การแข่งขันของ ระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟน (Smartphone OS) ในตอนนี้ มีผู้ครองตลาดหลักๆอยู่แค่ 2 เจ้า นั้น นั่นก็คือ Android และ iOS โดยเหตุผลหลักก็น่าจะมาจากความนิยมและจำนวนแอปที่อยู่ในแต่ละ OS นั่นเอง
และตอนนี้ก็ตอนนี้มีข่าวลือว่าผู้ครองอันดับ 3 ที่อยู่ห่างหลายช่วงตัวอย่าง Microsoft กำลังวางแผนที่จะทำการรองรับแอพจากฝั่ง Android มาลงใน Windows 10 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถใช้งานได้ทั้งบน สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ท และ คอมพิวเตอร์ เพื่อหวังว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายให้กับอุปกรณ์ที่ใช้ Windows 10… แต่มันจะช่วยได้ขนาดไหนกันน้า?
นาย Paul Thurrott สาวก Microsoft ตัวยง ได้ทำการวิเคราะห์เรื่องที่ทาง Microsoft จะทำการสนับสนุนแอพ Android ใน Windows 10 ว่า
เมื่อทาง Microsoft ได้พูดถึงการทำ universal apps ที่สามารถใช้ได้ทั้ง Windows, Windows Phone, Xbox One และอื่นๆ นั้น ผม(Paul)เข้าใจว่าแอพเหล่านั้นจะสามารถที่จะใช้งานกับอุปกรณ์ของคู่แข่งอื่นๆได้ด้วย ในตอนนั้น ผมเดาว่าต้องเป็น Android แน่ๆ เพราะว่า Android เป็นระบบที่เปิด และทาง Microsoft ก็เริ่มทำการรองรับ Android บน Visual Studio แล้ว
แต่การที่ให้แอพ Androidมาใช้บน Windows ได้นั้นเป็นสิ่งที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง จริงๆแล้ว มันเหมือนกับเป็นการเปิดให้แอพ Android เป็น universal apps ซะมากกว่า และผมก็สงสัยกับตรรกะของกลยุทธ์นี้
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ก็ถือว่าเป็นการปิดจุดอ่อนของทางด้าน Windows Phone ได้อย่างอยู่หมัด ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานมีแอพให้เลือกใช้เยอะมากขึ้น แต่สำหรับสาวก Windows ก็คงแอนตี้เรื่องนี้แน่ๆ
นอกจากนี้ นาย Paul ยังได้พูดถึงในมุมมองของนักพัฒนาแอพอีกด้วยว่า
สำหรับเหล่านักพัฒนาแอพที่ลงทุนลงแรงในการเรียนรู้และศึกษาเกี่ยวกับแพลตฟอร์มของ Microsoft นั้น เหมือนกับโดนตบหน้าเข้าอย่างจัง เพราะว่าการรองรับแอพของ Android คล้ายกับจะบอกว่า พวกเขานั้นเสียเวลาและได้เวลาที่จะย้ายไปยังแพลตฟอร์มที่ประสบความสำเร็จได้แล้ว
เชื่อว่านักพัฒนาแอพที่ทุ่มเทให้กับแพลตฟอร์ม Windows อยู่ ก็คงจะเจ็บกระดองใจแน่ๆ และ Paul ยังได้เน้นอีกว่า การรองรับแอพ Android บน Windows 10 จะทำให้แพลตฟอร์มของ Microsoft “มีความสำคัญน้อยลง”
ในตอนนี้ ยังไม่แน่ชัดว่าทาง Microsoft จะทำการสนับสนุนการรองรับแอพจากทางฝั่งหุ่นเขียวจริงมั้ย แต่คิดว่าในงาน Build ที่จะมีขึ้นในเร็วๆนี้ คงจะพูดถึงเรื่องของ universal apps อย่างแน่นอน ก็ต้องรอฟังผลอีกทีว่าจะเป็นยังไงต่อไปนะครับ
เพื่อนๆคิดว่ายังไงกับการชักศึกเข้าบ้านของทาง Microsoft ในครั้งนี้บ้างครับ?
ที่มา: Thurrott via Gadgets NDTV
นึกถึง bb เลยทีเดียว ส่วนตัวผมก็คิดว่าถ้า windows ลง app android ได้ ตัว win เองนั้นแหละจะหายไป
นักพัฒนาจะหันไปลงที่ android กันหมดเพราะ ทำออกมาใช้กับ android ได้ = ใช้กับ win ได้เลย = app ของ win เองจะน้อยลง
เหมือนจะกระตุ้น win ได้แต่ถ้ามองจริงๆแล้วทาง google เองตางหากที่ได้ประโยชน์ไปเต็มๆ
สรุปแล้วทำ tablet และ pc ไปแหละดีแล้วครับนั้นแหละคือจุดเด่นที่สุดของคุณ อย่าได้มากระเสือกกระสนอะไรกับตลาดนี้เลยถ้ายังไม่มีการปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น เป็นเจ้าตลาดอยู่กี่ปีโดนตีที่เดียวร่วงมันหมายถึงอะไร?
ผมว่าเป็นประโยชน์กับไมโครซอฟท์นะ นักพัฒนาเขียนแอพตัวเดียวลงได้ถึงสองแพลตฟอร์ม ยิ่งถ้ากระบวนการส่งแอพขึ้นสโตร์ง่ายแล้ว ปริมาณแอพของไมโครซอฟท์เยอะขึ้นแน่นอน
ถ้าทำของขึ้นมาอันนึง ขายได้หลายเจ้าก็ดีกว่าเจ้าเดียว
ปัญหาของไมโครซอฟท์ตอนนี้คือแอพจำนวนน้อย ไม่มีแอพหลักที่คนต้องการ
มันทำให้ app เยอะขึ้นครับแต่ถามหน่อยครับมีซักกี่คนที่จะทำแอพมาเพื่อ microsoft โดยตรงส่วนมากมีแต่จะไปทำให้ android กับ ios ทั้งนั้นแหละครับ ทำให้ ok มีแอพเยอะขึ้นแต่ชื่อ win หรือ ms จะหายไปไงครับเพราะโดนกลืนไปกับ android
ชื่อจะไปหายได้ไงครับ เหมือนแอนดรอยด์ยุคแรกๆ แอพลงไอโอเอสก่อน แล้วค่อยพอร์ตลงแอนดรอยด์นะแหละ
ถ้าเป็นแอพของไมโครซอฟท์เองนี่ขึ้นอยู่กับไมโครซอฟท์ว่าจะจ้างบริษัทเขียนแอพเด็ดๆลงสโตร์รึเปล่า
อย่าง ingress ของแอนดรอยด์หรือ infinity blade ของไอโอเอส
ถ้าจะทำแบบนี้ แนะนำโยนหน้าตาแบบเดิมๆ ของ win ทิ้ง แล้วทำหน้าตาเหมือน แอนดรอยเลย เพราะสาเหตุสำคัญที่คนไม่ใข้คือ มันไม่คุ้น
Win ไม่มีอะไรจะเสียแล้วในตลาดนี้ จัดไปเลย
ปล. ถ้าทำให้ App ที่ซื้อบน Android ไป Run บน Win ได้โดยไม่ต้องซื้อซ้ำได้นี่ ผมอาจจะได้ลอง Win phone สักเครื่องล่ะ
ไม่ต้องไปพูดถึงงานที่ต้องใช้ PC เพราะ Microsoft ยังครองตลาดอยู่ในตอนนี้ ซึ่งผมว่าการรองรับ App ของ Android ในคร้งนี้ ทาง Microsoft เน้นไปที่กลุ่มคนใช้ SmartPhone กับ Tablet มากกว่าที่ Windows โดนทิ้งห่างไปหลายขุม ดังนั้นการรองรับ App จาก Androids เป็นทางลัด ให้คนมาสนใจเครื่องที่รัน Windows ได้ง่ายขึ้น ดังนั้นผมว่าตอนนี้ มันยังมองได้ยากว่าอนาคตของเรื่องนี้ ใครจะได้ประโยชน์มากกว่ากัน แต่ในช่วงแรกที่ทำออกมา Windows น่าจะได้ประโยชน์ก่อนเป็นอันดับแรก
แต่ถ้าจะมีอีกจุดที่ Windows ต้องปรับก้อคือ UI ปรับหน้าตาใหม่ ให้ผู้ใช้คุ้นเคยได้ง่ายกว่านี้ เหมือน Android ทำออกมาคล้ายๆ iOS ผมเองก้อใช้ Surface แล้วลง Windows 10 ซึ่งจะมีให้กดเปลี่ยน UI เป็น Tablet Mode ผมว่า ก้อยัง งงๆ ไม่คุ้น ไม่สะดวกอยู่
ผมว่าดีนะ มันเป็นการพยายามกำจัดจุดอ่อนของไมโครซอฟท์เรื่องecosystemได้ในระดับนึง ถ้านักพัฒนายอมทำบวกกับโปรโมทดีละก็ น่าจะไปได้สวย
รัน Android Apps บน Windows มีมานานแล้วนี่นะ
แค่ไม่ใช้ MS ที่ทำ
MS น่าจะมุ้งเป้าไปที่ touch screen device มากกว่า
โปรแกรมหรือเกมส์ที่ออกแบบมาให้ใช้นิ้วจิ้ม จะให้ใช้ mouse กด คงไม่ถนัดอะ
ลองนึกถึง Windows 10 บน Smart Phone, Tablet ที่มี ART ดูสิ
ลง Office 2013 ไว้ทำเอกสาร ลงเกมส์ได้ทั้ง Windows และ Android
ถ้าอุปกรณ์มันสเปคดี ๆ ใช้งานลื่น ๆ มันก็ตอบโจทย์ได้อยู่นะ
ผลไม้กับอากู๋มันคงยอมให้ก๊อปอีโคซีสเต็มที่สร้างมาแรมปีไปในหนี่งวิหรอกม้างงง ปัญหาระบบของละมุนพันธ์(MS)หนะ มันอยู่ที่เครื่องมือกับการซับพอร์ทที่ยื่นให้กับนักพัฒนารึเปล่า เห็นเค้าบ่นๆกันแต่ผมก็ไม่ได้รู้เรื่องมากหรอก เพราะผมคิดว่า ปัญหาจริงๆของมันก็คือ WP มันห่วย MS วินด๊องก็ห่วย(ไม่พัฒนามาสิบๆปีก็ยังทนใช้กันไปได้) ระบบมันก็เป็นระบบปิด ไม่เปิดเผยจริงใจเข้าสูตร รู้หน้าไม่รู้ใจ
ถ้า MS ต้องการใช้แอพแอนดรอยรันมัน Window 10 ละก็
สงสัย MS ต้องเอา Android ขึ้น Windows Store แน่ ๆ
Platform ก็เตรียมรองรับหมดแล้ว เหลือนักพัฒนาซินะ *0*
ถ้างี้สงสัยคงอารมย์เดียวกับ Amazon เลยอะดิ
Microsoft มองได้ไกลคือ จะสามารถกินตลาด ได้ถึง 2 ตลาด คือ
ฝั่งของ Windows เอง
และฝั่งของ Android เองอีกด้วย
ถ้าทำได้สำเร็จนี่จบนะ แต่คงยาก หรือบางทีอาจจะไม่ยากก็ได้
ในกรณีนี้ ถ้าซื้อบน Store ของ MS เองนั้น อาจจะสามารถทำงานบน คอมที่เป็น Windows 10 ก็เป็นไปได้ ทำให้ โอกาสของ MS สูงขึ้น
แต่ถ้าเป็นกลุ่มผู้ใช้ธรรมดา จะยังคงเลือก MS อยู่ เพราะมันคือ Windows ที่เรารู้จัก
ทำ MS โอกาสตายจากตลาด Mobile ค่อนข้างต่ำ อยู่ เพราะทุกอย่างมีพร้อมแล้ว ที่เหลือรอเปิด
มองว่าเป็นวิธีการที่ฉลาดในแง่สร้าง ecosystem ขึ้นมาได้ซักทีหลังจากพยายามมานาน แต่ก็เป็นวิธีการที่โง่มากเช่นกันที่สร้างจากการ "ขโมย" เจ้าอื่นที่สร้างมานานกว่าจะยืนอยู่ได้ แม้ว่าตัวเองจะบอกว่าจะต้องมารันกับ VS อีกทีก็ตาม แต่ผมก็ยังมองว่ามันคือการขโมยอยู่ดี
ปัญหาจริงๆผมว่าคือ M$ ไม่เปิด API มากพอสมควร หรือง่ายๆคือกั๊ก และUI ก็ต่างจากเจ้าอื่นในตลาดมากคนเลยไม่สนใจ รวมถึงใช้งานยากมาก เคยใช้ Nokia 820 ตอนนี้เลิกใช้ละ แอพห่วยและน้อย ขนาด IOS ที่ว่าปิดแล้วมาลองเล่น M$ ยังอึดอัดกว่าเลย ทำไรแทบไม่ได้ กลับไปทำตลาด Windows 32+64 กับ Server ก็ดีอยู่ละ อย่าตลาดนี้เลยเพราะไม่คุ้มหรอก(ทั้งๆที่ตนเองเป็นคนเริ่มในหลายๆเรื่องนะ แต่ก็แพ้ตลอด เช่นWindows Mobile หรือ Flat Design)
ทำไมถึงคิดว่าเป็นการขโมยล่ะครับ
ปกติเวลานักพัฒนาจะลงแอพบน iOS หรือ Android เนี่ย แอพถูกเขียนด้วยภาษาต่างกัน มันสิ้นเปลืองคน+งบครับ
นักพัฒนาเป็นคนเลือกเองนะครับว่าจะส่งขึ้นสโตร์ของไมโครซอฟท์รึเปล่า ไมโครซอฟท์แค่ทำให้ง่ายขึ้น
ไมโครซอฟท์เอาแอพมาลงเองไม่ได้ ต้องให้นักพัฒนาเป็นผู้ส่งไปครับ
ดังนั้นผมว่าไม่ใช่การขโมยครับ
อันนั้นผมก็เข้าใจนะว่ายิ่งใช้คนพัฒนาเยอะงบก็ยิ่งเพิ่ม แต่ลองมองมุมกลับกันดิครับ ทั้ง2 เจ้าประสบผลสำเร็จในการสร้าง Ecosystem ซึ่งกว่าจะสร้างได้ก็นานมาก แต่มีอีกเจ้าทำเหมือนการขโมยที่กระพริบตาครั้งเดียวได้ Ecosystem ของตัวเอง คือให้ Dev นำโค้ดจากAndroid/iOS มาคอมไพล์ในตัว VS เพื่อแปลงลงในสโตร์ของตัวเอง มันเหมือนกับ คนแรกทำงานกว่าจะเสร็จนานมาก แล้วอีกคนเอาไปดัดแปลงโดยใช้เครื่องมือดัดแปลง และอาจแก้นั่นนิดนี่หน่อย ก็ใช้ได้แล้วไม่ถึง 1% ของที่ทำด้วยตนเอง(MS) เลยมั้ง กรณีเดียวกันทั้ง 2 เจ้าฝ่าฝันกว่าจะเติบโตมาเป็นคู่แข่งกันเอง ซึ่งทั้ง2 เจ้าก็พยายามหาวิธีที่ทำให้ Dev เขียนโค้ดง่ายที่สุด ประหยัดเวลาและการประมวลผลดีที่สุด ที่ทั้ง 2 เจ้ามองเห็นปัญหา และแก้ไขพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนสมบูรณ์ (Android Studio/ Swift) แต่พอเจ้าที่3มา บอกเอา 2 อันมาแล้วรันแล้วจบเลย อาจแก้นิดหน่อย แต่ไม่ได้สร้างเองกับมือซึ่งถ้าไม่ใช่การขโมยความสำเร็จเพื่อให้ตัวเองที่เป็นผู้แพ้เพราะตัวเอง ทำให้สำเร็จโดยยืมมือคนอื่นมาสร้างให้ตัวเองทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรเลย(ไม่นับเรื่องการแปลงให้มันง่ายขึ้นนะ) ควรเรียกว่าอะไรดีครับ?
ส่วนถ้าทำแบบมี่แปลงแล้วให้มันเป็น Native เลยก็ดี แต่ถ้าไม่ รันนู่นเกิด Error รันนี่ Error ผมว่าเขียนใหม่แล้วเป็น Native ง่ายกว่านะ เพราะแค่เปิด API ทั้งหมดเหมือน Google/Apple ทำก็เท่านั้น แต่ที่มันไม่พัฒนาหรือเติบโตช้าก็เพราะ M$ เองนั่นละที่ทำตัวเอง
และผมเห็นด้วยและก็ชอบด้วยในเรื่องเขียนแอพครั้งเดียวใช้ได้ทุก platform ที่เกี่ยวข้องกับ M$ นะ
ผมกลับคิดถึงกรณี Java มากกว่า
ตอนนั้น M$ ทำทีว่าจะสนับสนุน Java
แล้วก็สร้าง Java ของตัวเอง ที่ไม่ตรงกับ Sun
ทำให้ มาตรฐาน Java วุ่นวาย ปวดหัว+พัฒนาช้าลง กันไปพักนึง
จากนั้น ซักพัก ก็ประกาศเลิกสนับสนุน Java
แล้วออก .NET มาตี Java
เป็นแทกติกเดียวกับ ตอนตี Netscape
ด้วยการทำ IE ให้ทำงาน HTML ได้ แต่ไม่เหมือน Netscape
ทำให้ ทุกฝ่ายปวดหัว แล้วค่อยมาตะลอมยึดเอาทีหลัง
// Can't beat them, join them … and betray them, later … (อันนี้ผมเติมเอง)
+1 ครับ
ช่ายยยยยย เลยยยยย +1
ปูเสื่อรอเลย