Minimal Phone มือถือรุ่นแรกภายใต้แบรนด์ Minimal ทยอยส่งถึงมือผู้ร่วมระดมทุนแล้ว หลังเจอปัญหาติดขัดจนต้องเลื่อนกำหนดส่งมอบไปหลายหน (สิงหาคม → กันยายน → ธันวาคม → …) จนบางคนอาจเสียว ๆ ว่าจะโดนชักดาบหรือเปล่า ขณะเดียวกันทางค่ายก็ได้โพสต์วิดีโอแกะกล่อง พร้อมพรีวิวการใช้งานคร่าว ๆ ให้ชมบนยูทูบ พบว่ามี Googe Play ติดตั้งมาให้ตามที่เคยสัญญาไว้ และสเปกมีการปรับใหม่ โดยรวมดีขึ้นกว่าเดิม

Minimal Phone เป็นมือถือที่ออกแบบมาสำหรับคนอยากละทางโลก ลดการเสพติดโซเชียล ในแง่ซอฟต์แวร์จึงเน้นไปที่การใช้งานแอปพื้นฐาน เช่น โทรศัพท์ ข้อความ จดโน้ต ปฏิทิน อีเมล โดยมีจุดขายคือหน้าจอ E Ink และแป้นพิมพ์แบบ QWERTY เหมือน BlackBerry กลับชาติมาเกิดใหม่

สเปก Minimal Phone

  • หน้าจอ E Ink ขนาด 4.3 นิ้ว
    • สัดส่วน 4:3
    • ความหนาแน่น 230 ppi
    • รองรับทัชสกรีน
  • ชิปเซต Helio G99
  • หน่วยความจำ 6 / 8GB
  • สตอเรจ 128 / 256GB
    • รองรับ microSD
  • กล้องหลัง 16MP
  • กล้องหน้า 5MP
  • เครือข่าย 4G
    • รองรับ 2 ซิม
  • การเชื่อมต่อ
    • Wi-Fi 5
    • Bluetooth 5
    • NFC
  • พอร์ต
    • USB-C
    • ช่องหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ 3000mAh
  • เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (ด้านข้าง)
  • ระบบปฏิบัติการ Android 14

*สเปกมีการปรับเปลี่ยนจากที่โปรโมตตอนแรกหลายอย่าง

คู่แข่งในตลาดมือถือจอ E Ink ปัจจุบันมีไม่เยอะ แม้ Hisense จะอยู่มานาน ผลิตออกมาหลายรุ่น แต่วางจำหน่ายเฉพาะในจีน และช่วงหลังก็เงียบไปมาก หรือกรณีของ BOOX ที่มีอุปกรณ์ในไซซ์เดียวกัน ก็ไม่ได้เน้นมากนัก ส่วน TCL เลือกจะโฟกัสกับจอถนอมสายตา NXTPAPER ที่มีพื้นฐานบน LCD แทน

ถึงกระนั้น การที่ Minimal Phone จะประสบความสำเร็จได้ก็คงไม่ง่ายนัก สาเหตุหลักคือตลาดนี้ยังแคบอยู่มาก ด้วยลักษณะของ E Ink ทำให้การใช้งานค่อนข้างเฉพาะทาง โดยเฉพาะอัตรารีเฟรชที่ต่ำนั้นไม่เหมาะกับการดูวิดีโอ เล่นโซเชียล เล่นเกม หรือแสดงผลภาพเคลื่อนไหวใด ๆ

และจากรายชื่อข้างต้น อาจเห็นได้ว่าคู่แข่งค่ายอื่นต่างมีรายรับหลายทาง ขายของหลายอย่าง ในขณะที่ Minimal ลงสนามมาด้วยมือถือแบบโดด ๆ ซึ่งก็น่าจับตาว่าจะไปต่อได้ไกลแค่ไหน เมื่อเริ่มนับหนึ่งไปแล้วในปีนี้

สำหรับคนที่สนใจ Minimal Phone แต่ก่อนหน้านี้สั่งซื้อไม่ทัน (หรือตอนนั้นไม่มั่นใจเลยไม่ได้กด) ตอนนี้ Minimal เปิดให้พรีออร์เดอร์อีกรอบ เริ่มจัดส่งสินค้าในเดือนมีนาคม โดยยังเป็นราคาพิเศษอยู่ เริ่มต้น 399 ดอลลาร์ ลดจากราคาขายปลีกทางการ 100 ดอลลาร์ (ถ้าจะซื้อต้องระวังเรื่องภาษีกับขั้นตอนการนำเข้านะ)

ที่มา : Minimal Company