สาวก Samsung หลาย ๆ คนน่าจะกำลังรออัปเดต One UI เวอร์ชั่นใหม่กันอยู่ โดยล่าสุดมีการเปิดเผยข้อมูล One UI 5 ที่มีพื้นฐานอยู่บนระบบ Android 13 ออกมาให้ชมกันแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมากับฟีเจอร์ใหม่ ๆ รวมไปถึงการปรับปรุงหน้าตาของ UI ให้ดูดีขึ้น ส่วนจะมีอะไรน่าสนใจบ้างไปดูกันครับ
ปรับปรุงแถบการแจ้งเตือนใหม่
มีการปรับเปลี่ยนหน้าตาของแถบการแจ้งเตือนจากเวอร์ชัน One UI 4 นิดหน่อย ด้วยการเปลี่ยนไอคอนการแจ้งเตือนใหม่ มีการปรับความทึบของแถบการตั้งค่าด่วนลงมาเล็กน้อย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นเปลี่ยนแปลงแบบยกเครื่องใหม่ แต่ก็ทำให้ความรู้สึกในการใช้งานแตกต่างไปได้เหมือนกันนะ
One UI 4/ One UI 5
กล่องข้อความแจ้งเตือนขออนุญาต
สิ่งที่ดูจะเป็นเรื่องเซอร์ไพรซ์คือการที่ One UI 5 ใช้กล่องข้อความการแจ้งเตือนเริ่มต้นของระบบ Android แทนของเดิมที่เป็นดีไซน์ของ Samsung เอง ซึ่งก็อาจเป็นเรื่องที่ดีเพราะทางฝ่ายพัฒนาจะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการออกแบบอะไรที่มันไม่ค่อยจำเป็นมากนั่นเอง
One UI 4/ One UI 5
การตรวจจับข้อความในรูปภาพ
Samsung เพิ่มฟีเจอร์ OCR (Optical Character Recognition) ที่จะสามารถคัดลอกข้อความที่อยู่บนรูปภาพได้เมื่อระบบตรวจพบตัวอักษรในรูป หลายคนน่าจะคุ้นๆ กับฟีเจอร์นี้อยู่บ้าง เพราะว่าฟีเจอร์นี้เคยอยู่ใน Bixby Vision มาก่อนนั่นเอง
Security and Privacy Hub
ในส่วนนี้จะไม่มีการเพิ่มฟีเจอร์จาก One UI 4 แต่จะเป็นการรวมบัญชี รหัสผ่าน ความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวไว้ในฟีเจอร์เดียวทำให้เข้าถึงทุกอย่างได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถค้นหาแอปที่ผิดปกติและอาจเสี่ยงต่อความปลอดภัยของระบบ และช่วยป้องกันได้อย่างถูกต้องด้วย
การสั่งงานด้วยท่าทางแบบใหม่
มีการเพิ่มการสั่งงานด้วยท่าทาง (Gesture) มาใหม่ 2 แบบ ใน One UI 5 อย่างแรกคือการปัดหน้าจอขึ้นด้วย 2 นิ้วเพื่อใช้โหมดแยกจอ ส่วนอีกอย่างคือการปัดจากมุมขวาบนถึงบริเวณกลางจอเพื่อสร้างหน้าต่าง Pop-Up ขึ้นมา
การเปลี่ยนแปลงทั่วไป
- การทำงานร่วมกับผู้ใช้คนอื่นบนแอป Samsung Note (เขียน / แก้ไข / แชร์)
- แอปที่กำลังทพงานอยู่เบื้องหลัง ในแถบการตั้งค่าด่วน
- โชว์รูปรุ่นมือถือในหน้า About Phone
- ตัวเลือกเปิด-ปิด UWB (Ultra-wideband) ในเมนูการตั้งค่า
จะเห็นได้ว่าการอัปเดต One UI 5 ที่เราได้เห็นกันคราวนี้ ดูแล้วอาจจะไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นแค่การเปลี่ยนดีไซน์เล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น ซึ่งอาจหมายความว่า Samsung เน้นไปที่ความเร็วในการอัปเดต นั่นเอง แต่ไม่แน่ว่าในตัวอัปเดตเต็ม ๆ อาจมีฟีเจอร์อื่น ๆ เพิ่มเติมเข้ามาด้วยก็ได้ครับ
ที่มา : 9to5google
Comment