เรียกได้ว่าอ่วมเลยในปีนี้สำหรับผู้ให้บริการสตรีมมิงชื่อดัง Netflix ที่เพิ่งจะประกาศว่าจะเก็บเงินเพิ่มสำหรับสมาชิกที่อยู่คนละบ้าน ล่าสุดในการแถลงผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของ Netflix เปิดเผยว่าในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาสมาชิกในสหรัฐ, แคนาดา และจากทั่วโลกลดลงไปเป็นล้านคนแล้ว  และยังพูดถึงเรื่องแพ็คเกจราคาถูกแต่มีโฆษณาที่จะเปิดตัวช่วงต้นปีหน้า อาจจะมีหนังและซีรีส์ไม่ครบเหมือนในแพ็คเกจปกติ

Netflix เปิดเผยว่าในช่วงไตรมาสที่ 2 นี้มีสมาชิกทั่วโลกยกเลิกบริการไปแล้วกว่า 1 ล้านคน รวมถึงในสหรัฐและแคนาดาก็ลดลงไปอีก 1.28 ล้านคน มากขึ้นเป็นสองเท่าจากไตรมาสแรกที่หายไป 6 แสนคน แต่ก็ยังเป็นจำนวนน้อยกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ตอนแรกว่าอาจจะเสียสมาชิกไปถึง 2 ล้านคน ทำให้ตอนนี้ Netflix มีผู้ใช้งาน 220.67 ล้านคนทั่วโลก และ 73.28 ล้านคนในสหรัฐและแคนาดา

Netflix กล่าวว่าจากการวิจัยของบริษัท Nielsen ส่วนแบ่งระยะเวลาการดูทีวีของ Netflix เพิ่มขึ้น 7.7% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนมิถุนยนที่ผ่านมา ส่วนรายรับของบริษัทก็เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ 7,300 ล้านดอลล่าร์ เป็น 7,970 ล้านดอลล่าร์ จากกระแสของซีรีส์สุดฮิต Stranger Things ซีซั่นล่าสุด ที่ทำสถิติเป็นซีรีส์ที่คนรับชมมากที่สุดเป็นอันดับสองรองจาก Squid Game

แพ็คเกจราคาถูกมีโฆษณา จะมีหนังและซีรีส์น้อยกว่าแพ็คเกจปกติ

นอกจากนี้ยังพูดถึงแพ็คเกจที่มีโฆษณาว่าหนังและซีรีส์บางส่วนอาจจะไม่ได้ใส่เข้ามาให้กับผู้ใช้งานในแพ็คเกจนี้เนื่องจากปัญหาลิขสิทธิ์แต่ Netflix ก็กำลังเคลียร์กับทางสตูดิโอผู้สร้างทั้งหลายอยู่ โดยกล่าวว่า “สมมุติถ้าเราเปิดตัวแพ็คเกจแบบมีโฆษณาออกมาแต่หนังและซีรีส์มาไม่ครบก็ยังเชื่อว่าผู้ใช้งานจะได้รับประสบการณ์ที่ดีอยู่ เพราะคอนเทนต์ที่หายไปเป็นแค่บางส่วนเท่านั้น และเราก็ไม่คิดว่าจะเป็นอุปสรรคต่อธุรกิจแต่อย่างใด

ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าหนังและซีรีส์ในแพ็คเกจที่มีโฆษณาของ Netflix จะหายไปมากน้อยแค่ไหน และราคาจะถูกขนาดที่จะยอมดูโฆษณากันรึเปล่า…แต่เอาจริง ๆ บางคนอาจคิดหนักถ้าพบว่าซีรีส์เรื่องโปรดของเราไม่ได้มีให้ดูในแพ็คเกจนี้ด้วย

 

ที่มา : theverge