เผลอแป๊บเดียวปี 2565 ก็เดินทางมาถึงเดือนที่ 3 จนจะเข้าเดือนที่ 4 อยู่แล้ว ปีนี้สมาร์ทโฟนเรือธงมีความน่าสนใจมากเป็นพิเศษ จากการที่ชิปไฮเอนด์ของ 3 ค่ายยักษ์ใหญ่ได้ยกระดับกระบวนการผลิต จาก 5 นาโนเมตร เป็น 4 นาโนเมตร พร้อมอัปเกรดสถาปัตยกรรมซีพียู Armv8 ที่ใช้งานมานานหลายปีเป็น Armv9 ซึ่งทรงพลังกว่าเดิมแทบทุกภาคส่วน และจนถึงตอนนี้ก็มีสมาร์ทโฟนเรือธงที่เปิดตัวและเดินทางเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยแล้วหลายรุ่น เช่น เช่น Galaxy S22 Series, Xiaomi 12 Series, Motorola edge 30 Pro
- Samsung
– Galaxy S22
– Galaxy S22+
– Galaxy S22 Ultra
– Galaxy S21 FE - Xiaomi
– Xiaomi 12
– Xiaomi 12 Pro - Motorola
– Motorola edge 30 Pro - realme
– realme GT 2 Pro
Samsung Galaxy S22
มีประเด็นให้แฟน ๆ ได้ลุ้นกันตัวโก่งตั้งแต่ก่อนเปิดตัวกับเรื่องที่ว่า Samsung จะนำ Galaxy S22 โมเดลที่ใช้ชิป Exynos 2200 หรือ Snapdragon 8 Gen 1 มาทำตลาดในประเทศไทยกันแน่ และสุดท้ายเป็นฝ่ายหลังที่ได้ถูกเลือก ซึ่งน่าจะถูกใจสำหรับหลาย ๆ คนที่ถามหาชิปไฮเอนด์จาก Qualcomm มานานหลายปี
Galaxy S22 ถูกชูจุดเด่นในด้านความฉลาดของหน่วยประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ หรือที่เรียกย่อ ๆ ว่า NPU โดยมีการนำมาประยุกต์เข้ากับการทำงานหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการถ่ายภาพที่ Samsung เคลมว่า มันสามารถจดจำและแยกแยะวัตถุหลายอย่างจากภาพหลายเฟรมพร้อมกันได้ในคราวเดียว ควบคู่ไปกับการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมและการตรวจจับใบหน้า ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ Computer photography ที่ล้ำหน้ากว่าเดิม กดชัตเตอร์ปุ๊บ ได้ภาพสวยปั๊บ นอกจากนี้ยังละลายฉากหลังได้สมจริงในโหมดพอร์เทรตและโฟกัสติดตามวัตถุได้แม่นยำยิ่งขึ้นด้วย
สเปค SAMSUNG GALAXY S22
- จอภาพ : Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.1 นิ้ว
– ความละเอียด FHD+
– อัตรารีเฟรช 48-120Hz
– อัตราตอบสนองการสัมผัส 240Hz - ชิป : Snapdragon 8 Gen 1
- หน่วยความจำ : RAM 8 + 128GB / 256GB
- กล้องหลัง :
– กล้องหลัก 50MP, รูรับแสง f/1.8, ระบบโฟกัส Dual Pixel
– กล้องอัลตราไวด์ 12MP, รูรับแสง f/2.2, มุมกว้าง 120 องศา
– กล้องเทเลโฟโต 10MP, รูรับแสง f/2.4, ซูมออปติคัล 3 เท่า, ระบบกันสั่น OIS - กล้องหน้า : 10MP, รูรับแสง f/2.2
- เครือข่าย : 5G
- การเชื่อมต่อ :
– Wi-Fi 6
– Bluetooth 5.2
– NFC - พอร์ต : USB Type-C
- แบตเตอรี่ 3700mAh
– รองรับชาร์จไว 25W
– รองรับชาร์จไร้สาย 15W - ระบบปฏิบัติการ : One UI 4.1 บนพื้นฐาน Android 12
- ความทนทาน : ทนน้ำและฝุ่น IP68
- ขนาด : 70.6 x 146 x 7.6 มม.
- น้ำหนัก : 168 กรัม
ราคาเปิดตัว
- Samsung Galaxy S22 รุ่น RAM 8 + 128GB : ราคา 29,900 บาท
- Samsung Galaxy S22 รุ่น RAM 8+ 256 GB : ราคา 31,900 บาท
ดูข้อมูลเพิ่มเติม : Samsung Galaxy S22
Samsung Galaxy S22+
Galaxy S22+ เปรียบเสมือน Galaxy S22 เวอร์ชันขยายร่าง จากหน้าจอ 6.1 นิ้ว เป็น 6.6 นิ้ว หลัก ๆ แล้วฮาร์ดแวร์ของทั้งคู่ไม่ได้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญเท่าไหร่นัก เว้นเสียแต่แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นตามตัวเครื่องและอัปเกรดเทคโนโลยีชาร์จไวจาก 25W เป็น 45W ส่วนชาร์จไร้สายยังรองรับเท่าเดิมที่ 15W
สเปค SAMSUNG GALAXY S22+
- จอภาพ : Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.6 นิ้ว
– ความละเอียด FHD+
– อัตรารีเฟรช 48 – 120Hz
– อัตราตอบสนองการสัมผัส 240Hz - ชิป : Snapdragon 8 Gen 1
- หน่วยความจำ : RAM 8 + 128GB / 256GB
- กล้องหลัง :
– กล้องหลัก 50MP, รูรับแสง f/1.8, ระบบโฟกัส Dual Pixel
– กล้องอัลตราไวด์ 12MP, รูรับแสง f/2.2, มุมกว้าง 120 องศา
– กล้องเทเลโฟโต 10MP, รูรับแสง f/2.4, ซูมออปติคัล 3 เท่า, ระบบกันสั่น OIS - กล้องหน้า : 10MP, รูรับแสง f/2.2
- เครือข่าย : 5G
- การเชื่อมต่อ :
– Wi-Fi 6E
– Bluetooth 5.2
– NFC
– UWB - พอร์ต : USB Type-C
- แบตเตอรี่ 4500mAh
– รองรับชาร์จไว 45W
– รองรับชาร์จไร้สาย 15W - ระบบปฏิบัติการ : One UI 4.1 บนพื้นฐาน Android 12
- ความทนทาน : ทนน้ำและฝุ่น IP68
- ขนาด : 75.8 x 157.4 x 7.6 มม.
- น้ำหนัก : 196 กรัม
ราคาเปิดตัว
- Samsung Galaxy S22+ รุ่น RAM 8 + 128GB : ราคา 34,900 บาท
- Samsung Galaxy S22+ รุ่น RAM 8+ 256 GB : ราคา 36,900 บาท
ดูข้อมูลเพิ่มเติม : Samsung Galaxy S22+
Samsung Galaxy S22 Ultra
Galaxy S22 Ultra เป็นรุ่นที่ “ฉีกกฎ” ที่สุดเมื่อเทียบกับ S22+ และ S22 ตามที่ Samsung ได้เปรยเอาไว้ตั้งแต่แรก ทั้งในส่วนของหน้าตาที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงและคุณสมบัติในการใช้งานร่วมกับ S Pen อย่างเต็มฟังก์ชัน เพราะมันคือตัวตายตัวแทนของ Galaxy Note Series ที่ได้ยุบไลน์อัปไปแล้ว โดยจะเห็นได้ว่า รอบนี้มีทั้งปากกาและช่องเก็บปากกามาให้ในตัวเครื่องเลย ไม่ต้องซื้อแยกเหมือนตอน Galaxy S21 Ultra อีกต่อไป
อาจด้วยเหตุผลข้างต้น ประกอบกับการที่ Galaxy Note Series หายหน้าหายตาไปนานจนแฟน ๆ คิดถึง ทำให้ Galaxy S22 Ultra เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดในจำนวน 3 รุ่นของ Samsung มีส่วนสำคัญอย่างมากในการทำลายสถิติด้านยอดขายในเกาหลีใต้และอินเดีย
สเปค SAMSUNG GALAXY S22 ULTRA
- จอภาพ : Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.8 นิ้ว
– ความละเอียด QHD+
– อัตรารีเฟรช 1 – 120Hz
– อัตราตอบสนองการสัมผัส 240Hz - ชิป : Snapdragon 8 Gen 1
- หน่วยความจำ : RAM 8 + 128GB ; RAM 12 + 256GB / 512GB / 1TB
- กล้องหลัง :
– กล้องหลัก 108MP, รูรับแสง f/1.8, ระบบโฟกัส Dual Pixel
– กล้องอัลตราไวด์ 12MP, รูรับแสง f/2.2, มุมกว้าง 120 องศา
– กล้องเทเลโฟโต 10MP, รูรับแสง f/2.4, ซูมออปติคัล 3 เท่า
– กล้องเทเลโฟโต 10MP, รูรับแสง f/4.9, ซูมออปติคัล 10 เท่า
– รองรับ Space Zoom สูงสุด 100 เท่า - กล้องหน้า : 40MP, รูรับแสง f/2.2
- เครือข่าย : 5G
- การเชื่อมต่อ :
– Wi-Fi 6E
– Bluetooth 5.2
– NFC
– UWB - พอร์ต : USB Type-C
- แบตเตอรี่ 5000mAh
– รองรับชาร์จไว 45W
– รองรับชาร์จไร้สาย 15W - ระบบปฏิบัติการ : One UI 4.1 บนพื้นฐาน Android 12
- ความทนทาน : ทนน้ำและฝุ่น IP68
- ขนาด : 77.9 x 163.3 x 8.9 มม.
- น้ำหนัก : 229 กรัม
ราคาเปิดตัว
- Samsung Galaxy S22 Ultra รุ่น RAM 8 + 128GB : ราคา 39,900 บาท
- Samsung Galaxy S22 Ultra รุ่น RAM 12+ 256 GB : ราคา 43,900 บาท
- Samsung Galaxy S22 Ultra รุ่น RAM 12+ 512 GB : ราคา 47,900 บาท
ดูข้อมูลเพิ่มเติม : Samsung Galaxy S22 Ultra
Samsung Galaxy S21 FE
จากปัญหาชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลน ทำให้ Galaxy S21 FE ต้องเลื่อนการเปิดตัวอยู่หลายหน แถมเคยมีข่าวลือว่า Samsung อาจต้องจำใจยอมยกเลิกการผลิตไป แต่สุดท้ายมันก็โผล่ออกมาให้เราได้ยลโฉมกัน ถึงแม้จะต้องรอกันข้ามปีก็ตามที
Galaxy S21 FE มากับชิป Exynos 2100 ตัวเดียวกับที่อยู่ใน Galaxy S21 Series รุ่นอื่น ๆ อาจไม่ใช่ชิปใหม่ล่าสุด แต่ประสิทธิภาพยังล้นเหลืออยู่ ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนอยากได้ประสบการณ์การใช้งานของแฟล็กชิปโดยที่ไม่ได้อยากจ่ายแพงขนาด Galaxy S22 Series เจ้านี่ดูเป็นตัวเลือกที่เข้าท่าไม่เบาทีเดียว และมีการสนับสนุนด้านซอฟต์แวร์ที่ยาวนานแบบที่หาไม่ได้จาก Android ยี่ห้อไหน ๆ คือ อัปเดตระบบปฏิบัติการนาน 4 ปี ส่วนแพตช์ความปลอดภัยได้ 5 ปี
สเปค SAMSUNG GALAXY S21 FE
- จอภาพ : Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.4 นิ้ว
– ความละเอียด FHD+
– อัตรารีเฟรช 120Hz
– อัตราตอบสนองการสัมผัส 240Hz - ชิป : Exynos 2100
- หน่วยความจำ : RAM 8
- สตอเรจ : 128GB / 256GB
- กล้องหลัง :
– กล้องหลัก 12MP, รูรับแสง f/1.8, ระบบโฟกัส Dual Pixel, ระบบกันสั่น OIS
– กล้องอัลตราไวด์ 12MP, รูรับแสง f/2.2, มุมกว้าง 123 องศา
– กล้องเทเลโฟโต 8MP, รูรับแสง f/2.4, ระบบโฟกัส PDAF, ระบบกันสั่น OIS, ซูมออปติคัล 3 เท่า - กล้องหน้า : 32MP, รูรับแสง f/2.2
- เครือข่าย : 5G
- การเชื่อมต่อ :
– Wi-Fi 6
– Bluetooth 5
– NFC - พอร์ต : USB Type-C
- แบตเตอรี่ 4500mAh
– รองรับชาร์จไว 25W
– รองรับชาร์จไร้สาย 15W - ระบบปฏิบัติการ : One UI 4 บนพื้นฐาน Android 12
- ความทนทาน : ทนน้ำและฝุ่น IP68
- ขนาด : 155.7 x 74.5 x 7.9 มม.
- น้ำหนัก : 177 กรัม
ราคาเปิดตัว
- Samsung Galaxy S21 FE รุ่น RAM 8 + 128GB : ราคา 22,900 บาท
- Samsung Galaxy S21 FE รุ่น RAM 8 + 256GB : ราคา 25,900 บาท
ดูข้อมูลเพิ่มเติม : Samsung Galaxy S21 FE
Xiaomi 12
พอ Qualcomm ออกชิปรุ่นใหม่มาทีไร Xiaomi มักจะเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่ได้ประเดิมนำไปใช้งานกับผลิตภัณฑ์ของตัวเองอยู่เสมอ และในคราวนี้ก็เช่นกัน กับ Snapdragon 8 Gen 1 ใน Xiaomi 12 และ 12 Pro
Xiaomi 12 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่มากับจอภาพ 12-bit แสดงผลได้ 6 หมื่น 8 พันล้านสี ลื่นไหลด้วยอัตรารีเฟรช 120Hz พร้อมดันความสว่างสูงสุดได้ 1,100 นิต การันตีคุณภาพระดับ A+ โดย DisplayMate ในขณะที่ด้านเสียงมีลำโพงสเตอรีโอที่ผ่านการปรับจูนโดย harman/kardon พร้อมเสริมความกระหึ่มด้วย Dolby Atmos ส่วนกล้องหลัก 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 50MP กล้องอัลตราไวด์ 13MP และกล้องเทเลมาโคร 5MP
ประเด็นน่าสนใจเพิ่มเติม คือ หน้าจอ Xiaomi 12 มีขนาดเพียง 6.28 นิ้ว เป็นหนแรกในรอบหลายปีที่ Xiaomi กลับมาทำเรือธงขนาดกะทัดรัดนับตั้งแต่ Mi 8 นู่นเลย นอกจากนี้ตัวเครื่องยังถูกออกแบบให้มีความโค้งมนเพื่อสอดรับเข้ากับฝ่ามือได้อย่างเหมาะเจาะอีกด้วย
สเปค XIAOMI 12
- จอภาพ : OLED ขนาด 6.28 นิ้ว
– ความละเอียด FHD+
– อัตรารีเฟรช 120Hz
– ขอบเขตสี DCI-P3
– ความลึกสี 12-bit
– ความสว่างสูงสุด 1100 นิต
– รองรับ Dolby Vision
– รองรับ HDR10+
– อัตราส่วนคอนทราสต์ 5,000,000:1
– กระจก Corning Gorilla Glass Victus - ชิป : Snapdragon 8 Gen 1
- หน่วยความจำ : LPDDR5 8GB /12GB
- สตอเรจ : UFS 3.1 256GB
- กล้องหลัง :
– กล้องหลัก : 50MP, เซนเซอร์ IMX766 ขนาด 1/1.56 นิ้ว, รูรับแสง ƒ/1.88, ระบบกันสั่น OIS
– กล้องอัลตราไวด์ : 13MP, มุมกว้าง 123 องศา, รูรับแสง ƒ/ 2.4
– กล้องเทเลมาโคร : 5MP, ระยะโฟกัสอัตโนมัติ 3 – 7 ซม., ความยาวโฟกัสเทียบเท่า 50 มม. - กล้องหน้า : 32MP, มุมกว้าง 80.5 องศา
- เสียง : ลำโพงสเตอรีโอ
– ปรับแต่งโดย Harman Kardon
– รองรับ Dolby Atmos - เครือข่าย : 5G
- การเชื่อมต่อ :
– Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/ax
– Bluetooth 5.1 - แบตเตอรี่ : 4500mAh
– รองรับชาร์จไว 67W
– รองรับชาร์จไร้สาย 50W
– รองรับชาร์จย้อนกลับ 10W - เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
- ระบบปฏิบัติการ : MIUI 13 บนพื้นฐาน Android 12
- ขนาด : 152.7 × 69.9 × 8.16 มม.
- น้ำหนัก : 179 กรัม
ราคาเปิดตัว
- Xiaomi 12 รุ่น RAM 8 + 256GB : ราคา 24,990 บาท
- Xiaomi 12 รุ่น RAM 12 + 256GB : ราคา 26,990 บาท
ดูข้อมูลเพิ่มเติม : Xiaomi 12
Xiaomi 12 Pro
Xiaomi 12 Pro มีหน้าจอ 6.73 นิ้ว ใหญ่กว่า Xiaomi 12 ขึ้นมาพอสมควร อีกทั้งยังได้เทคโนโลยี LTPO ที่สามารถปรับอัตรารีเฟรชได้อย่างยืดหยุ่นตั้งแต่ 1Hz จนถึง 120Hz ช่วยให้ประหยัดพลังงาน และมีอัตราส่วนคอนทราสต์ที่สูงมาก ๆ ถึง 8,000,000:1
Xiaomi 12 Pro อัปเกรดชุดกล้องหลังมาใช้งานเป็นเซนเซอร์ความละเอียด 50MP เท่ากันทั้งหมด ประกอบด้วย กล้องหลัก กล้องอัลตราไวด์ และกล้องเทเลโฟโต ด้วยประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลภาพและหน่วยประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ที่ทรงพลังขึ้น มันจึงโฟกัสติดตามวัตถุและใบหน้าได้แม่นยำแน่นหนึบกว่าเดิม ซึ่ง Xiaomi เรียกฟีเจอร์นี้ว่า CyberFocus
ความเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ที่เราไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก คือ ระบบระบายความร้อนที่ถูกยกเครื่องใหม่ให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิม เป็นผลมาจากการที่วิศวกรของบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการออกแบบเมนบอร์ดให้มีขนาดเล็กลง
สเปค XIAOMI 12 PRO
- จอภาพ : OLED แบบ LTPO ขนาด 6.73 นิ้ว
– ความละเอียด 2K
– อัตรารีเฟรช 120Hz
– ขอบเขตสี DCI-P3
– ความลึกสี 10-bit
– ความสว่างสูงสุด 1500 นิต
– รองรับ Dolby Vision
– รองรับ HDR10+
– อัตราส่วนคอนทราสต์ 8,000,000:1
– กระจก Corning Gorilla Glass Victus - ชิป : Snapdragon 8 Gen 1
- หน่วยความจำ : LPDDR5 12GB
- สตอเรจ : UFS 3.1 256GB
- กล้องหลัง :
– กล้องหลัก : 50MP, เซนเซอร์ IMX707 ขนาด 1/1.28 นิ้ว, รูรับแสง ƒ/1.9, ระบบกันสั่น OIS
– กล้องอัลตราไวด์ : 50MP, มุมกว้าง 115 องศา, รูรับแสง ƒ/ 2.2
– กล้องเทโฟโต : 50MP, ความยาวโฟกัสเทียบเท่า 48 มม. - กล้องหน้า : 32MP, มุมกว้าง 80.5 องศา
- เสียง : ลำโพงสเตอรีโอ
– ปรับแต่งโดย Harman Kardon
– รองรับ Dolby Atmos - เครือข่าย : 5G
- การเชื่อมต่อ :
– Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/ax
– Bluetooth 5.1 - แบตเตอรี่ : 4600mAh
– รองรับชาร์จไว 120W
– รองรับชาร์จไร้สาย 50W
– รองรับชาร์จย้อนกลับ 10W - เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
- ระบบปฏิบัติการ : MIUI 13 บนพื้นฐาน Android 12
- ขนาด : 163.6 × 74.6 × 8.16 มม.
- น้ำหนัก : 205 กรัม
ราคาเปิดตัว
- Xiaomi 12 Pro รุ่น RAM 12 + 256GB : ราคา 31,990 บาท
ดูข้อมูลเพิ่มเติม : Xiaomi 12 Pro
Motorola edge 30 Pro
Motorola edge 30 Pro สร้างเสียงฮือฮาอย่างมากในทันทีหลังจากประกาศค่าตัวออกมา 22,999 บาท ราคาถูกที่สุดเหนือทุกแบรนด์จนถึงขณะนี้หากเทียบกับกลุ่มเรือธงที่วางจำหน่ายในประเทศไทย โดย Motorola ได้ประกาศตั้งแต่ในงานแถลงข่าวแล้วว่า กลยุทธ์ในปีนี้ของบริษัทฯ คือ “เน้นไปที่ความคุ้มค่าต่อราคา”
Motorola edge 30 Pro จัดเต็มฮาร์ดแวร์มาแบบไม่มีกั๊ก ชิป หน้าจอ กล้อง แบต ระบบชาร์จ ไม่น้อยหน้าค่ายไหน อีกทั้งยังรองรับโหมด Ready For สำหรับเชื่อมต่อกับทีวี มอนิเตอร์ หรือพีซี ในรูปแบบเดสก์ท็อปอีกต่างหาก
สเปค MOTOROLA EDGE 30 PRO
- จอภาพ : OLED ขนาด 6.7 นิ้ว
– ความละเอียด FHD+
– ความสว่างสูงสุด 1024 นิต
– อัตรารีเฟรช 144Hz
– อัตราตอบสนองการสัมผัส 576Hz
– ความลึกสี 10-bit
– ขอบเขตสี DCI-P3
– รองรับ HDR10+ - ชิป : Snapdragon 8 Gen 1
- หน่วยความจำ : RAM LPDDR5 12GB
- สตอเรจ : ROM UFS 3.1 256GB
- กล้องหลัง :
– กล้องหลัก 50MP, ระบบโฟกัส All Pixel Focus, ระบบกันสั่น OIS
– กล้องอัลตราไวด์มาโคร 50MP, มุมกว้าง 114 องศา, ระยะโฟกัสใกล้สุด 2.5 ซม.
– กล้องจับความลึก 2MP - กล้องหน้า : 60MP
- เสียง : ลำโพงสเตอรีโอ
– รองรับ Dolby Atmos - การเชื่อมต่อ : 5G
- พอร์ต : USB Type-C
- แบตเตอรี่ : 4800mAh
– รองรับชาร์จไว 68W
– รองรับชาร์จไร้สาย 15W
– รองรับชาร์จไร้สายย้อนกลับ 5W - ระบบปฏิบัติการ : MYUI 3.0 บนพื้นฐาน Android 12
ราคาเปิดตัว
- Motorola edge 30 Pro : ราคา 22,999 บาท
ดูข้อมูลเพิ่มเติม : Motorola edge 30 Pro
realme GT 2 Pro
อาจกล่าวได้ว่า realme GT 2 Pro เป็นมือถือสำหรับคนรักษ์โลกอย่างแท้จริง และทำมันโดยไม่จำเป็นต้องเลิกแถมหัวชาร์จมาในกล่อง แนวทางของ realme คือ ปรับลดการใช้พลาสติกของบรรจุภัณฑ์ให้ได้มากที่สุดและแทนที่บางส่วนด้วยกระดาษแข็ง พร้อมกับเลือกใช้วัสดุฝาหลังตัวเครื่องเป็นพอลีเมอร์ชีวภาพที่สังเคราะห์ขึ้นมาจากเยื่อกระดาษและซากพืชต่าง ๆ โดยบริษัทฯ เคลมว่า กระบวนการนี้ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนอันเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดภาวะเรือนกระจกได้มากถึง 35%
realme GT 2 Pro มีชุดกล้องหลังที่โดดเด่น กล้องหลักใช้เซนเซอร์ IMX766 ยอดนิยม ความละเอียด 50MP ในขณะที่กล้องอัลตราไวด์ 50MP รับภาพได้ 150 องศา เทียบเท่าเลนส์ฟิชอาย กว้างที่สุดเท่าที่หาได้จากในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน และกล้องตัวสุดท้ายเป็นกล้องไมโครสโคป หรือกล้องจุลทรรศน์ กำลังขยายสูงสุด 40 เท่า มองเห็นได้ยันเม็ดฝุ่นเล็ก ๆ
สเปค REALME GT 2 PRO
- จอภาพ : AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว
– อัตรารีเฟรช 1 – 120Hz
– ความละเอียด 3216 x 1440 พิกเซล
– ควมสว่างสูงสุด 1400 นิต
– คอนทราสต์ 5,000,000 : 1
– ขอบเขตสี 100% ของ DCI-P3
– ความลึกสี 10-bit
– ความคลาดเคลื่อนสี JNCD ≈ 0.5
– ปรับความสว่างได้ 10,240 ระดับ
– กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass Victus - ชิป : Snapdragon 8 Gen 1
- หน่วยความจำ : RAM LPDDR5 12GB
- สตอเรจ : UFS 3.1 256GB
- กล้องหลัง :
– กล้องหลัก 50MP, เซนเซอร์ IMX766, ระบบกันสั่น OIS
– กล้องอัลตราไวด์ 50MP, มุมกว้าง 150 องศา
– กล้องไมโครสโคป, กำลังขยาย 20 – 40 เท่า, ระยะโฟกัสใกล้สุด 4.7 มม. - กล้องหน้า : 32MP
- เสียง : ลำโพงคู่สเตอรีโอ, รองรับ Dolby Atmos
- เครือข่าย : 5G
- การเชื่อมต่อ :
– Wi-Fi 6
– Bluetooth 5.2
– NFC - แบตเตอรี่ : 5000mAh, รองรับชาร์จไว 65W
- เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
- ระบบปฏิบัติการ : realme UI 3.0 บนพื้นฐาน Android 12
ราคาเปิดตัว
- realme GT 2 Pro : ราคา 24,990 บาท
ดูข้อมูลเพิ่มเติม : realme GT 2 Pro
Comment