Minimal เปิดเผยภาพและข้อมูลเบื้องต้นของแนวคิดมือถือ Minimal Phone ที่มาพร้อมหน้าจอ E Ink และแป้นพิมพ์แบบ QWERTY ในสไตล์ BlackBerry ที่หลายคนคงคุ้นเคยกันดี – จุดประสงค์ของ Minimal คือ ความต้องการผลักดันให้ผู้คนลดการเสพติดสมาร์ทโฟน เพื่อให้ได้ ‘ใช้ชีวิต’ อยู่กับสิ่งรอบตัวมากขึ้น

Minimal ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Minimal Phone แบบคร่าว ๆ ว่า แป้นพิมพ์ของมือถือรุ่นนี้จะเป็นแป้นพิมพ์ระบบสัมผัส ไม่ใช่ปุ่มกดจริงแบบ physical เหมือน BlackBerry ส่วนสาเหตุที่เลือกใช้หน้าจอ E Ink สวนกระแส แทนที่จะเป็น LCD หรือ OLED เป็นเพราะ E Ink ประหยัดพลังงานมากกว่า ซึ่งเมื่อรวมกับแบตเตอรี่ความจุ 4000mAh แล้ว Minimal Phone จะสามารถใช้งานได้นานถึง 4 วันต่อการชาร์จ 1 ครั้ง นอกจากนี้ ยังรองรับการชาร์จเร็ว ชาร์จจาก 0 – 80% ได้ในเวลาเพียง 30 นาที
ภายใน Minimal Phone ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ MnmlOS บนพื้นฐานของ Android ซึ่ง Andre Youkhana ผู้ก่อตั้งบริษัท Minimal บอกว่าเริ่มมีการเจรจากับ Google เพื่อเตรียมนำ Play Store มาลง Minimal Phone แล้ว

Youkhana ประเมินว่า Minimal Phone จะมีราคาประมาณ 400 ดอลลาร์ หรือราว 14,200 บาท แต่อย่างไรก็ดี ขณะนี้ Minimal Phone ยังมีสถานะเป็นเพียงแค่คอนเซปต์มือถือเท่านั้น และอุปกรณ์ก็พึ่งผ่านขั้นตอนการออกแบบมาได้ไม่นานนัก จึงยังไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าสุดท้ายแล้ว Minimal Phone จะได้ออกสู่ตลาดจริง ๆ หรือไม่
มือถือ Android ที่ใช้หน้าจอ E Ink ไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยมี Hisense ที่จับจองพื้นที่ในตลาดนี้มานาน (แต่หลัก ๆ เน้นทำตลาดในจีน คนส่วนใหญ่จึงอาจไม่คุ้นเคย จนตอนนี้จะเลิกทำแล้ว) ก่อนที่ Boox จะส่ง Book Palma เข้ามาร่วมแจมเมื่อปีที่แล้ว แต่ตลาดมือถือหน้าจอ E Ink เป็นตลาดที่มีความเฉพาะกลุ่มสูง เพราะจุดอ่อนคือหน้าจอตอบสนองได้ช้า อัตรารีเฟรชต่ำ ไม่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป ดังนั้น การตั้งราคา 400 ดอลลาร์ ของ Youkhana อาจเป็นอุปสรรคสำคัญในการทำตลาดในอนาคตก็เป็นได้
ที่มา : Minimal ผ่าน Android Police
Comment