สหราชอาณาจักร (UK) เริ่มบังคับใช้กฎหมาย Online Safety Act อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้การเข้าถึงเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่มีการคัดกรองที่เข้มงวดยิ่งขึ้น โดยผู้ใช้จะต้องทำการ “ยืนยันอายุ” ด้วยวิธีต่างๆ เช่น ถ่ายภาพเซลฟี่เพื่อยืนยันตัวตน

กฎหมายใหม่ดังกล่าว อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Ofcom (หน่วยงานกำกับดูแลสื่อของ UK) โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กหรือเยาวชนเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่พึงประสงค์ได้แบบง่ายๆ โดยเว็บไซต์ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎดังกล่าว อาจต้องเจอโทษปรับมหาศาลถึง 18 ล้านปอนด์ (ประมาณ 790 ล้านบาท) หรือ 10% ของรายได้บริษัท

สิ่งที่น่าสนใจคือ กฎหมายที่ว่าไม่ได้จำกัดหรือบังคับใช้แค่เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่อย่าง Pornhub แต่ครอบคลุมไปถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่อนุญาตให้มีการเผยแพร่เนื้อหาแบบเปิดกว้าง ซึ่งหลายๆ แพลตฟอร์มก็ได้เริ่มนำระบบยืนยันอายุมาใช้แล้ว เช่น Reddit และ Bluesky ไปจนถึง X ที่มีแผนจะใช้ AI สำหรับสแกนใบหน้าเพื่อประเมินอายุ

สำหรับแนวทางการยืนยันตัวตนที่ทาง Ofcom ได้เสนอเอาไว้นั้น ก็มีอยู่มากถึง 7 วิธีเพื่อให้แต่ละแพลตฟอร์มได้เลือกใช้ตามความเหมาะสมหรือความต้องการของแพลตฟอร์มนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็น

  • ประเมินจากอีเมล (Email-based Age Estimation): วิเคราะห์ประวัติการใช้อีเมลกับบริการอื่นๆ เช่น ธนาคาร เพื่อประเมินช่วงอายุของผู้ใช้
  • สแกนใบหน้าเพื่อประเมินอายุ (Facial Age Estimation): ใช้ AI วิเคราะห์ใบหน้าจากรูปถ่ายหรือวิดีโอเพื่อประเมินว่าผู้ใช้อายุเกิน 18 ปีหรือไม่
  • ใช้เอกสารราชการคู่กับรูปถ่าย (Photo ID Matching): อัปโหลดรูปถ่ายเอกสารที่ระบุอายุ (เช่น ใบขับขี่, พาสปอร์ต) พร้อมกับถ่ายเซลฟี่เพื่อยืนยันว่าเป็นบุคคลเดียวกัน
  • ตรวจสอบผ่านบัตรเครดิต (Credit Card Checks): ระบบจะตรวจสอบว่าบัตรเครดิตที่ยื่นตรวจสอบมานั้น ผู้ถือบัตรเป็นผู้ใหญ่จริงๆ
  • ใช้ Digital ID Wallet: ยืนยันตัวตนผ่านบริการกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ตนเองใช้อยู่ โดยสามารถเลือกได้ว่าจะแชร์แค่ข้อมูลอายุขอ งตนเองก็ได้ และไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลอื่น
  • ตรวจสอบผ่านผู้ให้บริการมือถือ (Mobile Network Operator): ตรวจสอบจากเบอร์โทรศัพท์ที่ผูกกับสัญญาแบบรายเดือนว่าเจ้าของเบอร์มีอายุผ่านเกณฑ์หรือยัง
  • ตรวจสอบผ่าน Open Banking: อนุญาตให้ผู้ให้บริการหรือแพลตฟอร์มนั้นๆ เข้าถึงข้อมูลบัญชีธนาคารเพื่อยืนยันอายุของเรา โดยที่แพลตฟอร์มนั้นๆ จะไม่เห็นข้อมูลธุรกรรมของเรา

ซึ่งวิธีการยืนยันอายุในแต่ละข้อก็ได้สร้างความกังวลให้กับกลุ่มผู้ใช้งานอยู่พอสมควรว่า ข้อมูลจะรั่วไหลหรือเปล่า เพราะการต้องให้ข้อมูลส่วนตัวที่ละเอียดอ่อนอย่างใบหน้า, บัตรประชาชน, หรือข้อมูลธนาคาร เพื่อแลกกับการเข้าถึงเนื้อหาที่ต้องการนั้น ก็ถือเป็นเรื่องที่หลายคนไม่สบายใจเท่าไหร่

ส่วนคนที่คิดจะใช้ VPN (Virtual Private Network) เพื่อเปลี่ยนตำแหน่งที่อยู่ไปประเทศอื่น ทางรัฐบาล UK ก็เตรียมรับมือไว้แล้วด้วย เพราะกฎหมาย Online Safety Act ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า “หากแพลตฟอร์มหรือเว็บไซต์ใดๆ โปรโมตหรือเผยแพร่เนื้อหาที่สนับสนุนให้คนใช้ VPN เพื่อเลี่ยงการตรวจสอบอายุ ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย”

คงต้องติดตามกันต่อไปครับว่ามาตรการดังกล่าวของ Ofcom จะได้ผลจริงตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้มั้ย และจะกลายเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่นๆ รวมไปถึงประเทศไทยเอาไปทำตามกันด้วยหรือเปล่า

ที่มา: BBC 1, BBC 2