ตอนนี้เวบ blognone ได้ทำการสัมภาษณ์คุณกริช เจริญผลดี ผู้พัฒนาคีย์บอร์ด TSwipe ไปแล้วดังกระทู้ต่อไปนี้
http://www.blognone.com/news/20741
ส่วนเนื้อหาก็ขอ copy มาบางส่วนเพื่อให้ได้อ่านกันนะครับ
สวัสดีครับ ผมชื่อ กริช เจริญผลดี อายุ 31 ปี เรียนจบปริญญาตรีมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม เป็นโปรแกรมเมอร์อิสระ ผมได้เริ่มศึกษาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ด้วยตัวเอง จากหนังสือและซอร์สโค้ดโปรแกรมต่างๆ ตั้งแต่ อายุ 15 ปี สมัยเครื่อง 486dx ได้ทำการศึกษาการเขียนโปรแกรมหลากหลายภาษา ได้แก่ Assembly, C, C++, Pascal, Visual Basic, Java, Perl, PHP, และอื่นๆ
รวมถึงการแกะข้อมูลคอมพิวเตอร์ เข้ารหัสและถอดรหัสของโปรแกรมอีกด้วย จนถึงตอนนี้มีความมั่นใจอยู่ระดับหนึ่งในการที่จะเขียนโปรแกรมด้วยภาษาอะไรก็ได้ ตามแต่ความเหมาะสมที่โปรแกรมนั้นควรจะเป็น
ผลงานหลักๆที่ผ่านมา
ปี 2540 รับงานทำโปรเจคจบปริญญาตรี ใช้ C เขียนควบคุมกล้องวีดีโอ แยกแยะวัตถุ
ปี 2541 รับงานทำโปรเจคจบปริญญาโท ใช้ C เขียน GUI บนวินโดวส์ เพื่อคำนวณการไหลของก๊าซ
ปี 2546-2550 ทำงานให้กับบริษัท ITS เกี่ยวข้องกับวงการอุตสาหกรรม มีโอกาสทำหลายโปรเจค ที่ใหญ่ที่สุดคือโปรเจคสนามบินสุวรรณภูมิ เขียนโปรแกรมเพื่อติดต่อนำข้อมูลของระบบเบื้องหลังเกือบทุกระบบลงฐานข้อมูล
และยังมีโปรเจคระบบเตือนภัยของทางราชการอีกหลายโปรเจค
ปี 2549 YGB (Yulgang Bot) พัฒนาโดยใช้ ภาษา Pascal, Assembly เป็นหลัก ตัวนี้เป็นโปรแกรมช่วยเล่นเกม Yulgang Online ต้องใช้ความรู้ในการแกะข้อมูลคอมพิวเตอร์ และถอดรหัสเป็นอย่างมากในการพัฒนา ต่อมาหลังจากที่มีการออกพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
พ.ศ. 2550 จึงได้เลิกพัฒนาไป
ปี 2551 The Meaning (Simple, Fast and Useful Dictionary) พัฒนาโดยใช้ภาษา C++ เพราะต้องการดิกชันนารีบนวินโดส์เอาไว้ใช้เอง ตัวนี้ใช้ฐานข้อมูล Microsoft Access เป็นหลัก มีฐานข้อมูลคำศัพท์หลายภาษา สามารถหาคำแปลเป็นประโยค และแสดงผล (เหมาะกับคนเรียนภาษาญี่ปุ่น ภาษาจีน อย่างมาก)
ปี 2553 TSwipe พัฒนาโดยใช้ ภาษา Java เป็นหลักมีส่วนประกอบของ C และ Assembly ในส่วนอัลกอริทึมต่างๆ
TSwipe เกิดขึ้นมาจากที่ผมได้ซื้อเครื่อง Samsung Galaxy S ที่มาพร้อมกับ Swype แต่กลับพบว่า
ไม่สามารถลากคำที่ภาษาไทยได้และจะใช้ภาษาไทยทีก็ต้องเปลี่ยนคีย์บอร์ดทีทำให้เสียเวลา ก็เลยตัดสินใจเขียนคีย์บอร์ดขึ้นมาใช้เองเลย ดังนั้นโปรเจคนี้จึงเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2553 หลังจากที่ได้รับเครื่องใหม่มาไม่กี่วัน
ในการพัฒนาก็มีข้อบกพร่องมากมาย ทำให้มีการพัฒนาอัลกอริทึมหลายชนิด เพื่อปรับปรุงแก้ไข้ข้อบกพร่องเหล่านั้น จนได้ผลออกมาเป็น TSwipe อย่างที่เห็นกันอยู่นี้ และผมก็ยังพัฒนามาเรื่อยๆ จนถึงวันนี้ (25 ธันวาคม 2553) ก็รวมเวลาทั้งหมด 6 เดือนเต็มพอดี
ณ วันนี้เสียงตอบรับจากการใช้งานโปรแกรมก็ถือว่าน่าพอใจมาก แม้แต่คนต่างชาติเองก็ใช้ผลิตภัณฑ์นี้อยู่ไม่ใช่น้อยเลย แต่ตัวผมเองยังไม่ได้พอใจกับการขายปลีกอยู่แบบนี้ ความคาดหวังจริงๆ แล้ว จะเป็นการที่มีผู้ผลิตมือถือที่มองเห็นถึงคุณค่าในโปรแกรมและนำไปติดตั้งในผลิตภัณฑ์ต่างๆ
หมายเหตุ: ผลงานทั้งหมดผมพัฒนาด้วยตัวคนเดียว และทุกอัลกอริทึมถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ ไม่ได้มีการนำของบุคคลอื่นมาใช้เลยแม้แต่ส่วนเดียว และมีทีมงานช่วยเหลือด้านอื่นๆ เช่น การคัดเลือกคำศัพท์ ดูแลเว็บไซต์ เป็นต้น
ถ้าใครสนใจอยากถามอะไรก็อาจจะถามที่กระทู้นี้ก็ได้ แล้วผมจะเอามาตอบให้ครับ แต่อยากให้ไปถามตอบใน blognone มากกว่าเพราะว่าคุณ กริชจะตอบด้วยตัวเองเลยครับ ตอนนี้ก็ถามตอบกันไป 60 กว่าโพสแล้ว
สุดยอดเลยพี่ ฝากแก้ framework-res ให้หน่อยจิ
เป็นแรงบรรดานใจไห้ผมที่เพิ่งอายุ17 และเพิ่งศึกษาอย่างจริงๆจังๆ T^T
เก่งมากเลยครับ !
ฝากอีกเรื่องครับ ผมใช้ Optimus One P500 เวลาจิ้มคีย์บอร์ด แล้วจะพลาด
ไปโดนตัวข้างๆแทน แต่ลองใช้ตัวคีย์บอร์ดอื่น เช่น keyboard pro
จะสามารถจิ้มได้ถูกต้องเกือบหมด แต่โดยรวมแล้วด้านอื่นๆ Tswipe เหนือกว่า
เลยไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะ layout หน้าจอมันเล็กตัวหนังสือมันเบียด
เลยไม่แม่น หรือว่า เราต้องไปตั้งค่าอะไรตรงไหนครับ
คิดว่าเป็นเพราะการมีตัวหนังสือ 2 ชั้น พอเป็นจอเล็กๆ มันต้องวางเบียดกันมีการเยื้องไปจากศูนย์กลาง แล้วมันจะทำให้กะไม่ตรงได้ ส่วนใหญ่คนเราจะเล็งไปที่ตัวหนังสือเป็นหลักเป็นจิตวิทยาในการใช้งานครับ เพราะว่าหลักการเขียนโปรแกรมก็จะเหมือนๆกันหมดทุกตัวคือ เมื่อมีการกด จะมี Event ที่บอก x, y ก็จะนำค่าไปคำนวณหาตัวอักษรครับ
ถ้าอยากทดสอบว่าจริงไหม ให้ลองพิมพ์ภาษาอังกฤษดู โดยปรับ settings -> portrait -> portrait EN no alt char เป็น on ซึ่งจะทำให้ไม่แสดงตัวยกที่ keyboard แล้วลองพิมพ์ดูว่าดีขึ้นไหมนะครับ
The Meaning ผมยังใช้อยู่เลย ดีมากๆ
ตอนนี้มาใช้ Android ลง TSwipe แล้ว OK เลยครับ
ก็แอบเอะใจแล้วว่า Logo รูปไฟเนี่ยคุ้นๆ ^^
สวัสดีปีใหม่ แล้วก็ขอให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นอีกนะครับ 🙂
สู้ต่อไป สักวันผลดีจะกลับมา
สู้ๆ