิกเซลใหญ่กว่า (0.8 vs 1.2 µm) ซึ่งจะรับแสงได้ดีกว่า HMX
เสียดายที่ OV48C ไม่รองรับ Sabre ใน GCam (เพิ่มรายละเอียดตอนซูมจาก Google Pixel) และไม่แน่ใจว่ารองรับ sum binning ด้วยไหมนะ (ซึ่งเซ็นเซอร์ของ Sony รองรับทั้ง Average และ Sum binning)
ตัว Pro กล้อง tele optical 2x น้อยไปนะ
ดีไซน์กล้องไม่ผ่านอย่างแรง บอกเป็น redmi นี่ยังเชื่อเลย
สมัยนี้ยังมีคนคิดว่ากล้องดีไม่ดีที่จำนวนพิกเซลอีกเหรอ แบบนี้ Mate 40 Pro กล้องหลัก 50 ล้านคงแพ้มือถือรุ่นกลางๆที่ใช้ 64 ล้านละสิ
รอบนี้พี่หมี่จะแถมอะไร Ps5 เลยมั้ยครับ
กล้อง Tele อาจจะเป็น Periscope รึเปล่า?