Feature อันเลื่องชื่อของ Android Mobile Hotspot ตอนนี้กำลังจะเป็น Feature ที่ไม่ฟรีบน Android แล้ว (เฉพาะใน USA นะ)
เพราะผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือใน USA ต้องการที่จะ charge ค่าธรรมเนียมการทำ Mobile Hotspot ของ Android ทำให้ตอนนี้ ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือใน USA พยายามที่จะ block Application ทุกตัวที่เกี่ยวกับ Mobile Hotspot เพื่อไม่ให้แสดงบน Market ของเครือข่ายตนเอง
โดยในตอนนี้ Verizon ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือรายหนึ่งใน USA ได้ทำการ Block Application ที่เกี่ยวกับ Mobile Hotspot บน Market แล้ว และในตอนนี้มีแนวโน้มว่าทั้งค่ายของ T-Mobile และ AT&T ก็กำลังจะเริ่มดำเนินการที่จะ Block แล้วเช่นกัน
ซึ่งในรายของ AT&T นั้น ปรากฎว่ามีลูกค้ารายนึงไม่ได้สมัคร Package สำหรับทำ Mobile Hotspot แต่ลูกค้ารายนั้นได้ทำการ share internet บนมือถือผ่าน Mobile Hotspot ปรากฎว่าในตอนสิ้นเดือน Bill แจ้งชำระค่าบริการได้ถูก charge ค่าบริการ Mobile Hotspot ด้วย ซึ่งก็เป็นเรื่องเป็นราวกันจน AT&T ได้ออกมาประกาศเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อเตือนว่าการทำ Mobile Hotspot ไม่ฟรีอีกแล้ว FINAL WARNING: AT&T Police Are Cracking Down On Unauthorized Tethering
ที่มา DroidLife ผ่าน PhanDroid
ปล. วานผู้รู้มาอธิบายเกี่ยวกับ Market ใน Android หน่อยครับ เรื่องเกี่ยวกับการผูก Market กับผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ
#### เพิ่มเติมกรณีในไทย เพื่อเห็นภาพชัดเจนขึ้น ####
ขอโทษครับผมไม่ clear เอง จากข้อความเกริ่นนำของผม
Feature อันเลื่องชื่อของ Android Mobile Hotspot ตอนนี้กำลังจะเป็น Feature ที่ไม่ฟรีบน Android แล้ว (เฉพาะใน USA นะ)
ทำความเข้าใจกันใหม่ Mobile Hotspot เป็น Feature ที่มีอยู่บน Android ตั้งแต่ Froyo 2.2 แน่นอนมันเป็น Feature ที่ฟรีอยู่แล้ว แต่มันจะไม่ฟรีถ้าหากเราเอา Package Internet ที่เราสมัครบนมือถือไปแชร์ให้อุปกรณ์อื่นใช้แทน อาจจะงง ลองมาดูกรณีใกล้ตัวเราครับ ไม่ใกล้ไม่ไกลในไทยนี่เอง
พูดถึง BlackBerry ทุกคนต้องรู้จัก ทุกคนคงจะรู้ดีใครที่ซื้อ BlackBerry มาก็ต้องซื้อ Package Internet ใช่ไหมครับ เพราะมันเป็น Smart Phone ที่ต้องต่อ Internet ตลอดเวลา ซึ่ง Package Internet ของ BlackBerry เป็นที่รู้กันว่าถูกกว่าใคร เพียงแค่จ่าย 650 บาทต่อเดือนก็สามารถใช้ Internet ได้ไม่จำกัด
แต่ในขณะที่ Package Internet บน Smart Phone ตัวอื่นๆนั้นแพงกว่า แถมเมือเทียบกับ Internet แบบ Modem Edge/3G (Air Card) แบบไม่จำกัดจะพบว่ามันถูกกว่ากันมาก
ทำให้มีคนยอมซื้อ BlackBerry มาใช้แทน Air Card แล้วเอา Package Internet นั้นเอาไป share ให้กับอุปกรณ์อื่นๆ จนครั้งนึง DTAC ออกมาประกาศ จะเก็บค่าบริการเพิ่มหากใช้ BlackBerry เป็นโมเด็ม เหตุผลก็เพราะว่าตอนสมัครเราสมัครใช้บริการ Internet เราสมัครเพื่อใช้บน BlackBerry ไม่ได้ให้เอาไปใช้กับอุปกรณ์อื่น
ในกรณีของ Android ก็เช่นกัน เราสมัคร Package Internet เพื่อจะใช้กับ Android ไม่ได้สมัครเพื่อเอาไปใช้กับอุปกรณ์อื่น ซึ่งทำให้ผู้ให้บริการใน USA ออกมาประกาศไม่ยอมให้ Android share Internet ผ่าน Mobile Hotspot เพราะถ้าทำเช่นนี้มันก็ไม่ต่างกันกับกรณีที่เราใช้ BlackBerry เป็น Modem เพื่อ share Internet ไปให้อุปกรณ์อื่น
ปล. ข่าวเกี่ยวกับ DTAC เป็นข่าวที่เก่ามากมาย ตอนนี้ DTAC อนุญาตให้เอา Package BlackBerry มาใช้เป็น Modem ได้นะครับหลังจากที่โดนผู้ใช้โวย
charge ครับ ไม่ใช่ chart
ว๊าก ผิดพลาดใหญ่หลวง
ให้อธิบายก็ประมาณว่าทำไมประเทศไทยถึงซื้อแอปเสียตังไม่ได้ ละทำไมต้อง root เพื่อหลอกเป็นของ USA แล้วค่อยซื้อ ประมาณนั้นแหละครับ
ยังงงอ่าค่ะ Mobile Hotspot นี้มันเหมือน moblie ap ของ ซัมซุงมั้ยคะ
ไม่ใช่ครับแต่เป็นตัวที่ทำให้เราแชร์เน็ตที่ได้จาก 3g 4g หรือ edge ไปให้เครื่องอื่นๆหรือโน็ตบุคผ่านไวเรส ที่เค้าบล็อกเพราะเค้าคิดว่าถ้าขายแพคเก็ตอันลิมิทยังไงถ้าเล่นผ่านมือถือเท่านั้นก็อาจจะใช้งานไม่เยอะมีช่องสัญญาณเหลือให้ชาวบ้านใช้ได้ แต่หากแชร์ออกมาให้เครื่องโน็ตบุคได้รับรองโหลดกระหน่ำชาวบ้านไม่ต้องใช้กันพอดี เพราะมันเป็นระบบแชร์ช่องสัญญาณกันครับ พูดง่ายๆก็นึกถึงเน็ตหอแชร์กันแต่มีคนโหลดบิตนั้นแหละครับ
อ้าว เดี๋ยวก่อนนะครับ Mobile AP ไม่ใช่ฟังก์ชั่นของ Android อยู่แล้วหรอ แล้ว mobile ap มันก็ไม่ใช่ตัวแชร์เน็ตผ่านไวแลสหรอครับ ? เห็นมันก็มีอยู่ในเครื่องอยู่แล้วนี่หน่า ??? แล้ว mobile hotspot ไม่ใช่ตัวเดียวกันหรอครับ ?
ตัวเดียวกันครับ ซัมซุงแค่เปลี่ยนชื่อ
update คำอธิบายให้แล้วนะครับ ยังคงงงกันอีกหรือเปล่า
เข้าใจแล้วจร้า
ผมอ่านผิดเป็น mobile app โทษทีครับดึกแล้วตาไม่ค่อยดี
มันก็ตัวเดียวกันนั่นแหละคับ
ตอนแรกก่อนคอมเม้นเค้าเขียน mobile app นี่หว่าหรือเราตาลายเอง อุอุอุ
ไม่แฟร์เลยนิ
ถูกต้องครับ เครื่องก็เราซื้อมา ค่าบริการเราก็จ่ายมา มันยังจะมีหน่ามา บล๊อก อีก ok ไม่มีก็ไม่ใช้ ห่วยจริงๆ
ถ้ารู้ขนาดว่าเครื่องไหน share hotspot ได้ ก็แค่ block ความเร็วที่เครื่องที่แชร์เพื่อแบ่งให้คนอื่นบ้างก็น่าจะพอแล้วนี่นา เก็บตังเพิ่มนี่ ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่แฮะ
ไม่ใช่ว่าเดี๋ยว google ตัด function นี้ออกตอนอัพเดตคราวหน้านะครับ
ผู้ให้บริการจะรู้ได้ยังไงครับว่าเราเปิดใชเครื่องเดียวหรือเปิดเป็น AP
น่าจะรู้จากปริมาณ Traffic ที่มากเกินกว่าจะใช้บนมือถือครับ เพราะเชื่อได้ต่อให้เราใช้มือถือแบบหนักๆ จัด youtube ท่อง web เป็นกิจวัตรประจำวันยังไงผมว่ามันก็ยังไม่เกิน 2G – 3G ต่อเดือนครับ (ในกรณี 3G)
ถ้ามากกว่านั้นก็อาจจะโดนสงสัยได้เลยว่าเอาไปใช้บนอุปกรณ์อื่น เพราะการใช้การใช้ Internet บน PC ใช้ Traffic ที่เยอะกว่า
แล้วคนที่ใช้พวกโปรแกรม Market access และ Market enabler แล้วเปลี่ยนเป็น T-mobile US ประมาณนี้
มันจะบล๊อกไม่ให้ install application hotspot พวกนี้ด้วยรึเปล่า?
ส่วนตัวใช้ Tab เป็น Hotspot ให้เครื่องอื่นยามจำเป็น มันคิด Data usage ของทั้ง Tab และ Phone เครื่องอื่นรวมกัน เสีย Data สองทางครับ เช๊คแล้ว
ผมว่ามันก็ยุติธรรมดี เพราะเราใช้เล่นสองเครื่อง เมื่อไหร่ที่ใช้ Tab เป็น Hotspot ผมจะปิดพวก update ต่างๆใน Tab เพื่อไม่ให้มีการรับส่งข้อมูลครับ
ทางเครือข่าย ไม่ได้มองจาก Data Traffic นะคับ แต่มองจาก Request Package ของระบบแต่ละเครื่องคับ ฉนั้นเค้าจะรู้เลยว่าเราใช้แชร์กันกี่เครื่องเลยคับเก็บตังค์ถูกแน่นอน(เพราะถ้าเก็บตังไม่ถูกหรือทางเครือข่ายไม่มีหลักฐานการใช้โดนฟ้องเละแน่) เมื่อก่อนทรูก็เคยทำกับคนที่เอาเน็ตบ้านไปต่อทำร้านเน็ต
รู้สึกว่าสิงคโปร์ ญี่ปุ่น ก็ไม่ให้ใช้ฟังชั่นเหล่านี้เหมือนกันครับ
เพราะมันคงใช้ทรัพยากรในการรับส่งข้อมูลมากเกินไป
ยังไงก็ไม่มีปัญหากับที่ไทยแน่นอน เพราะ ไทยคิดเป็น Mb กับ ชม. อยากแชร์ ก็ แชร์ อยาก bit ก็ bit ไปยังไงก็คุ้มเค้า คนใช้ก็เจ็บกันไป หึหึ
คิดแบบนี้ โอเค ใช้มากก็จ่ายมาก ใช้น้อยก็จ่ายน้อย
จะไปจำกัดอุปกรณ์เค้าทำไม
เหมือน hi speed internet ยุคแรก ๆ ที่บอกว่าให้ต่อได้เครื่องเดียวอ่ะ ห้ามแชร์
คิดมาด้าย…..
เหมือนเป็นการจำกัดมากเกินไป ตัวผมเองใช้่hostspotในเครื่องเนตบุ๊ตในการทำงานการเล่นเนต จึงเลือกซื้อมือถือที่ใช้share hotspotได้ เป็นการเอาเปรียบลูกค้าไปไหม๊ เราใช้น้อยไม่เห็นมีลดราคา พอใช้มากกลับจะคิดตังเพิ่มสะงั้น เฮ้อผู้ใช้เป็นเหยื่อผู้ให้บริการอีกเช่นเคย
ที่อเมริกา ถ้าจะแชร์เน็ตใช้กับคอม หรือจะเป็น mobile hotspot จะต้องเสียค่าบริการให้เครือข่ายมือถือเพิ่ม แล้วคงมีคนทำ app อื่นให้แชร์เน็ตได้ เพื่อจะใช้ได้ไม่ต้องไปเสียเงิน เค้าจึง block
อยากใช้ก็ต้องเสียเงินแค่นั้นแล
ผมว่าเรื่อง hotspot นี้ควรจะหาวิธีจำกัดปริมาณข้อมูลที่เบอร์ไปเลยมากกว่า แทนที่จะมาคิดชาร์จเพิ่มกันแบบนี้ สิทธิ์เน็ตเราซื้อมาแล้ว เราก็ควรที่จะเอาไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นต่อได้
ก็อย่าขนาดนั้นเลยครับ ลองคิดดูคนซื้อแบบอัลลิมิทไปแล้วต่อให้คอมโหลดบิต แบบนี้ช่องสัญญาณมันเต็ม มองภาพง่ายเทียบกะหอพักไง แต่นี่ช่องสัญญาณอยู่ในอากาศผลกระทบมันเลยมากกว่าหอพัก
air card ก็ต่อกับคอมเหมือนกันนะครับ
แต่เค้าก็ไม่ได้ block aircard ด้วยนี่
อันนี้น่าคิด หรือว่าเค้าก็บล็อคไว้อยู่แล้วถ้าไม่ได้ใช้มือถือเข้า อันไม่มะรู้ อิอิ
มันน่าจะคิดเพิ่มเฉพาะ พวกที่ใช้netแบบไม่จำกัด
แต่พวกที่ใช้แบบคิดตาม data ไม่น่าจะโดนเพราะยังไงก็จ่ายตามจริงอยู่แล้ว
เพื่ออะไรครับลองคิดดูนะครับว่า แชร์ไป แล้วเน็ตมันช้าขึ้นไหม มันก็ช้าเพราะว่า edge มัน 52kbps เอง ไม่่ใช่ว่าใช้ ap ไปแล้ว มันจะเร็วเท่ากันทุกเครื่อง สะหน่อย เฮ่ออ บ้าจริงๆ
ข่าวบอกว่าเมกานะครับไม่ใช่ไทย
นั่นมันเมืองไทย อเมริกามัน 3G-4G แล้ว เร็วพอๆกับเน็ต Hi-Speed หรือเน็ตบ้านเลยหล่ะคุณ
แย่จัง ใช้android โหลดบิดด้วยซะด้วยสิเรา
แต่โชคดีไม่ได้อยู่อเมริกา 555
ไทยคงไม่เป็นอย่างงั้นใช่มั้ยครับ
อ่านแล้วปวดตับ
เอ…ตัวผมเองก็ใช้งานประมาณนั้นนะ เปิด EDGE แล้วใช้ app ชื่อ Barnacle Wifi Tether ( root ก่อนนะ)
แชร์เน็ตกับโน๊ตบุ๊คส่วนตัวเอา บางครั้งก็ใช้สาย USB ต่อเล่นเน็ต ถ้าจับสัญญาณไวไฟได้แถวนั้น แล้วถ้า
ใช้ USB ต่อเล่นเน็ตโดยใช้สัญญาณจาก EDGE ล่ะ จะเข้าข่ายในกรณีนี้มั๊ยครับ อ้อ ผมใช้ Galaxy 551 ครับ
อย่างงั้น Android บ้านเราก็ไม่น่าชาร์ตหรอกครับ จริงๆนะ เชื่อดิ
คือสงสัยว่าเปิดเว็บจาก browser ในมือถือ (แบบ full ไม่ใช่แบบ mobile version) กับเปิดจาก laptop มันหน้าเว็บเดียวกัน จะกิน bandwidth ต่างกันได้ยังไง -_-a
มันอาจจะไม่เท่า อย่างเครื่องคอม เปิดเวปอาจจะเท่าแต่ อาจะมีเปิดเอ็ม โหลดบิท เปิดสะไก้ทิ้งไว้อีก หลายอย่าง คอมมันเปิดได้เยอะกว่าในเวลาพร้อมกัน
แต่ไงก็อย่าไปแคร์เลย บ้านเราคงไม่ทำเมื้่อมี3g(ห่ะ เมื่อไหร่)
Google อย่าถอด feature นี้เด็ดขาดเลยนะ เวลาเน้ตที่บ้านล่มก็อาศัยน้องดรอยด์นี่แหละ ทำให้ส่งการบ้านส่งงานได้ TAT
ต่อให้ใช้แต่บนมือถือ ตอนนี้ผมก็โหลดบิทกระจายอยู่ดี บนมือถือก็มี app ที่ใช้แบนด์วิช มหาศาลอยู่เหมือนกันแหละครับ