AMD (NASDAQ: AMD) – Lisa Su ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ AMD เผยไลน์ผลิตภัณฑ์ที่กำลังจะเปิดตัวใหม่อย่างกราฟฟิกการ์ด Radeon RX Series ที่จะเข้ามาพลิกโฉมวงการพีซีเกมมิ่ง โดยกราฟฟิกการ์ดดังกล่าวจะส่งมอบประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมพร้อมฟีเจอร์เด็ด พร้อมวางจำหน่ายในราคาที่ใครๆก็เป็นเจ้าของได้ ก่อนหน้านี้ AMD ได้เปิดตัวกราฟฟิกการ์ด Radeon RX 480 ออกแบบสำหรับให้เล่นเกม AAA ในความละเอียด1440p ได้อย่างลื่นไหล สำหรับประสบการณ์ VR ระดับพรีเมี่ยม ในราคาเริ่มต้นเพียง $199 สำหรับเวอร์ชั่น 4GB นอกจากนี้แล้วยังมีตัวใหม่ล่าสุดอย่าง Radeon RX 470 เพื่อการเล่นเกมระดับ HD และ Radeon RX 460 เพื่อการเล่นเกม e-sports อีกด้วย
Radeon RX Series จะให้ประโยชน์กับเกมเมอร์และนักพัฒนาในสามเรื่องหลักๆ ดังต่อไปนี้
• ประสบการณ์ด้าน VR อันแสนพิเศษในราคาที่ไม่มีค่ายใดเสนอมาก่อน – Radeon RX Series จะให้ใช้งานด้าน VR ได้ในหลาย form factor และเข้าถึงผู้ใช้งานหลายล้านคน อันเป็นผลมาจากต้นทุนการเริ่มใช้งานที่ลดลง
• ให้เกมเมอร์เล่นเกมสุดพิเศษได้แบบเรียลไทม์ – ด้วยประสิทธิภาพของ Radeon RX Series และ API แบบ close-to-the-metal AMD เชื่อว่านักพัฒนาจะสามารถร่วมกันพัฒนาคอนเทนต์สำหรับเกมที่มีคุณภาพสูงสำหรับพีซีและคอนโซล
• ประสิทธิภาพ GPU สำหรับโน้ตบุ๊คแบบ thin และ light – โน้ตบุ๊คสำหรับเกมมิ่งมีขนาดใหญ่และหนัก หรือไม่ตอบโจทย์ความต้องการด้านเกมมิ่งเท่าที่ควร Radeon RX Series ได้แก้ปัญหาเหล่านี้ด้วยเทคโนโลยีที่จะมอบให้กับผู้ใช้งาน GPU แบบพกพกที่สามารถเทียบได้กับคอนโซล ด้วยอัตราการใช้พลังงานที่น้อยลงและ low-z height เพื่อเป็นขุมพลังให้กับโน้ตบุ๊คสำหรับเกมมิ่งที่เบา บาง และคุณภาพสูง สำหรับเกมมิ่งแบบ1080p 60Hz พร้อมใช้งานกับทั้ง eSports และ AAA
“ปัจจุบันนี้เกมเมอร์ที่ใช้งานพีซี 16 เปอร์เซ็นต์เลือกซื้อ GPU สำหรับประสบการณ์เกมมิ่งและ VR ระดับพรีเมี่ยม ในขณะที่เกมเมอร์จำนวนมากต้องทนใช้เทคโนโลยีที่ล้าสมัย และยิ่งไปกว่านั้นคนอีกจำนวนหนึ่งได้แต่เพียงสัมผัสประสบการณ์ VR ผ่านจากการอ่านเท่านั้น แต่ด้วย Radeon RX Series จะให้ทุกคนได้สัมผัสกับเทคโนโลยี VR และเกมมิ่งระดับไฮเอนด์ได้อย่างทั่วถึง” Raja Koduri รองประธานกรรมการอาวุโสและผู้อำนวยการด้านสถาปัตยกรรมแห่ง Radeon Technologies Group ของ AMD กล่าว
เกมเมอร์ที่ต้องการใช้กราฟฟิกการ์ดที่ยอดเยี่ยมก็จะมองหาสิ่งแปลกใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้โดย Radeon RX Series ประกอบไปด้วย
• เทคโนโลยีอันเหนือชั้นที่ได้รับการออกแบบเพื่อส่งมอบประสิทธิภาพที่ไม่เคยมีมาก่อน – Radeon RX Series จะมาพร้อมกับกราฟฟิกและเทคโนโลยีสำหรับเกมมิ่งขั้นสูงในกราฟฟิกการ์ดที่จะวางจำหน่ายในราคาที่ต่ำกว่า $300 พร้อมให้ผู้ที่สนใจใช้งานในพีซีและ VR Radeon RX Series ใช้สถาปัตยกรรม Polaris สำหรับกระบวนการ 14nm FinFET ซึ่งเป็นกระบวนการที่ล้ำสมัย ที่สุดที่ใช้ทรานซิสเตอร์ขนาดเล็กที่สุดใน GPU
• ประสบการณ์ VR อันสุดพิเศษเพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้งานจำนวนมากขึ้น – Radeon RX 480 ในราคาเริ่มต้นที่ $199 จะมีความสามารถด้านกราฟฟิกที่จำเป็นสำหรับการใช้งาน VR บนพีซี จาก Oculus และ HTC
• เทคโนโลยี Future-proof – Radeon RX Series เป็นการตอกย้ำความก้าวหน้าทางนวัตกรรมของ Radeon ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี14nm FinFET ตัวแรก มีการเลือกใช้ HBM เป็นตัวแรก และมีกราฟฟิกการ์ดที่รองรับเกมมิ่ง ที่จะช่วยลด API overhead นอกจากนี้เกมเมอร์จะได้รับประโยชน์จาก
o DirectX 12 และ Vulkanสำหรับเกมมิ่ง – Radeon RX Series สถาปัตยกรรม Polaris จะรองรับ DirectX 9, DirectX 10, DirectX 11, DirectX 12 และ Vulkan สถาปัตยกรรม Polaris จะมีการ asynchronous compute ในแอพพลิเคชั่นเกมและ VR ที่ใช้ DirectX 12 และ Vulkan จะให้ผู้ใช้งานสัมผัสกับคอนเทนต์ VR อันน่าตื่นตาตื่นใจ โดยได้ร่วมมือกับนักพัฒนาทั่วโลกที่ต้องการพัฒนาบน Radeon
o เทคโนโลยีการแสดงผล next-generation – Radeon RX Series จะรองรับ next-generation HDR gaming และการแสดงผลวิดีโอบนจอ HDR และทีวี นอกจากนี้ Radeon RX Series ยังรองรับ HDMI 2.0b และ DisplayPort 1.3/1.4 สำหรับ HDR ความละเอียดสูงรุ่นใหม่และการแสดงผลแบบ high-refresh Radeon RX Series มีฟีเจอร์อื่นๆ เช่น H.265 encoding และ decoding ซึ่งจะช่วยให้สตรีมหรือบันทึกวิดีโอขนาด10-bit 4K ที่ 60 FPS ได้อย่างลื่นไหล
o ซอฟต์แวร์ Radoen ที่ได้รับการออกแบบเพื่อประสิทธิภาพ ฟีเจอร์ ความมีเสถียรภาพ เพื่อการให้ใช้งานได้อย่างลื่นไหลและรวดเร็ว
เกี่ยวกับ AMD: เป็นเวลากว่า 45 ปีที่ AMD สร้างสรรค์นวัตกรรมการประมวลผลประสิทธิภาพสูง กราฟฟิก และเทคโนโลยีการแสดงผล ซึ่งเป็นส่วนสำคัญสำหรับเกมมิ่ง immersive platform และศูนย์ข้อมูล (data center) ลูกค้ากว่าร้อยล้านคนของเรา รวมถึงบริษัทชั้นนำที่ถูกจัดอันดับให้อยู่ใน Fortune 500 และหน่วยงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ต่างใช้เทคโนโลยีของ AMD ในการเพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน รวมถึงนำมาช่วยในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น และเพิ่มความเพลิดเพลินสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ พนักงานของเราทั่วโลกต่างมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่จะทำให้สามารถก้าวข้ามข้อจำกัดเดิมๆ ท่านสามารถเยี่ยมชม website, blog, Facebook และ Twitter เพื่อศึกษาเรื่องราวเพิ่มเติมของเราในการทำให้ปัจจุบัน เป็นจริงในขณะที่เราจุดประกายอนาคตอย่างต่อเนื่อง
ยุค FinFET 14 nm สินะ จะได้ไม่ร้อนแน่ๆ