มาแล้วจ้า…มือถือดีไซน์สุดเท่ แหวกแนวไม่เหมือนใคร Nothing phone (1) ที่ก่อนหน้านี้เคยเผยโฉมให้ได้เห็นความแหวกแนวไปแล้ว ด้วยตัวเครื่องด้านหลังที่มีไฟเส้น LED สีขาวสามารถกกะพริบเป็นจังหวะตามเสียงเรียกเข้า หรือ Notification ได้ แต่ก็ไม่ได้มีดีแค่รูปร่างหน้าตาเท่านั้นนะ เพราะสเปคอื่น ๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กันเลยล่ะ
หากใครยังไม่รู้จักแบรนด์นี้มาก่อนเลย ก็ขอบอกคร่าว ๆ ว่า Nothing phone (1) เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นมาโดย Carl Pei อดีตผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ OnePlus ที่ขอแยกตัวออกมาเพราะมีแนวทางเป็นของตัวเอง
ไฟ Glyph Interface กะพริบตามเสียงเรียกเข้า
จุดเด่นของ Nothing phone (1) คือเส้นไฟ LED สีขาวที่อยู่ด้านหลังเครื่อง ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถกะพริบตามเสียงเรียกเข้าได้ โดย Carl บอกว่ามันสะดวกมากหากตั้งค่าเสียงเรียกเข้าแยกแต่ละคน เพราะเวลาวางมือถือคว่ำหน้า่เอาไว้ เราจะเห็นการกะพริบที่แตกต่างออกไปและแยกแยะได้ว่าใครโทรมาแม้ตอนนั้นจะปิดเสียงเอาไว้ก็ตาม
ไฟ LED ยังกะพริบตามการแจ้งเตือน หรือเวลาเสียบชาร์จได้ด้วย และหลังจากนี้จะมีฟีเจอร์อื่น ๆ ของ Glyph Interface ตามออกมาอีกเรื่อย ๆ
หน้าจอ OLED รีเฟรชเรท 120Hz
Nothing phone (1) มากับหน้าจอแบบ OLED ขนาด 6.55 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับก่ารแสดงผลแบบ HDR10+ และเนื่องจากมันเป็นหน้าจอแบบ Flexible OLED ทำให้สามารถพับส่วนหน้าจอด้านล่างเข้าไปใต้เครื่องได้ ทำให้มือถือรุ่นนี้มีขอบจอทั้ง 4 ด้านที่บางเฉียบเท่ากัน ไม่มีขอบจอด้านล่างหนาเหมือนกับมือถือทั่วไป
กล้องหลังคู่ 50MP + 50MP
Carl Pei บอกว่ามือถือกล้องสวยไม่จำเป็นต้องมีหลายเลนส์ แถมยังบอกอีกว่ามือถือบางรุ่นใส่กล้องมาให้ 3 – 4 ตัว เพื่อให้ดูมีอะไรเท่านั้นแหละ เพราะส่วนมากก็มีแค่กล้องหลักเท่านั้นที่ถ่ายภาพออกมาได้คุณภาพดีที่สุด (แอบแซะ 555) และสำหรับ Nothing phone (1) ที่มีกล้องหลังมาให้ 2 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลักเซนเซอร์ IMX766 ความละเอียด 50MP มีระบบกันสั่น OIS + กล้อง Ultrawide ความละเอียด 50MP พร้อมระบบกันสั่นแบบ EIS รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K 30fps
สเปคแรงพอสำหรับการใช้งาน และเล่นเกม 3D
Nothing phone (1) ใช้ชิป Snapdragon 778G+ ที่สามารถเล่นเกมกราฟิกโหด ๆ อย่าง Diablo Immortal ได้สบาย แม้จะปรับกราฟิกไปที่ระดับสูง ส่วนแบตเตอรี่ให้มาที่ 4500 mAh ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานทั้งวันได้สบาย ๆ มีระบบชาร์จไวมีสาย 33W ชาร์จไร้สาย 15W และ Reverse Charge 5W ด้วย
สเปค NOTHING PHONE (1)
- หน้าจอ OLED ขนาด 6.55 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080) รีเฟรชเรท 120Hz
- CPU : Snapdragon 778G+
- RAM (LPDDR5) : 8GB
- ความจุ (UFS 3.1) : 256GB ไม่รองรับ microSD card
- กล้องหลัง 2 ตัว
– กล้องหลักเซนเซอร์ IMX766 ความละเอียด 50MP, กันสั่น OIS / EIS
– กล้อง Ultrawide ความละเอียด 50MP - กล้องหน้า : IMX471 ความละเอียด 16MP
- การเชื่อมต่อ : 5G, 4G LTE, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2, NFC
- สแกนนิ้วมือใต้จอ
- ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอ
- มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP53
- แบตเตอรี่ : 4500 mAh รองรับชาร์จไวมีสาย 33W ไร้สาย 15W (ไม่มีหัวชาร์จแถมในกล่อง)
- ขนาด / น้ำหนัก : 159.2 x 75.8 x 8.3 มม. / 193.5 กรัม
- ระบบ Android 12 ครอบด้วย Nothing OS
- สีที่วางจำหน่าย : ขาว ดำ
ราคา
Nothing phone (1) จะวางขายในประเทศไทยเฉพาะรุ่น 8GB / 256GB เท่านั้น โดยมีราคาอยู่ที่ 18,900 บาท โดยจะมีขายแบบจำกัดจำนวนในวันที่ 18 กรกฎาคมนี้ทางร้าน Carnivalbkk ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ส่วนวันที่ 1 สิงหาคมจะวางขายที่ Dotlife และ Lazada ด้วย
ตอนแรกยอมรับเลยว่าเฉย ๆ กับกระแสมาก ยิ่งชื่อยิ่งประหลาด แต่เปิดมาราคานี้แล้วน่าสนใจนะ เครื่องก็สวย (แต่ก็ยังไม่ชอบชื่ออยู่ดี 555) รอดูรีวิวค้าบบ
ดูรีวิวตั้งแต่เริ่มข่าวในช่วงแรกๆ ชอบ designที่ดูแตกต่าง มาดู Spec เต็มๆด้านบนทุกอย่างดีหมด ติดอยู่เรื่องเดียวกับราคานี้ น่าจะได้แบต 5,000mAh และชาร์ไวน่าจะได้มากกว่า 33W.
เอาจริงๆเลยนะ ไม่มีใครซื้อมือถือมาดูหลังเครื่องหรอก 😅