ใครที่เลี่ยงไม่สมัครพร้อมเพย์ และขอคืนเงินภาษีเป็นเช็คอยู่ ฟังข่าวนี้ตอนแรกอาจจะมีสะดุ้งได้ เพราะกรมสรรพากรประกาศยกเลิกคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.90 ภ.ง.ด.91) เป็นเช็คไปเรียบร้อย จะใช้วิธีโอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์แทนเป็นหลัก แต่ก่อนจะตกใจต้องบอกว่าเค้ายังไม่ถึงกับหักดิบ เพราะใครไม่มีพร้อมเพย์ยังสามารถรับเงินภาษีได้จากธนาคารที่รัฐบาลกำหนดได้อยู่นะ
กรมสรรพากรคืนภาษีเงินได้ปี 61 ด้วยวิธีใดบ้าง?
1. ขอคืนภาษีทางพร้อมเพย์
1. การคืนภาษีฯ ผ่านบัญชีพร้อมเพย์นั้นจะต้องเป็นบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกด้วยเลขประจำตัวประชาชน เพื่อป้องกันความผิดพลาด ซึ่งจากการเก็บข้อมูลของกรมสรรพากร เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2561 พบว่ากว่าร้อยละ 70 ของคนที่ขอคืนภาษี ขอรับคืนผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชน
2. ขอคืนภาษีทางธนาคาร
สำหรับคนที่ไม่มีบัญชีพร้อมเพย์ แต่ได้คืนภาษี ทางกรมสรรพากรจะมีหนังสือแจ้งคืนเงินให้ทางไปรษณีย์ ให้นำหนังสือดังกล่าวพร้อมด้วยบัตรประจำตัวประชาชน และหรือเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องไปติดต่อเพื่อขอรับเงินคืนได้ที่ธนาคารธนาคารกรุงไทย หรือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ภายในวันที่ที่ระบุไว้ในหนังสือ
สำหรับผู้ที่ยังไม่เข้าใจในเรื่องการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเรามีข้อมูลคร่าวๆ มาฝากกันค่ะ ซึ่งหากต้องการข้อมูลโดยละเอียดสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ของกรมสรรพากร
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คืออะไร
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันสักนิดว่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาคืออะไร และใครบ้างที่ต้องเสียภาษี ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาคือภาษีที่จัดเก็บจากบุคคลทั่วไป หรือจากหน่วยภาษีที่มีลักษณะพิเศษ ตามที่กฎหมายกำหนด และมีรายได้เกิดขึ้นตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยปกติแล้วจะจัดเก็บเป็นรายปี ซึ่งผู้มีรายได้มีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีที่กำหนดภายในเดือนมกราคมถึงมีนาคมของปีถัดไป
ใครบ้างต้องเสียภาษีเงินได้ (ภ.ง.ด.90 ภ.ง.ด.91)
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ได้แก่ ผู้ที่มีเงินได้เกิดขึ้นระหว่างปีที่ผ่านมา โดยมีสถานะอย่างหนึ่งอย่างใด ดังนี้
1) บุคคลธรรมดา
2) ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
3) ผู้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี
4) กองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง
5) วิสาหกิจชุมชน ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน เฉพาะที่เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
เงินได้ประเภทใดบ้างที่ต้องเสียภาษี
- เงินได้ประเภทที่1 เงินได้จากการจ้างงาน เช่น เงินเดือน, ค่าล่วงเวลา, ค่าเบี้ยเลี้ยง, โบนัส ,บำเน็จ และบำนาญ เป็นต้น
- เงินได้ประเภทที่2 เงินได้จากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำ หรือจากการรับทำงานให้ เช่น ค่าธรรมเนียม, ค่านายหน้า, ค่าส่วนลด,เบี้ยประชุม เป็นต้น
- เงินได้ประเภทที่3 เงินได้จากค่าลิขสิทธิ์ หรือสิทธิอย่างอื่น, ค่ากู๊ดวิลล์, เงินรายปีจากพินับกรรมเป็นต้น
- เงินได้ประเภทที่4 เงินได้จากดอกเบี้ยเงินฝาก, เงินปันผล, ส่วนแบ่งกำไร, เงินลด-เพิ่มทุน,และโอนหุ้น เป้นต้น
- เงินได้ประเภทที่5 เงินได้จากค่าเช่าทรัพย์สิน, ผิดสัญญาเช่าซื้อ, การผิดสัญญาซื้อขายเงินผ่อน
- เงินได้ประเภทที่6 เงินได้จากวิชาชีพอิสระ เช่น วิชากฎหมาย การประกอบโรคศิลป วิศวกรรม สถาปัตยกรรม การบัญชี ประณีตศิลปกรรม หรือวิชาชีพอื่นซึ่งจะได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดชนิดไว้
- เงินได้ประเภทที่7 เงินได้จากการรับเหมา ซึ่งผู้รับเหมาต้องลงทุนในส่วนอื่นๆ นอกจากเครื่องมือ
- เงินได้ประเภทที่8 เงินได้จากการธุรกิจ, การพาณิชย์, เกษตรกรรม การขนส่ง หรือ การขายอสังหาริมทรัพย์
สำหรับผู้ที่มีข้อสงสัยว่าตนเองเข้าข่ายผู้เสียภาษีหรือไม่ หรือจะได้เงินคืนเท่าไหร่ สามารถสอบถามได้ที่ สำนักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศ หรือศูนย์สารนิเทศสรรพากร โทร.1161 ค่ะ
ที่มา www.rd.go.th
ตัดแปะมาไม่ครบนะ
(8) เงินได้จากการธุรกิจ การพาณิชย์ การเกษตร การอุตสาหกรรม การขนส่ง หรือการอื่นนอกจากที่ระบุไว้ใน (1) ถึง (7) แล้ว
ปีนี้ผมได้เงินคืนภาษีมาเรียบร้อยแล้ว เงินโอนเข้าบัญชีผ่านระบบ PromptPay รวดเร็วดี
คือคนที่ไม่สะดวก promptpay แล้วจะรอเอกสารไปรับเงินนะครับ อยากรู้ว่า วันที่ระบุในเอกสาร จะได้ช่วงเวลาเท่าไหร่จากวันที่ได้รับเอกสาร เช่นได้เอกสาร วันที่ 1/2/2562 แล้ววันที่ระบุจะยาวไปอีกกี่วัน