หลังที่ทาง กสทช. ให้ทางผู้ให้บริการเครือข่ายยื่นซองประมูล 5G กันมาตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา ล่าสุดทาง กสทช. ก็ได้ออกมาเปิดเผยรายละเอียดว่าแต่ละคลื่นมีผู้ใดมีสนใจบ้าง ซึ่งเครือข่าย AIS-true ยื่นประมูลคลื่นเยอะสุดถึง 3 คลื่น, CAT ยื่น 2 คลื่น ส่วน TOT และ dtac สนใจแค่คลื่นเดียว โดยคลื่น 1800 MHz ไม่มีเครือข่ายใดสนใจเลย
700 MHz | 1800 MHz | 2600 MHz | 26 GHz | |
เครือข่ายที่สนใจ | AIS, true และ CAT | – | AIS, true, CAT | AIS, true, dtac และ TOT |
คลื่นความถี่ | 733-748 MHz/ 788-803 MHz | 1750-1785 MHz/ 1845-1880 MHz | 2500-2690 MHz | 24.3-27 GHz |
จำนวนชุดคลื่น | 3 ชุด ชุดละ 2×5 MHz | 4 ชุด ชุดละ 2×5 MHz | 19 ชุด ชุดละ 10 MHz | 27 ชุด ชุดละ 100 MHz |
เพดานการประมูล | 3 ชุด (2x15MHz) | 4 ชุด (2x20MHz) | 10 ชุด (100MHz) | 12 ชุด (1200MHz) |
ราคาขั้นต่ำต่อชุด | 8,792 ลบ. | 12,486 ลบ. | 1,862 ลบ. | 423 ลบ. |
ขั้นราคา | 440 ลบ. | 25 ลบ. | 93 ลบ. | 22 ลบ. |
ในคำแถลงการณ์ กสทช. ได้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นประมูลคลื่น 5G แล้วพบว่าทั้ง 5 รายผ่านคุณสมบัติทุกรายได้แก่
- บริษัท ทรู มูฟเอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (true)
- บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด (dtac)
- บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AIS)
- บริษัท ทีโอที จำกัด (TOT)
- บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (CAT)
จากตารางจะเห็นได้ว่าคลื่น 700 MHz จะเป็นคลื่นที่ต้องแย่งชิงกันดุเดือดมากที่สุด เพราะมีใบอนุญาตแค่ 3 ชุด และมีคนที่สนใจถึง 3 ราย น่าจะกดราคากันสนุกแน่นอน ส่วนคลื่น 26 GHz เป็นคลื่นที่คนสนใจเยอะสุด คาดว่าก็เพราะมีราคาถูกสุดและมีใบอนุญาตเยอะสุดนั่นเอง ไม่ต้องแย่งบิตกันมาก สำหรับคลื่น 2600 MHz ที่มีใบอนุญาต 19 ชุดแข่งกัน 3 เจ้าอันนี้คงน่าจะหาทางหารกันได้ลงตัว ไม่แข่งขันกันเท่าไหร่ และสุดท้ายคลื่น 1800 MHz ที่ไม่มีใครสนใจเลยก็เพราะคาดว่ามีราคาสูงเกินไปนั่นเอง
แต่อย่างไรก็ตามคลื่นที่น่าสนใจกลับเป็นคลื่นที่ไม่เข้าร่วมประมูลด้วยคือคลื่น 3500 MHz เพราะเป็นคลื่นที่ใช้ต้นทุนในการพัฒนาต่ำกว่า มีผู้ใช้ทั่วโลก ทั้งในด้านอุปกรณ์โครงข่าย (Network) และอุปกรณ์ผู้ใช้ ซึ่งตอนนี้ก็ใกล้จะหมดสัมปทานแล้ว ถ้าเกิดนำคลื่นนี้มาประมูลเมื่อไร รับรองว่าดุเดือดกว่านี้แน่นอนครับ
jas ไม่มาหรอครั้งนี้
อย่าให้มาเลยครับ เดี๋ยวประเทศต้องชะงักอีก 555
คิดว่าไม่มาเพราะหมดหน้าที่แล้วครับ หน้าที่ดึงราคาที่เป็นมาตรฐานขึ้นให้แพงติดอันดับโลก
มาแต่เจ้าใหญ่แหละ 🙂 🙂