Microsoft ออกมาเคลมว่า Windows 11 มีความเร็วเหนือกว่า Windows 10 ถึง 2.3 เท่า โดยอ้างอิงจากผลการทดสอบ Geekbench 6 แบบ Multi-Core ซึ่งแม้จะฟังดูน่าสนใจ แต่เมื่อดูรายละเอียดแล้วกลับมีจุดให้ตั้งข้อสงสัยอยู่ไม่น้อย
เหตุผลหลักคือเครื่องที่ Microsoft นำมาใช้ทดสอบ Windows 11 นั้นใช้ชิปรุ่นใหม่อย่าง Intel Gen 12 และ 13 ส่วนเครื่องที่เป็นตัวแทน Windows 10 นั้นใช้ชิป Gen 6 ถึง 10 ทำให้ต่างกันหลายปีและมีประสิทธิภาพห่างกันมาก ทำให้ผลทดสอบดูแรงกว่าโดยไม่ได้สะท้อนความสามารถของระบบปฏิบัติการล้วน ๆ

นอกจากนี้ Microsoft ยังชูเรื่องความปลอดภัยของ Windows 11 ที่เหนือกว่า ด้วยฟีเจอร์อย่าง TPM 2.0 และ Smart App Control พร้อมอ้างว่าสามารถลดเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยได้ถึง 62% แต่การเปรียบเทียบก็ยังคงอิงจากเครื่องใหม่กับเครื่องเก่าเช่นกัน ไม่ใช่การทดสอบจากฮาร์ดแวร์เดียวกัน

ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมที่ Microsoft หยิบมาเสริม เช่น อายุแบตเตอรี่นานขึ้นสูงสุด 2.7 ชั่วโมง การท่องเว็บเร็วขึ้น 3.2 เท่า และการใช้งาน Office ที่เร็วขึ้นถึง 2 เท่า แต่ทั้งหมดนี้ล้วนวัดจากเครื่องรุ่นใหม่ทั้งสิ้น ขณะที่ Windows 10 ถูกทดสอบบนฮาร์ดแวร์เก่า

Microsoft ยังยกฟีเจอร์ใหม่ของ Windows 11 อย่างระบบอัปเดตที่เร็วขึ้น การประหยัดพลังงานที่ดีขึ้น และฟีเจอร์อย่าง Snap Layouts, Desktop เสมือน และฟีเจอร์ AI ใน Copilot+ PC มาสนับสนุนความคุ้มค่าในการอัปเกรด
อย่างไรก็ดี หลายคนตั้งคำถามว่า ถ้านำเครื่องสเปคเดียวกันมาติดตั้ง Windows 10 และ Windows 11 แล้วทดสอบจริง ๆ ผลลัพธ์อาจไม่ได้ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ใช้จำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะกลุ่มเกมเมอร์ จึงยังเลือกใช้ Windows 10 ต่อไปบนฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่
ที่มา : windowslatest Microsoft
Comment